หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มิตรกลายเป็นศัตรู เปิดโปงเบื้องหลังความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน

เนื้อหาโดย แมวเอาแต่นอน

ปฏิบัติการทางทหารที่อิสราเอลใช้กับอิหร่านในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ แท้จริงแล้วความขัดแย้งนี้มีรากฐานมายาวนาน และเคยมีแผนจะปะทุขึ้นตั้งแต่ปี 2015 จุดเปลี่ยนสำคัญคืออะไร? และเหตุใดจากมิตรที่เคยแนบแน่น อิสราเอลกับอิหร่านจึงกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในวันนี้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์อันซับซ้อนนี้

ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างอิสราเอลและอิหร่านในอดีต มีปัจจัยหลักมาจาก การสนับสนุนของชาติตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษในการก่อตั้งประเทศอิสราเอลในปี 1948 เมื่ออิสราเอลก่อตั้งขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องหาพันธมิตรเพื่อคานอำนาจกับกลุ่มประเทศอาหรับที่มองว่าอิสราเอลรุกรานชาวปาเลสไตน์ หลักการ "ศัตรูของศัตรูคือมิตร" จึงถูกนำมาใช้

อิหร่าน ซึ่งเป็นชาวเปอร์เซีย ไม่ได้มองตนเองเป็นชาวอาหรับ และมีประวัติศาสตร์ความขัดแย้งกับชาวอาหรับมาอย่างยาวนาน แม้จะเป็นมุสลิมเหมือนกัน แต่อิหร่านส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนิกาย ชีอะห์ ขณะที่กลุ่มประเทศอาหรับส่วนใหญ่เป็น ซุนนี ซึ่งสองนิกายนี้มีความไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ต้น

ในช่วง สงครามเย็น ทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างก็ไม่พอใจการแผ่อิทธิพลคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต จึงร่วมมือกันเพื่อคานอำนาจ โดยมี สหรัฐอเมริกา เข้ามาเป็นพันธมิตรสำคัญ สหรัฐฯ มองว่าอิหร่านมีชัยภูมิที่สำคัญในการเป็นด่านหน้าป้องกันคอมมิวนิสต์ไหลเข้าสู่ตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ยังมี ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากน้ำมัน สหรัฐฯ ต้องการควบคุมแหล่งพลังงานสำคัญนี้ จึงทำข้อตกลงกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น อิหร่านและซาอุดีอาระเบีย ให้ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายน้ำมัน เพื่อรักษามูลค่าเงินดอลลาร์ของตนเอง สหรัฐฯ ได้ให้ผลประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะการสนับสนุนเทคโนโลยีทางการทหารและอาวุธล้ำสมัยแก่ราชวงศ์ปาห์ลาวีของอิหร่าน รวมถึงการออก "เช็คเปล่า" (The Blank Check) ที่ทำให้อิหร่านสามารถสั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ ได้แทบทุกชนิด ส่งผลให้อิหร่านกลายเป็นประเทศที่สั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ มากที่สุดในโลกช่วงทศวรรษ 1970

ที่สำคัญที่สุดคือ โครงการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ ทั้งสหรัฐฯ อิสราเอล และอิหร่าน ร่วมกันจัดตั้งทีมวิจัยและโรงงานปั่นยูเรเนียมในอิหร่าน โดยมีเป้าหมายเพื่อนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ในด้านสันติ เนื่องจากอิหร่านเล็งเห็นว่าน้ำมันมีวันหมดไป

มิตรภาพอันยาวนานต้องพังทลายลงเมื่อเกิด การปฏิวัติอิสลามในปี 1979 ประชาชนชาวอิหร่านไม่พอใจการปกครองของพระเจ้าชาปาห์ลาวีที่ผูกมิตรกับชาติตะวันตก และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ผู้นำศาสนา อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคไมนี ได้ปลุกระดมให้ประชาชนลุกฮือโค่นล้มราชวงศ์ปาห์ลาวี พระเจ้าชาต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

หลังการปฏิวัติ ผู้นำคนใหม่ของอิหร่านไม่ได้ต้องการแค่โค่นล้มราชวงศ์ แต่ยัง ขับไล่อิทธิพลของสหรัฐฯ และอิสราเอล ออกจากประเทศอย่างสิ้นเชิง อิหร่านมองว่าอิสราเอลเป็น "มะเร็งเนื้อร้าย" หรือ "ซาตานตัวน้อย" ที่มีสหรัฐฯ เป็น "ซาตานตัวใหญ่" อิหร่านบุกสถานทูตสหรัฐฯ จับตัวประกันนานกว่าหนึ่งปี ทำให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนัก และอิหร่านหันไปสนับสนุนกลุ่มปาเลสไตน์และกลุ่มอาหรับที่เป็นศัตรูของอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยไม่ยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอล และเรียกอิสราเอลว่า "พวกไซออนิสต์" ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนยิวหัวรุนแรงที่ต้องการยึดครองดินแดนผู้อื่น

อิสราเอลมองว่าอิหร่านหลังการปฏิวัติอิสลามคือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ สิ่งที่อิสราเอลหวาดกลัวที่สุดคือ โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่เคยร่วมมือกันพัฒนาเพื่อสันติภาพ บัดนี้กลับถูกมองว่าอาจถูกนำไปพัฒนาเป็นอาวุธได้

การถูกสหรัฐฯ หักหลังในอดีต (เช่น การบิดพลิ้วคำสัญญาเรื่องการผ่อนปรนการคว่ำบาตรหลังอิหร่านช่วยสหรัฐฯ ในปฏิบัติการตามล่าโอซามา บิน ลาเดน) ทำให้อิหร่านตระหนักว่าการขาดอำนาจทางทหาร โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้พวกเขาถูกต่างชาติเอารัดเอาเปรียบได้ง่าย จึงหันกลับมาจริงจังกับโครงการพัฒนานิวเคลียร์อย่างเต็มที่ นี่คือจุดที่ทำให้อิสราเอลยิ่งหวาดระแวง และเคยมีแผนจะบุกโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านหลายครั้ง รวมถึงในปี 2015 ซึ่งแผนดังกล่าวเกือบจะเกิดขึ้นจริง

เรื่องราวของอิสราเอลและอิหร่านจึงเป็นบทเรียนอันซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และศาสนา จากมิตรผู้ร่วมสร้าง สู่ศัตรูคู่อาฆาตที่พร้อมจะปะทะกันได้ทุกเมื่อ ความขัดแย้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร? และโลกจะต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนจากสองชาติคู่นี้ไปอีกนานแค่ไหน?

เนื้อหาโดย: แมวเอาแต่นอน
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
แมวเอาแต่นอน's profile


โพสท์โดย: แมวเอาแต่นอน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษเขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกเขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่เขมรหลอกเขมร! สายทหารเขมรหลุดแผนลับ "หักหลังฮุนเซน" รบในจอ รอรับตังค์ โกยเงินหลักล้าน อัดฉีดคลังแสงไม่อั้น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศเขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่สุขสันต์วันคริสต์มาส...
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สุขสันต์วันคริสต์มาส...รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ทึ่งทั่วโลก : "น้ำตกทุธสาคร" น้ำตกที่โด่งดังไปทั่วโลก หนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในอินเดียพืชพรรณไม้น่าสนใจ : รู้หรือไม่ ? สตอร์เบอร์รี่สีขาวก็มีน๊า
ตั้งกระทู้ใหม่