หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นพยานสำคัญต่ออาชญากรรมของเขมรแดง และข้อเท็จจริงที่กำลังถูกลบเลือน

เนื้อหาโดย หนึ่งล้านเรื่องเล่า

 

ภาพถ่ายขาวดำของหญิงสาวรายหนึ่งที่อุ้มเด็กชายตัวน้อยวัยเพียง 5 เดือนไว้อย่างแนบอก เป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่บันทึกไว้ในเรือนจำ S-21 หรือ "ตวลสเลง" ซึ่งเคยเป็นสถานที่คุมขัง ทรมาน และสังหารประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากในช่วงระบอบเขมรแดงครองอำนาจ

 

หญิงในภาพมีชื่อว่า นางจัน กึม ซรุน ซา (Chan Kim Srun Sa) และเด็กทารกในอ้อมแขนคือบุตรชายของเธอเอง ทั้งคู่ถูกจับกุมในวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 1978 โดยถูกกล่าวหาว่าเป็น “สายลับของศัตรู” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาทั่วไปที่ถูกใช้เพื่อกวาดล้างพลเรือนโดยปราศจากหลักฐานหรือกระบวนการยุติธรรม

 

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งมารดาและบุตรชายได้ถูกประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยม โดยไม่มีแม้แต่การไต่สวนหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ภาพถ่ายเหล่านี้ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในยุคนั้น กลับมีความพยายามที่จะ ลบหรือบิดเบือนบทบาทของบุคคลบางรายที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบอบเขมรแดง อย่างชัดเจน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการระดับสูงในยุคเขมรแดง ก่อนจะลี้ภัยไปเวียดนาม แล้วหวนกลับมาพร้อมกองกำลังเวียดนามเพื่อโค่นล้มพอล พต และยึดอำนาจจนดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศมาอย่างยาวนานเกือบ 40 ปี

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้ออกกฎหมายที่มีจุดประสงค์เพื่อห้ามการ “ปฏิเสธอาชญากรรมของเขมรแดง” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการคุ้มครองเหยื่อและป้องกันการบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ในอีกด้านหนึ่ง กฎหมายฉบับนี้ กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปิดปากผู้ที่พยายามพูดถึงบทบาทของผู้นำบางคนในอดีต

 

สิ่งที่น่ากังวลคือ

 

การพูดถึงหรือวิพากษ์บทบาทของฮุน เซนในยุคเขมรแดงอาจนำไปสู่การถูกกล่าวหาว่า “บิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์”

 

ไม่มีการรื้อฟื้นหรือตรวจสอบบทบาทของผู้ที่เคยร่วมอยู่ในกลไกการปราบปรามประชาชน

 

กฎหมายถูกใช้เพื่อสร้าง “ภาพลักษณ์ใหม่” ให้กับอดีตผู้นำ โดยไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตั้งคำถามหรือตรวจสอบความจริง

 

การห้ามตั้งคำถามต่อประวัติศาสตร์ หรือการเลือกพูดถึงเฉพาะบางช่วงเวลา โดยไม่เปิดเผยอีกด้านของความจริง ย่อมไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่แท้จริง และไม่สามารถเยียวยาผู้สูญเสียได้อย่างแท้จริงเช่นกัน

 

ในขณะที่ประวัติศาสตร์ควรเป็นสิ่งที่ถูกบันทึกด้วยข้อเท็จจริงและการถอดบทเรียนจากอดีต การลบหรือเขียนซ้ำประวัติศาสตร์เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจนำไปสู่การหลงลืมบทเรียนสำคัญที่ประชาคมโลกพยายามรักษาไว้

 

"ประวัติศาสตร์ที่ห้ามตั้งคำถาม คือประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนโดยผู้ชนะ"

 

เราจึงควรตั้งคำถามอย่างมีเหตุผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ปล่อยให้ “ผู้มีมือเปื้อนเลือดในอดีต” กลายเป็น “เหยื่อ” ในหน้าประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน

 

เนื้อหาโดย: เรื่องน่ารู้
ขอบคุณคลิปจาก https://www.youtube.com/watch?v=06qIzsCT-Ps
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAVAPC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !ทภ.2 แฉภาพจรวด BM-21 เขมร ถล่มบ้าน-ชุมชน-วัด-โรงเรียน-รพ.วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษทภ.2 แฉภาพจรวด BM-21 เขมร ถล่มบ้าน-ชุมชน-วัด-โรงเรียน-รพ.“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
"ผนังบ้าน" สิ่งที่สื่อสารในความงาม และความมั่งคั่งของคนในสมัยโบราณจุดข้ามแดนช่องผัดกาด สถานที่ที่มีรถนั้นเดินทางถึง ชาวบ้านเข้าออกตลอดเวลา (ไทย-กัมพูชา)ตอนสั่ง 10 บาท พอของมา 12 บาทความสวยงามของต้นคริสต์มาส ต้นจริง ในอังกฤษสวยงามสะดุดตาเหมือนในฝัน
ตั้งกระทู้ใหม่