Zhuhai Macau บรรยากาศยามค่ำคืนการเดินสำรวจเมือง (ขาเลาะ)
ออกสำรวจเมืองยามค่ำคืน เดินเท้ากันสนุกรื่นตื่นเต้นกัน
เดินกันไปตามทางร้านสุขสันต์ เพื่อจะได้คุ้นกันหากเกิดหิว
ในคืนแรกเมื่อเรานั้นเดินทางไปถึง Zhuhai Macau เป็นสถานที่ที่มาในครั้งแรก ซึ่งพรุ่งนี้เช้าเราจะเดินทางท่อเงที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คืนนี้ต้องเป็นการพักผ่อนร่างกายก่อนที่จะเดินทางทั้งวันในวันพรุ่งนี้ ถึงโรงแรมตอนหกโมงเย็นกว่าๆ เราพากันเข้าที่พักกันเรียบร้อย จริงๆ แล้วทานอาหารเย็นกันแล้ว แต่ว่าหลังจากมาถึงโรงแรมตอนนี้เริ่มที่จะหาอาหารอร่อยทานอีกแล้ว จึงพากันเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปเลาะ สถานที่รอบโรงแรม ซึ่งเราดูกันมาแล้วว่าไม่ไกลจากโรงแรมนั้นเป็นหย่านของห้างและตลาด ที่ไม่มีหลับแม้ยามค่ำคืน
ตกลงกันที่จะไปเดินดูและเลือกซื้อของกัน หากว่ามีสิ่งที่ถูกใจ เดินเท้าน่าจะประมาณ 1 กิโลถึงที่หมาย ไม่มีปัญหาเพราะว่าอากาศดีลมเย็น
พื้นที่โดยรอบนั้นหากมองไปไม่ได้ต่างอะไรจากกรุงเทพฯ แต่หากว่ากรุงเทพฯ นั้นรถน่าจะกำลังติดแต่ที่นี่รถขับได้สบายเราเดินขึ้นสะพานเพื่อที่จะเลือกลงในสถานที่ที่เราจะไปเดินเที่ยว
สะพานที่เรานั้นเดินหากว่ามองไปทางด้านหน้านั้นจะเป็นในลักษณะของสะพานปูนแล้วมีขอบเป็นเหล็ก ลมเย็นมากเลยขึ้นมาด้านบนแล้วมองดูรอบเมืองสวยงาม แต่ว่าแสงไฟนั้นไม่ค่อยเยอะ
ในการเดินนั้นไม่ได้วังเวงหรือเงียบเหงาอะไร ด้านหน้าของเรามีผู้คนเดินกันเยอะ มีเพื่อนมากมาย ผู้คนที่นี้นั้นขยันในการเดิน น้อยนักที่จะขับรถ เพราะสถานที่บริเวณนี้นั้นมีที่เดินเล่นค่อนข้างที่จะติดกัน ข้ามสะพานถึงสะดวกกว่าการขับรถ
เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ เราสามารถที่จะเดินในการเลือกสินค้า มีทุกอย่างร้านค้านั้นจะอยู่เรียงกัน จะว่าถนนคนเดินยามค่ำคืนก็ได้ ชาวเมืองจะออกมาเดินชมร้านต่างๆ อย่างหนาตา ระหว่างที่เดินไปเราก็เจอคณะที่มากับพวกเราด้วยแต่เป็นวัยรุ่น ส่วนในวัยรุ่นเหลือน้อยนั้นนอนพักผ่อนกันแล้ว
พอเราเดินวนมาลงอีกด้านของสะพาน ตรงนี้คือห้างที่มีรวมในทุกอย่าง ด้านบนนั้นเเราเดินขึ้นพันได เดินตากแอร์ ตอนนั้นน่าจะประมาณสองทุ่มกว่า ห้างจะปิดประมาณสี่ทุ่มยังพอมีเวลาในการเดินเล่น แต่ร้านค้านั้นค่อนข้างที่จะอยู่ห่างกันมาก ร้านใหญ่ ราคาข้าวของนั้นไม่ถือว่าแพงถูกกว่าในประเทศไทยด้วย ยิ่งตอนเย็นยิ่งมีการลดราคา แปดสิบเปอร์เซ็นบ้าง เก้าสิบเปอร์เซ็น ทุกคนนั้นได้กระเป๋าคนละใบราคาถือว่าไม่แพงประมาณใบละ 500 บาทคิดเป็นเงินไทย หากว่าซื้อที่ไทยใบนี้น่าจะหนึ่งพันต้นๆ เพราะว่าสวยมาก
