“ขอม” คือ สยามแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เขมร – วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ลุ่มแม่น้ำโขงและภูมิภาคอุษาคเนย์ผ่านรากฐานของชนชาติขอม
จากกระแสที่มีการสับสนระหว่าง "ขอม" กับ "เขมร" ในปัจจุบัน ทำให้เกิดข้อเข้าใจผิดในแง่ประวัติศาสตร์อย่างแพร่หลาย ซึ่งแท้จริงแล้ว “ขอม” หาใช่เขมรในความหมายสมัยใหม่ไม่ หากแต่มีรากเหง้าทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ “สยาม” อย่างลึกซึ้ง และแตกต่างจากกลุ่มชาวเขมรในยุคหลังอย่างสิ้นเชิง
ย้อนกลับไปในสมัยอาณาจักรเจนละ (Chenla) ซึ่งเป็นชื่อโบราณที่บันทึกไว้ในเอกสารจีน มีหลักฐานว่าชนกลุ่มหนึ่งจากชมพูทวีป โดยเฉพาะกลุ่ม “โจฬะ” จากอินเดียใต้ ได้เข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคนี้เป็นเวลาหลายร้อยปี ภายหลังเมื่ออำนาจของโจฬะเสื่อมถอยลง กลุ่มชนที่เหลืออยู่ซึ่งเป็น “ทมิฬเจนละ” และ “กลิงคะ” ก็ถูกราชอาณาจักรใหม่ที่รุ่งเรืองขึ้นในบริเวณเดียวกันเข้าครอบงำ
อาณาจักรขอมแห่งเมืองพระนคร ก่อตั้งโดยพระเจ้าสุริยวรมเทวะที่ 1 หรือที่บางตำนานเรียกว่า “พรศรีศิขเรศวรวรมเทวะ” มีรากฐานมาจากชาวศรีขรภูมิ (ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศไทย) เป็นผู้สร้างอำนาจของอารยธรรมขอมให้เจริญรุ่งเรืองสูงสุด ถือเป็นกษัตริย์ในสาย “วรมเทวะ” ที่หมายถึง "เทพเจ้าในตระกูลพราหมณ์และกษัตริย์" ซึ่งยึดหลักปรัชญาวิษณุไวษณพนิกายในศาสนาฮินดู
ลักษณะสำคัญของราชวงศ์วรมเทวะคือเป็นชนชั้นสูงวรรณะผสมระหว่างพราหมณ์และกษัตริย์ จึงมักตั้งพระนามว่า “พรหมเทวะ” หรือ “วรมเทวะ” เขียนตามแบบสันสกฤต โครงสร้างสังคมของอาณาจักรขอมในยุคนี้มีระบบระเบียบแบบอินเดียโบราณ มีความศรัทธาทั้งในศาสนาฮินดู (โดยเฉพาะนิกายไวษณพ) และศาสนาพุทธแบบมหายาน ต่อมาในบางช่วงก็มีการผสมผสานกับพุทธเถรวาทแบบลังกาวงศ์ตามที่ฝ่ายสยามนิยม
ข้อถกเถียงที่ว่า “ขอมคือเขมร” นั้นอาจเกิดจากความเข้าใจผิดในช่วงเวลาภายหลัง โดยเฉพาะเมื่ออาณาจักรพระนครเสื่อมลงในศตวรรษที่ 15 แล้วตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของชนพื้นถิ่นเขมรในบริเวณกัมพูชา ซึ่งขณะนั้นไม่ได้ยึดหลักสันสกฤตหรือวัฒนธรรมอินเดียแบบเดิมเท่าใดนัก
อีกประเด็นสำคัญคือ ความแตกต่างด้านคัมภีร์ศาสนา ขณะที่ฝ่ายขอมเดิมยังคงยึดถือคัมภีร์สันสกฤตและไตรเพทของพราหมณ์ ส่วนฝ่ายไทย-สยามรับเอาพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทตามแบบลังกา ใช้ภาษาบาลี และพัฒนาพระไตรปิฎกฉบับของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ การระบุว่า “ขอมคือเขมร” จึงเป็นการเหมารวมที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ขอมควรถูกระบุว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์และวัฒนธรรมสยามในยุคโบราณ ที่มีความรุ่งเรืองอย่างยิ่งในศูนย์กลางแถบอีสานใต้และลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างอารยธรรมอินเดียและจีน
สรุป
“ขอม” มีรากเหง้าจากสายราชวงศ์วรมเทวะ ไม่ใช่กลุ่มเขมรพื้นเมือง
มีศูนย์กลางวัฒนธรรมอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในปัจจุบัน
ยึดถือสันสกฤต ไตรเพท และแนวคิดแบบอินเดียโบราณ
แตกต่างจากชาวเขมรยุคหลังทั้งในด้านศาสนา ภาษา และโครงสร้างสังคม
เป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมสยามโบราณ ที่สืบต่อมาเป็นชาติไทยในเวลาต่อมา




















