หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติศาสตร์ “เสียดินแดน” อาจไม่ใช่อย่างที่เราเคยเชื่อกันมา

เนื้อหาโดย หนึ่งล้านเรื่องเล่า

 

ดิฉันเพิ่งได้อ่านบทความพิเศษของคุณธงชัย วินิจจะกูล เรื่อง “เสียดินแดน” แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมาก จึงอยากนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้ลองพิจารณาไปพร้อม ๆ กันดู

 

ที่ผ่านมาเรามักจะเชื่อกันว่าไทยเคยเสียดินแดนมาแล้วถึง 14-15 ครั้ง โดยข้อมูลเหล่านี้พบได้ง่ายมากบน YouTube หรือสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งแม้แต่นักวิชาการบางท่านก็ยังเชื่อตามนั้น โดยไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานหรือที่มาของข้อมูลอย่างละเอียด

 

คุณธงชัยได้ตั้งคำถามสำคัญไว้ว่า ความรู้เกี่ยวกับ “การเสียดินแดน” ที่เรารับรู้กันในปัจจุบันนั้น มาจากหลักฐานใดแน่?

และใครเป็นผู้ตัดสินว่าไทยเคยมีอาณาเขตขนาดไหนกันแน่ก่อนจะ “เสีย” ไป?

 

แผนที่ “การเสียดินแดน” ฉบับแรกจัดทำขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2478 โดยมีการระบุการเสียดินแดนไว้เพียง 7 ครั้ง แต่ต่อมาภายหลังกลับมีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์และความรู้สึกของแนวคิดชาตินิยม จนกลายเป็น 14-15 ครั้งในปัจจุบัน โดยไม่ได้อธิบายชัดเจนว่าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการ “นับ” หรือ “ไม่นับ”

 

ประเด็นสำคัญคือ อาณาเขตของสยามในอดีตไม่เคยมีเส้นเขตแดนที่ชัดเจนอย่างในปัจจุบัน เพราะแนวคิดเรื่อง “รัฐชาติ” และ “อธิปไตยเหนือดินแดนแบบสมัยใหม่” เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เท่านั้น

 

ในสมัยก่อน ดินแดนจำนวนมากเป็น “ประเทศราช” ที่มีความสัมพันธ์ซ้อนทับกันหลายฝ่าย ไม่ได้ขึ้นตรงกับสยามแต่เพียงผู้เดียว เช่นเดียวกับที่สยามเองก็เคยส่งของกำนัลหรือยอมยกดินแดนบางส่วนให้ต่างชาติด้วยความสมัครใจหรือเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

 

ดังนั้น คำว่า “เสียดินแดน” ที่ใช้กันแพร่หลาย อาจเป็นเพียงการมองประวัติศาสตร์จากมุมของฝ่ายเรา โดยไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนกว่านั้น

 

ดิฉันเห็นว่าคำถามที่คุณธงชัยตั้งขึ้น ช่วยให้เราได้คิดทบทวนว่า ประวัติศาสตร์ที่เรารับรู้กันมานั้น มาจากข้อเท็จจริง หรือเป็นเพียงการ “มโน” ตามความรู้สึกของผู้มีอำนาจในแต่ละยุคสมัยกันแน่

 

สรุป

 

บางครั้งการได้อ่านมุมมองใหม่ ๆ อย่างมีเหตุมีผลก็ช่วยให้เรากลับมาคิดว่า การรักชาติ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเรื่องราวในอดีตที่อาจไม่ได้มีความชัดเจนเสมอไป แต่ควรรักอย่างมีสติและเข้าใจรากเหง้าของข้อมูลเหล่านั้นค่ะ

 

เนื้อหาโดย: เรื่องน่ารู้
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งวิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569เขมร มาตามนัด ประชุม GBCเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !ผัก สมุนไพร แคลอรี่ต่ำ ลดหน้าท้องรู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมืองสาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษเซตเมนูอาหารเช้า เติมพลังสมอง ช่วยให้มีสมาธิเขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”เขมรเผย "ไทยยิงปืนใหญ่ถล่ม ทำช้างเwศเมียและลูกช้างแรกเกิดตๅย"เขมร มาตามนัด ประชุม GBCลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ความสวยงามของต้นคริสต์มาส ต้นจริง ในอังกฤษสวยงามสะดุดตาเหมือนในฝันทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์"ลาบเหนียว"เมนูสีสันคนอีสานรวมกลุ่มกันอร่อยสุขสันต์ได้ทุกทีโรงพักจำปาลาว เดอะวิลล่า ที่พักที่เรานั้นจองสำหรับการพักผ่อนในคืนแรก (วังเวียง)
ตั้งกระทู้ใหม่