"พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ" อลังการช้างโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก น่าไปเที่ยวมากเลยน๊า...
สำหรับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ นั้นคือหนึ่งในสถาปัตยกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในประเทศไทย ด้วยรูปปั้นช้างเอราวัณสามเศียรขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนืออาคาร สร้างขึ้นจากโลหะทองแดงทั้งตัวโดยใช้เทคนิคการเคาะขึ้นรูปด้วยมืออย่างประณีตละเอียดลออ จนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นช้างเอราวัณโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงขององค์ช้างรวมตัวอาคารอยู่ที่ 43.6 เมตร หรือเทียบได้กับตึกสูงประมาณ 14 ถึง 17 ชั้น ความงดงามและความอลังการของโครงสร้างนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ที่ดึงดูดสายตา แต่ยังสะท้อนแนวคิดลึกซึ้งทางศิลปะและความเชื่อของผู้สร้างอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ นักสะสมผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ ซึ่งมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมและเรียนรู้ ไม่ใช่เพียงแค่เก็บรวบรวมสิ่งของโบราณมาไว้ในที่เดียว แต่ยังออกแบบสถานที่ให้เป็นเสมือนงานศิลป์ขนาดใหญ่ที่สื่อถึงความลึกซึ้งของคติความเชื่อ ศาสนา และปรัชญาในแบบไทยผสมผสานกับสากลได้อย่างงดงาม
เมื่อเดินเข้าสู่ภายในพิพิธภัณฑ์ เราจะได้พบกับโครงสร้างที่แบ่งออกเป็นสามระดับ ซึ่งถูกออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องไตรภูมิของจักรวาล ชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่ที่เปรียบเสมือนโลกมนุษย์ มีงานศิลปะไทยประณีตหลายแขนงจัดแสดงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานปูนปั้นที่ตกแต่งด้วยถ้วยเบญจรงค์ งานโลหะดุนลายจากดีบุก ไปจนถึงกระจกสีที่เล่าเรื่องราวความเชื่อและวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมีชีวิตชีวา จากนั้นเมื่อผ่านขึ้นมายังฐานของตัวช้าง หรือบริเวณที่เปรียบได้กับชั้นบาดาล ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์ ผ่านทางเดินที่คดเคี้ยวล้อมด้วยงานศิลปะซ่อนความหมาย ก่อนจะเข้าสู่จุดสูงสุดของพิพิธภัณฑ์ นั่นคือภายในท้องของช้างเอราวัณ ซึ่งเปรียบเสมือนชั้นสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ไว้อย่างสง่างาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบและลึกลับ ผนังภายในประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของจักรวาลและระบบสุริยะ ด้วยเทคนิคสีฝุ่นฝีมือช่างชาวเยอรมันที่งดงามจนแทบลืมหายใจ
ในด้านการเดินทาง พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน เพียงใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท มาลงที่สถานีช้างเอราวัณ (E17) แล้วออกทางออกที่ 1 จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 400 เมตรก็จะถึงพิพิธภัณฑ์อย่างง่ายดาย และในบางช่วงเวลาก็มีบริการรถรับส่งฟรีจากสถานีมาถึงหน้าพิพิธภัณฑ์อีกด้วย (แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดในวันที่เดินทาง) สิ่งเหล่านี้ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสความงดงามทางศิลปะและจิตวิญญาณของวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้งในสถานที่เพียงแห่งเดียว






