มุมถ่ายภาพด้านหลัง นครวัดยิ่งใหญ่ดูขลัง (เสียมเรียบ)
นครวัดความยิ่งใหญ่ จากด้านหน้าเราเดินไปทะลุหลัง เดินต่อไปในป่าเขียวอุดมพันธุ์ รายรอบปราสาททางด้านหลังสวยตระการตา
วันนี้จะพามาชมสถานที่มรดกโลกของกัมพูชาในเมืองเสียมเรียบ แต่ก่อนนั้นคือเมืองหลวงของกัมพูชา ตอนเรียนภาษาเขมรนั้นอาจารย์บอกว่าภาษาที่ใช้ในเสียมเรียบนั้นคือภาษาที่อยู่ที่เสียมเรียบ
ส่วนภาษาที่เราใช้ในพนมเปญนั้นจะเรียกว่าภาษาเขมรในเมืองที่มีการผสม หากเทียบคือเราจะใช้ภาษาทางเสียมเรียบนั้นเป็นภาษากลางหรือเป็นทางการ
ภาพตรงนี้จะมีช่วงของปราสาทยื่นออกมา บริเวณนี้เหมาะมากกับการถ่ายภาพ แล้วเราออกมายืนอยู่เหมือนการทะลุมิติ ความเขียวของต้นไม้ เข้ากันได้กับความโบราณเป็นภาพที่สวยมาก
อีกตรงที่สวยคือบริเวณสะพานสระน้ำ ที่หาดว่าเรานั้นถ่ายภาพจะต้องถ่ายในช่วงที่พระอาทิตย์ตรงนั้นพอดี หากว่าเรามานอนค้างที่นี่ ตอนเช้าเราจะต้องเดินทางขึ้นมาเพื่อดูแสงแรกของตะวันสวยงามทันตามาก ครั้งหนึ่งในชีวิตนั้นต้องมาสัมผัส
เราเองมาถึงสี่ครั้งแล้วแต่ยังไม่เห็นสักครั้งเพราะว่าคนที่นี่เขาไปตั้งแต่ตอนตีสี่ แต่หากว่าเป็นคนต่างชาติจะยากหน่อย เขาให้แต่ชาวกัมพูชาเข้าไป
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ในการมาเที่ยวที่จังหวัดเสียมเรียบหรือที่เราเรียกกันว่านครวัด ซึ่งเป็นสถานที่ในการทำพิธีกรรมทางศาสนา ในตอนแรกที่มานั้นไม่สามารถที่จะขึ้นไปด้านบนสุดของปราสาทได้ เพราะวันนั้นเป็นวันพระ มีพระสงฆ์มาทำพิธีด้านบน จึงมีการปิด ครั้งที่สองนั้นขึ้นแล้วนั่งอยู่บนนั้นนานมาก และยังเดินรอบชั้นบน แต่ไม่นานก็กลับลงมา
เพื่อที่จะฟังวิทยากรบรยายในสถานที่ต่างๆ ตอนนั้นไปกับปรมาจารย์ ครั้งที่สามนั้นเป็นการเที่ยวกับเพื่อน เที่ยวเพื่อถ่ายภาพและคณะอาจารย์ที่พามาดูในตอนเช้า ปกติแล้วเราจะเข้ามาตอนเย็นเพราะอากาศนั้นร้อน
ตรงนี่นั้นชอบมาก จะมีการเล่าเรื่องราวจากภาพจิตรกรรมบนฝาผนัง เรื่องในรามเกียรติ์มีการเล่าเรื่องราวแต่ว่าช่องเขาในตรงนี้คือสวยงามมาก เวลาที่เรานั้นนั่งฟังจะดูตามช่องต่างๆ
ความบังเอิญในครั้งแรกที่เราได้มาที่นี่นั้นไม่อยากมาเพราะว่าอยากที่จะไปค่ายต่างจังหวัด แต่ด้วยความต้องการของใครคนหนึ่ง ยอมออกค่าให้ จึงทำให้ได้มาเห็นสถานที่ตรงนี้แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย กลับไปใช้ชีวิตปกติ แต่วันหนึ่งหลังจากที่เราเรียนจบ ชีวิตกลับกลายเป็นว่าเรานั้นได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศนี้ และได้มาอยู่ที่นี่นานถึงสิบปี และได้มาที่เสียมเรียบมากกว่าหกครั้ง แทบจะเรียกได้ว่าทั่วแล้วเสียมเรียบ ทุกครั้งที่ไปนั้นความรู้สึกไม่เหมือนกันในสักครั้งเลย เพราะครั้งแรกคือทัศนศึกษา ครั้งที่สองเที่ยว ครั้งที่สามไปสัมนา ครั้งที่สี่ไปหาอาจารย์ มาเที่ยวจากประเทศไทย ครั้งสุดท้ายคือไป โครงการปรับปรุงหลักสูตรแก้ไขกว่าสองอาทิตย์ ไปเดินตลาดราตรีทุกวัน แต่ชอบที่นี่ เจริญกว่าในเมืองพนมเปง อาหารอร่อยครบเรื่องทุกอย่าง อยากได้อะไรมีครบ
ในส่วนของตรงนี้นั้นไม่ใช่กรอบรูปหรืออะไร แต่คือช่องหน้าต่างที่ด้านหน้านั้นคือด้านหลังของปราสาทนครวัด ด้านหน้าทางเข้านั้นราดด้วยปูนหรือทางที่หม่มีดิน แต่พอด้านหลังนั้นจะเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่งแต่งดงามมาก เวลาที่มาเที่ยวที่นี่ จะมานั่งพักผ่อนคลายด้านหลังก่อนที่จะเดินกลับไปทางด้านหน้าเพื่อถ่ายภาพสวยหน้าปราสาท
การเดินทางมาที่นี่นอกจากจะได้เที่ยวแล้วเรายังได้ชมในเรื่องของประวัติศาสตร์หรือวรรณคดีรามเกียรติ์ซึ่งคนไทยรู้จักดี ความยิ่งใหญ่ในอดีตนั้นแสดงให้เห็นถึงความมีศิลปะในการสร้างสถาปัตยกรรมที่ประณีตคงทน เวลาที่เราเดินไปนั้นพื้นที่ในการเดินบริเวณนครวัดนั้นทำด้วยหินก้อนใหญ่หลายก้อน หากว่าเรานั้นไปเที่ยวไม่ไปในช่วงเช้า จะต้องไปในช่วงที่ตะวันจะตกหรือแดดอ่อน













