เดือดกลางโซเชียล! “ศรราม” ฟาดกลับคนสอนเลี้ยงลูก ลั่นชัด “ไปที่อื่นไป!”
"ลูกผม ทำไมผมอุ้มไม่ได้ครับ?" - ศรราม เทพพิทักษ์ ตอกกลับดราม่าจากชาวเน็ต หลังถูกตำหนิเรื่องเลี้ยงลูก สะท้อนสังคมออนไลน์ที่แทรกแซงแม้แต่ความรักของพ่อ
ในยุคที่โซเชียลมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนแทบทุกมิติ คนดังยิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสายตาและความเห็นจากสาธารณชนที่ทั้งจับจ้องและพร้อมจะวิจารณ์แทบทุกการกระทำ แม้กระทั่งเรื่องธรรมดาอย่าง “พ่ออุ้มลูก” ก็อาจกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ล่าสุด นักแสดงชื่อดังผู้ได้รับฉายา “ซามูไรพ่อลูกอ่อน” อย่าง หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ก็ไม่รอดพ้นกระแสดราม่าที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หลังจากที่เขาโพสต์คลิปสั้น ๆ ลงบนโซเชียลมีเดีย เป็นภาพอบอุ่นของตัวเขาเองที่อุ้มลูกสาวคนเดียวอย่าง น้องวีจิ เดินเที่ยวตลาดแบบชิล ๆ ตามสไตล์พ่อลูกติดดิน
แต่เพียงไม่นาน คลิปที่ควรจะเป็นโมเมนต์น่ารักระหว่างพ่อกับลูกก็กลับกลายเป็นสนามประลองของคอมเมนต์แนะแนวทางการเลี้ยงลูกจาก “ผู้หวังดี” ซึ่งเข้ามาแสดงความเห็นในลักษณะตักเตือน พูดจาเหน็บแนม หรือแม้กระทั่งวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ถึงพฤติกรรมของคุณพ่อศรรามที่ “อุ้มลูกสาวที่โตแล้ว” โดยใช้ถ้อยคำที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าเกินขอบเขตของความห่วงใย
จากคลิปอุ้มลูกสู่ประเด็นร้อนที่เกินกว่าเรื่องพ่อ-ลูก
ในคลิปต้นเรื่อง หนุ่ม ศรราม กำลังอุ้มน้องวีจิเดินเที่ยวอย่างอบอุ่น ชัดเจนว่าเขากำลังใช้เวลาร่วมกับลูกสาวอย่างเต็มที่ และมีความสุขกับช่วงเวลาเล็ก ๆ เหล่านั้น แต่เสียงจากชาวเน็ตบางคนกลับไม่เห็นด้วย โดยแสดงความคิดเห็นว่า:
“ลูกเดินได้แล้วค่ะพ่อ อย่าหัดอุ้มจนติดนิสัย”
“รักกันจนลืมว่าลูกโตแล้วนะ”
“น้องวีจิคนเก่ง เดินเองเถอะลูก”
ข้อความที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงในสายตาของบางคน แต่สำหรับคุณพ่อศรราม กลับรู้สึกว่ามันเป็นการล้ำเส้นในเรื่องส่วนตัวอย่างยิ่ง เพราะการเลี้ยงลูกคือพื้นที่ปลอดภัยระหว่างพ่อกับลูก ที่คนอื่นไม่ควรเข้ามาแทรกแซงโดยไม่มีความเข้าใจบริบท
คำตอบสั้น ๆ แต่ชัดเจน “ลูกผม ทำไมผมอุ้มไม่ได้ครับ?”
ไม่ใช่คนที่ชอบมีเรื่องดราม่า หนุ่ม ศรรามเลือกตอบกลับแบบสุภาพแต่เฉียบคม และตีแสกหน้าแบบไม่ต้องใช้ถ้อยคำรุนแรง โดยเขาตอบกลับสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยน้ำหนักทางอารมณ์และความจริงใจว่า:
“ลูกผม ทำไมผมอุ้มไม่ได้ครับ?”