สาเหตุที่พากันซื้อเพราะว่าชอบในเทคนิคการขายของ ของพ่อค้าคนหล่อที่เขานั้นขึ้นไปกระทืบกระเป๋าให้เราดูเลย แรงมาก แล้วบอกว่าทนน้ำหนักได้ถึงสองร้อยกิโลกรัมกระทืบจนตกแล้วก็มาขายให้เรา
รองเท้าที่ใส่ออกมาเดินวันนั้นเพิ่งเห็นตอนที่มาที่ห้างว่าเรานั้นใส่รองเท้าของโรงแรมออกมา ตอนที่เดินนั้นไม่ได้สนใจว่าใส่อะไร คือไม่ได้เปลี่ยนก่อนที่จะออกมาเดิน พร้อมกับคิดว่าไม่ได้ออกมานาน รอบๆ โรงแรมเดี๋ยวก็กลับเข้าไปพักแล้วเลยไม่ได้เปลี่ยน เลยมาใส่รอบห้างเลย ดูกลมกลืนเป็นคนที่นี่ไปเลยเพราะว่ารองเท้า
บ้านเมืองของเขาเจริญมาก มองไปตามตึกนั้นปกคลุมไปด้วย ห้างใหญ่รอบไปหมด และไม่น่ากลัวไม่มีหลับใหล ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ผู้คนนั้นไม่รู้ว่านอนตอนไหนขยันในการเดินมาก
จริงแล้วหากว่ามองไปอีกมุมนั้นเหมือนกรุงเทพในยามค่ำคืนในบางย่านที่ผู้คนก็ไม่เคยหลับใหล แต่ว่าการเดินทางในกรุงเทพตอนกลางคืนนั้นอากาศอาจจะร้อนมากกว่า และควันพิษจากรถที่ขับในถนนส่งทำให้บรรยากาศบริเวณถนนที่เราเดินนั้นหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่ที่นี่นั้นหายใจโล่งสบายมาก
แล้วเราก็เดินมาในหย่านของกาแฟ ที่มีร้านกาแฟทุกร้านจะมารวมกันอยู่ที่นี่ คนที่นี่เขาทานกาแฟในตอนกลางคืนด้วย สี่ทุ่มยังไม่ปิดและอาจจะปิดเที่ยงคืนหากว่ายังมีลูกค้าอยู่ คึกคักมาก มองไปรอบมีแต่คนจีนหน้าตาจิ้มลิ้มกันเดินไปอย่างไม่ได้สนใจใคร อากาศตอนนี้คือถือว่าไม่หนาวมากประมาณยี่สิบองศาลมเย็นกำลังดี
เข้าร้านนี้ที่คุ้นเคยในบ้านเราเพื่อดูในราคา สำรวจว่าราคาเป็นอย่างไรแต่พอเราดูนั้นถือว่าราคานั้นถูกกว่าที่ไทยเป็นบางชิ้น บางอย่างนั้นแพงมากกว่า แต่ว่าร้านนี้ค่อนข้างที่จะใหญ่มากบริเวณนี้ หากว่าไม่ได้เตรียมของใช้ส่วนตัวมา ซื้อได้เลย ไม่ต่างมากจากราคาที่บ้านเรา
เราเดินประมาณสองชั่วโมงร้านค้ารอบเริ่มที่จะเปิดแล้วจึงพากันเดินออกมาเพื่อที่จะกลับที่พักเพื่อที่จะพักผ่อนเพราะว่าพรุ่งนี้เช้าต้องพร้อมในการออกเดินทางตอนเจ็ดโมงเช้าที่เค้าน์เตอร์ด้านล่าง จึงพากันเดินกลับทางเดิม ตอนกลับนั้นเร็วกว่าตอนมา ใช้เวลาไม่นานเราก็กลับถึงที่พัก รับอากาศเย็นของห้องที่ไม่ได้ปิดแอร์ไว้ เราใช้วิธีการแปะไว้อีกคีย์การ์ดหนึ่งเพราะว่าเรานั้นสามารถที่จะถือคีย์การ์ดสองแผ่น ทำเหมือนว่ามีคนอยู่ในห้อง พอกลับไปจะได้ไม่ต้องรอว่าแอร์จะเย็นหรือยัง
การเดินทางไปเที่ยวแล้วออกมาชมบ้านเมืองนั้นทำให้เรานั้นได้เห็นความเป็นอยู่ของบ้านเมืองเขาในยามค่ำคืน อากาศดีลมเย็นถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตา และสร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ แล้วยังเก็บในเรื่องของการติดต่อโรงแรมด้วยเผื่อว่ามีโอกาสที่จะมาอีกครั้งจะได้สะดวกในเรื่องของที่พัก





