"ยุคใหม่ สงครามเปลี่ยนไป หรือว่าเราแค่ยังไม่พร้อม?"
ระหว่างที่ผมนั่งฟังการปาฐกถา"ของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ในงาน Unlocking Thailand’s Future มีประโยคหนึ่งสะดุดใจขึ้นมา
"งบทหารมันควรจะลดลง เพราะนี่คือยุคสงครามไซเบอร์ ไม่ใช่ยุคอาวุธอีกต่อไป"
คำพูดนั้นเหมือนคำประกาศนโยบายในยุคเปลี่ยนผ่าน บางคนอาจจะพยักหน้า บางคนอาจจะคิ้วขมวด แต่สำหรับผม มันคือคำถาม
เรากำลังอยู่ในสงครามไซเบอร์จริงหรือ? แล้วถ้าใช่ เราจะโยนอาวุธทิ้งทั้งหมดได้เลยหรือเปล่า?
โลกที่เราอยู่ทุกวันนี้ ดูเหมือนจะแยก “ความขัดแย้ง” ออกเป็นหลายระดับมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่สงครามข้อมูล ข่าวปลอม แฮกเกอร์ ไปจนถึงขีปนาวุธที่ยิงใส่กันอย่างเปิดเผยแบบที่เห็นในยูเครนหรืออิสราเอล-อิหร่าน
บางประเทศเลือกเดินเกมแบบใหม่ ไม่ใช่เพราะอยากจะทันสมัยเสมอไป แต่เพราะ "ไม่มีทางเลือกอื่น"
อย่างกรณีไทยกับกัมพูชา ล่าสุดเราก็เพิ่งเห็นความตึงเครียดเรื่องการห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภท ทั้งผัก ผลไม้ น้ำมัน ความจริงมันไม่ใช่แค่เรื่องภาษีหรือเศรษฐกิจเท่านั้น แต่มันคือการ “บีบ” เชิงยุทธศาสตร์
กัมพูชาอาจจะรู้ดีว่า ถ้าเล่นเกมปะทะทางทหารตรง ๆ พวกเขาไม่มีวันชนะไทยในแง่อาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเลือกใช้ “ช่องว่าง” แทน ใช้สงครามไซเบอร์ ใช้กฎหมาย ใช้ข้อมูล ใช้การคุมเกมสื่อ ฯลฯ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ให้เหมาะกับสิ่งที่เขามีอยู่
แต่นั่นแปลว่า เราควรลดงบทหารทันทีเลยหรือไม่?
ตรงนี้แหละที่ผมเริ่มตั้งคำถาม
ในสังคมหนึ่งจะไม่ทิ้งเครื่องมือเก่าไปง่าย ๆ ถ้ายังรู้สึกว่าโลกใบนี้ยังไม่แน่นอน เราอาจเข้าสู่ยุคสงครามไซเบอร์จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครยิงกันอีก
ถ้าเราดูยูเครน เราจะเห็นว่าทุกฝ่ายก็ใช้ทั้งสองวิธีควบคู่กัน ยิงข้อมูลพร้อมกับยิงจรวด
ในขณะที่บางประเทศอย่างเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน เขาใช้ไซเบอร์โจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเข้าสู่สนามรบเลย แต่เขาก็ยังมีขีปนาวุธสำรองไว้อยู่ดี
มันเหมือนกับการเปลี่ยนจากดาบเป็นปืน ไม่มีใครทิ้งดาบทันทีหรอก จนกว่าจะมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีดาบอีกต่อไป
แน่นอนครับ ผมเข้าใจสิ่งที่นายทักษิณพูดถึง ระบบราชการไทยไม่มีประสิทธิภาพพอจริง ๆ หลายหน่วยยัง “เก็บซากไว้เพื่อเบิกค่าน้ำมัน” หรือยังขับรถถังออกมาตอนน้ำท่วมทั้งที่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
งบทหารบางส่วนควรถูกตรวจสอบมากกว่าลดเฉย ๆ เพราะการลดโดยไม่มีกลไกที่ดี อาจทำให้เรายิ่งอ่อนแอโดยไม่จำเป็น
แล้วใครจะช่วยดูเรื่องนี้?
อดีตนายกฯ เสนอให้ "มหาวิทยาลัย" หรือคนที่เข้าใจระบบช่วยประเมิน เพราะ “นักการเมืองเข้าไปอาจถูกมองว่าแกล้ง” อันนี้ก็น่าคิด เพราะเป็นความพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งเชิงอำนาจ
แต่สุดท้ายคำถามยังคาอยู่ในหัวผม:
"การลดงบทหารในยุคสงครามไซเบอร์ เป็นความก้าวหน้าหรือแค่ความประมาท?"
หรือจริง ๆ แล้ว… เรากำลังหลงคิดว่าสงครามยุคใหม่จะไม่มีเลือด?
มนุษย์ยังคงใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเสมอ ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน
ไม่ว่าจะผ่านกระสุน หรือผ่านซอฟต์แวร์ เราก็ยังทำลายกันได้ทั้งนั้น
เราอาจไม่สามารถคาดเดาสงครามครั้งต่อไปได้หรอกครับ ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน
แต่ถ้าเรายังไม่เข้าใจว่า “สงครามเปลี่ยนหน้าได้ทุกเมื่อ” แล้วเราปรับตัวไม่ทัน
วันนั้นเราอาจไม่เหลือทั้งไซเบอร์และอาวุธไว้ใช้เลยก็ได้
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
เจาะเทรนด์ปี 2026! นิสัยและไลฟ์สไตล์ผู้ชายแบบไหนที่ "ดึงดูดใจ" สาวๆ ยุคใหม่มากที่สุด
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
พระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนา



