เรื่องสั้น " เงาในกระจกบานเก่า "
เสียงฝนสาดกระทบหน้าต่างดังซู่ ซู่ ยามค่ำคืน "แพร" ขยับเข้ามาใกล้กองไฟในเตาผิง เธอเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านไม้เก่าแก่กลางป่าลึก ห่างไกลผู้คน แพรตั้งใจจะมาเขียนนิยายสยองขวัญให้จบ แต่บรรยากาศวังเวงของบ้านกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในนิยายของตัวเองเสียเอง
เมื่อคืนก่อน แพรได้ยินเสียงประหลาดเหมือนมีคนเดินอยู่บนชั้นสอง ทั้งที่บ้านมีเธออยู่เพียงลำพัง เธอพยายามบอกตัวเองว่าคงเป็นเสียงลม หรือไม่ก็สัตว์ป่า แต่ลึกๆ ก็อดกังวลไม่ได้
คืนนี้เสียงฝนยิ่งหนักขึ้น พัดพาความหนาวเย็นเข้ามาในบ้าน แพรตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มเพิ่มที่ห้องนอนชั้นบน ทันทีที่เท้าแตะบันไดขั้นแรก แพรก็รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกบางอย่างที่ปกคลุมอยู่รอบตัว บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นระรัว
เธอเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้าห่มผืนหนาออกจากตู้เสื้อผ้า สายตาแพรเหลือบไปเห็น กระจกบานใหญ่ ที่ตั้งอยู่มุมห้อง เป็นกระจกเก่าแก่ที่มีลวดลายแกะสลักสวยงาม แพรจำได้ว่าตอนย้ายเข้ามาใหม่ๆ เธอลืมที่จะใช้ผ้าคลุมกระจกบานนี้ไว้ตามความเชื่อโบราณที่ว่า "กระจกในห้องนอนกลางคืนไม่ควรเปิดเผย"
เธอยื่นมือไปหยิบผ้าห่มอีกผืนจากในตู้ ทันใดนั้น เงาตะคุ่มคล้ายคน ก็ปรากฏขึ้นในกระจก แพรผงะถอยหลัง หันขวับไปมองรอบห้อง ไม่มีใครอยู่! เมื่อหันกลับมาที่กระจกอีกครั้ง เงาประหลาดนั้นก็ยังคงอยู่ มันค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ ราวกับกำลังเดินออกมาจากกระจก แพรพยายามกรีดร้อง แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมาจากลำคอ ขาของเธออ่อนแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้น
เงาในกระจกเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เผยให้เห็นใบหน้าซีดขาว ดวงตาโบ๋ลึก และรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว แพรพยายามคลานถอยหนีจนแผ่นหลังชนกับกำแพง สิ่งที่อยู่ในกระจกยื่นมืออันผอมเกร็งออกมา ทะลุผ่านผิวของกระจก ราวกับไม่มีอะไรขวางกั้น มันค่อยๆ เอื้อมเข้ามาใกล้ ปลายนิ้วเย็นเฉียบของมันสัมผัสโดนปลายเท้าของเธอ ความเย็นยะเยือกแล่นขึ้นไปทั่วทั้งร่าง แพรหลับตาปี๋ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม
ทันใดนั้น เสียงฟ้าผ่าก็ดังสนั่น ตามมาด้วยเสียง กระจกแตกเพล้ง! แพรลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ สิ่งที่เธอเห็นคือกองเศษกระจกที่แตกกระจายอยู่บนพื้น และเงาประหลาดนั้นก็หายไปแล้ว ราวกับไม่เคยมีอยู่จริง แพรพยายามลุกขึ้นยืน ตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว เธอรีบวิ่งลงมาจากชั้นสองโดยไม่คิดชีวิต วิ่งออกไปนอกบ้าน ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงกระหน่ำลงมา
ตั้งแต่วันนั้น แพรก็ไม่เคยกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเลย เรื่องเล่าของเธอถูกมองว่าเป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนนิยายสยองขวัญ แต่สำหรับแพรแล้ว มันคือ ความจริงอันน่าขนลุก ที่เธอจะไม่มีวันลืมเลือน เธอมักจะเผลอมองเงาของตัวเองในกระจกอยู่เสมอ และทุกครั้งที่ทำ เธอก็จะเห็น เงาจางๆ อีกเงาหนึ่งซ้อนทับอยู่ข้างหลัง ราวกับว่ามันยังคงตามติดเธอมาไม่ห่าง