“ไม่ได้ลืมครับ ไปที่อื่นไป”
คำตอบที่สั้น กระชับ แต่กินใจนี้กลายเป็นไวรัลทันที เพราะเป็นการตอกกลับที่แสดงจุดยืนชัดเจนของคนเป็นพ่อที่รู้จักลูกตัวเองดีที่สุด และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่งสอนในสิ่งที่เขาใส่ใจและทำด้วยความรัก
เมื่อความรักกลายเป็นเป้าหมายของการตัดสิน
หลายคนอาจเคยเห็นพ่อแม่จำนวนมากอุ้มลูกแม้ลูกจะโตพอจะเดินได้แล้ว นั่นไม่ใช่เพราะเด็กไม่สามารถเดินเองได้ แต่เพราะ “การอุ้ม” คือภาษากายของความรัก ความห่วงใย และการแสดงออกถึงสายใยความผูกพันในแบบที่ไม่มีคำพูดใดอธิบายได้ครบถ้วน
กรณีของศรราม ก็ไม่ต่างกัน เขาเพียงแต่อยากให้ลูกน้อยรู้ว่า พ่ออยู่ข้างเธอเสมอ ไม่ว่าโตแค่ไหนพ่อก็พร้อมอุ้มเสมอหากวันหนึ่งเธอรู้สึกไม่มั่นใจ เหนื่อย หรือเพียงแค่อยากได้รับความอบอุ่นเหมือนตอนยังเล็ก
เสียงสะท้อนจากโซเชียล: ดราม่าหรือการล้ำเส้น?
หลังโพสต์ของศรรามกลายเป็นไวรัล หลายเสียงในโลกออนไลน์ก็ออกมาปกป้องนักแสดงคนดังคนนี้ โดยชี้ว่าเรื่องเลี้ยงลูกเป็นเรื่องของพ่อแม่ ไม่ใช่หน้าที่ของชาวเน็ตที่จะมาสั่งสอนหรือชี้ผิดชี้ถูก
“ใครจะอุ้มลูกตัวเองก็เรื่องของเขา” “บางทีเราไม่รู้หรอกว่าเด็กเหนื่อยหรือเปล่า วันนั้นเดินเยอะไหม” “ดีกว่าเอาลูกไปฝากคนอื่นแล้วออกเที่ยวเองนะคะ”
คำวิจารณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากที่เข้าใจและยืนอยู่ข้างศรราม โดยเห็นว่าสิ่งที่เขาทำไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเรื่องธรรมชาติของคนเป็นพ่อที่ใส่ใจลูก
บทเรียนจากเหตุการณ์: เมื่อโลกออนไลน์ทำให้เราลืมเส้นแบ่งของความเหมาะสม
ในโลกที่ใคร ๆ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันทีเพียงปลายนิ้วสัมผัส การมี “พื้นที่แสดงความเห็น” กลายเป็นดาบสองคม เพราะหลายครั้งผู้คนอาจเผลอใช้สิทธิของตัวเองเข้าไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
แม้เจตนาจะดี แต่หากไม่ได้รู้จักบริบท ไม่ได้มีความเข้าใจอย่างแท้จริง คำพูดเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างบาดแผลทางใจให้ใครบางคนได้อย่างคาดไม่ถึง
ศรราม – พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่พิสูจน์ความรักด้วยการกระทำ
ศรราม เทพพิทักษ์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนบันเทิงที่แม้จะเผชิญกับบททดสอบชีวิตมากมาย แต่เขาเลือกที่จะเดินหน้าทำหน้าที่ “พ่อ” อย่างไม่ย่อท้อ
เขาดูแลน้องวีจิด้วยตัวเองมาตลอดหลังจากแยกทางกับอดีตภรรยา และไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบ แม้จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตทั้งหมดเพื่อลูก เขาก็ยินดี
ไม่แปลกที่เขาจะรู้ดีที่สุดว่าลูกต้องการอะไร และอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเธอในแต่ละช่วงวัย
ความรักไม่ต้องการคำแนะนำจากคนไม่รู้จัก
สุดท้ายแล้ว เรื่องราวดราม่า “พ่ออุ้มลูก” ของศรรามอาจดูเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่กลับเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นความจริงบางอย่างของสังคมออนไลน์ในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน
บางครั้งเราควรเรียนรู้ที่จะ “ดู” มากกว่า “วิจารณ์”
บางครั้งเราแค่ต้องการ “เข้าใจ” มากกว่า “สั่งสอน”
เพราะความรักระหว่างพ่อกับลูก…มันมีพื้นที่ของมันเอง ที่แม้แต่เสียงดังแค่ไหนจากโซเชียล ก็ควรเคารพมัน
"ลูกผม ทำไมผมอุ้มไม่ได้ครับ?"
ประโยคสั้น ๆ นี้ ไม่ใช่แค่คำถาม... แต่มันคือคำตอบของความรักจากพ่อคนหนึ่งที่ไม่ต้องการคำอธิบายใดเพิ่มเติมอีกแล้ว.
หากคุณชื่นชอบการเลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจและความใกล้ชิด ลองมองผ่านมุมของพ่อแม่คู่อื่นด้วยใจที่เปิดกว้าง และถ้าเห็นพ่อคนหนึ่งอุ้มลูกอยู่บนท้องถนน... บางที สิ่งที่เขาอุ้มอาจไม่ใช่แค่ลูกตัวเล็ก ๆ แต่คือ "โลกทั้งใบของเขาเอง".
















