ไม่มีใครสอนเราเรื่องเงิน แต่ชีวิตสอนว่า…ถ้าไม่เก็บก็ใช้ชีวิตลำบาก
เราโตมาในบ้านที่ไม่ได้รวย แต่ก็ไม่ถึงกับลำบาก พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ส่งเสียเราเรียนได้ มีข้าวกินครบสามมื้อ แต่เรื่อง "เงิน" ไม่เคยเป็นหัวข้อที่พูดกันในบ้านเลย
เราไม่เคยมีใครมาสอนว่าเงินควรใช้ยังไง เก็บยังไง ใช้จ่ายแบบไหนถึงจะไม่พัง โตมาด้วยความคิดแบบว่า…มีเท่าไหร่ก็ใช้ไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
ตอนเรียนมหาลัยก็ใช้ชีวิตแบบชิล ๆ ได้เงินมาก็หมดไปกับขนม เสื้อผ้า ชานม ชาบู เที่ยวกับเพื่อน เหมือนชีวิตจะโอเคแหละ แต่พอเรียนจบ เข้าสู่โลกของการทำงานจริง ๆ นั่นแหละ ถึงเริ่มรู้สึกว่า…
> เงินมันหมดเร็วกว่าที่คิด และมันไม่มีวันพอ ถ้าเราไม่เริ่มคิดอะไรกับมันบ้าง
ทำงานแล้ว "เงินไม่เคยพอ"
ช่วงเริ่มทำงานแรก ๆ เงินเดือน 12,000 หักค่าหอ ค่ารถ ค่ากิน เหลือในบัญชีไม่ถึงพัน มีเพื่อนทักมายืมเงินกับเรานะแต่เราก็คิดว่า เราเองก็ยังต้องหาเช้ากินค่ำอยู่เลย
ไม่ใช่เพราะเราใช้เงินฟุ่มเฟือยนะ แต่เพราะเรายังไม่เคย “วางแผน” อะไรกับเงินเลยสักครั้ง ไม่เคยแยกว่าอันไหนจำเป็น อันไหนแค่ตามใจตัวเอง
จุดเปลี่ยนคือ "ไม่มีเงินตอนป่วย"
มีอยู่ช่วงหนึ่ง เราไม่สบายหนักมาก เป็นไข้จนลุกไม่ไหว อยากไปหาหมอแต่เปิดบัญชีดูเหลือเงินอยู่ 500 กว่าบาท เราก็คิดว่าเออพอซื้อค่ายสอยู่แต่มันก็นั่นเเหละมันก็ไม่ได้มีเยอะเเล้วต้องมาจ่ายกับค่ายารู้ว่ามันจำเป็นแต่มันก็แอบคิดนะว่าถ้าวันไหนเราต้องใช้เงินมากกว่าซื้อยาเราจะไปเอาเงินที่ไหน
ตอนนั้นนอนร้องไห้อยู่คนเดียวแบบรู้สึกอายชีวิตตัวเองมาก ทำไมโตมาขนาดนี้ถึงมีเงินติดบัญชีน้อยจังเราไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยเพราะตอนเรียนแม่ก็จ่ายให้ตลอด
เริ่มเก็บเงินครั้งแรกในชีวิต…วันละ 10 บาท
หลังจากนั้นเราเริ่มวางแผนเรื่องการเงิน
เราตั้งกฎกับตัวเองง่าย ๆ ว่า "ไม่ว่าเหลือเท่าไหร่ ต้องเก็บก่อนใช้"
จะ 5 บาท 10 บาท ก็ต้องแยกไว้เลย ห้ามเอามาปนกับค่าใช้อื่น
เริ่มใช้แอพจดรายรับรายจ่ายทุกวัน หักค่าใช้จ่ายไว้ล่วงหน้า จัดสรรเงินในบัญชีแบบไม่ให้ลื่นไหลเหมือนเมื่อก่อน
เราตัดของฟุ่มเฟือยทั้งหมด เลิกสั่งอาหารแพง ๆ เลิกซื้อเสื้อผ้าเล่น ๆ ทำกับข้าวเอง ใช้เงินให้น้อยลง
ผ่านไป 7 เดือน…เงินหมื่นแรกที่เราเก็บได้เอง
มันคือหมื่นบาทที่ไม่มีใครให้ ไม่ได้จากโบนัส ไม่ได้จากการยืม
เราดีใจมากเเละภูมิใจตัวเองสุดๆเรารู้สึกว่าเราทำได้เเล้ว แล้วเราก็จะทำแบบนี้ตลอดไปจดรายรับรายจ่ายทุกวัน งดซื้อของฟุ่มเฟือยจนมันทำให้เราติดเป็นนิสัย ทำกับข้าวมากินที่ทำงานทุกวัน ทำให้เราเหลือตังค์เก็บในแต่ละเดือน แล้วพอวันไหนเราไปเที่ยวเราไม่เคยคิดเรื่องบัญชีเลยว่าเงินจะพอเที่ยวไหมจะเหลือเท่าไหร่
ตอนนี้คือสบายใจสุดๆหนี้ก็ไม่มี ตังค์ก็มีอยู่ในบัญชีอุ่นใจสุดๆแต่ก็ต้องทำแบบนี้ต่อไปเพราะที่ทำอยู่ก็เเฮปปี้ดีไม่ได้ถึงขั้นฝืนตัวเองเกิน
เราขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะ เราแค่มาแชร์ประสบการณ์ของเรา
จุดเริ่มต้นหาเเนวทางเก็บเงินที่ตัวเองชอบให้เจอ ถึงจะไม่รวย เเต่เราเชื่อว่ายังไงก็ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเเน่นอน😊✌️
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"


