เรื่องราวของดินดิม เพนกวินผู้ว่ายน้ำกว่า 5,000 ไมล์ทุกปีเพื่อพบกับผู้ที่เคยช่วยชีวิตเขา
ในปี 2011 โจอาโอ เปเรรา เดอ ซูซา ชายชาวบราซิลที่เกษียณอายุแล้วและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงใกล้ริโอเดจาเนโร ได้พบเจอเพนกวินแมกกาเลนิกขนาดเล็กที่กำลังนอนอยู่บนหาดทราย ปกคลุมด้วยคราบน้ำมันและเกือบจะตาย โจอาโอจึงช่วยล้างคราบน้ำมันออกจากขนของเพนกวินตัวนั้นและให้อาหารปลาซาร์ดีนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เขาตั้งชื่อเพนกวินตัวนี้ว่า "ดินดิม"
หลังจากที่ดินดิมฟื้นตัวดี โจอาโอนำเขาไปปล่อยใกล้เกาะเล็กๆ รอบๆ Ilha Grande แต่ดินดิมกลับว่ายน้ำกลับมาหาโจอาโอที่บ้านของเขาในวันเดียวกัน และยังคงอยู่กับโจอาโออีก 11 เดือน ดินดิมแสดงความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับโจอาโอ โดยจะส่งเสียงร้องทักทายและเล่นกับสุนัขของโจอาโออย่างสนิทสนม
เมื่อดินดิมโตเต็มวัยและมีขนใหม่ครบถ้วน โจอาโอตัดสินใจปล่อยเขาอีกครั้งในปี 2012 คราวนี้ดินดิมว่ายน้ำออกไปและไม่กลับมาในทันที แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับมาหาโจอาโออีกครั้งที่บ้านของเขา และทำเช่นนี้ซ้ำๆ ทุกปี ดินดิมจะใช้เวลาช่วงฤดูหนาวอยู่ที่บ้านของโจอาโอในบราซิล และในฤดูร้อนจะออกไปว่ายน้ำและหาอาหารร่วมกับเพนกวินอื่นๆ ในพื้นที่
ตลอดเวลาหลายปี ดินดิมและโจอาโอมีความสัมพันธ์พิเศษ ดินดิมจะแสดงพฤติกรรมเหมือนคู่รักเพนกวิน เช่น การส่งเสียงร้องและสัมผัสใบหน้าของโจอาโอด้วยจะงอยปาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เพนกวินใช้ทำความสะอาดกันและกัน
เรื่องราวของดินดิมได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากสื่อบราซิลและสื่อออนไลน์ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้มีการทำหนังสือภาพสำหรับเด็กและภาพยนตร์ในปี 2020 และ 2024 ตามลำดับ
แม้ว่าดินดิมจะไม่กลับมาที่บ้านของโจอาโออีกตั้งแต่ปี 2016 แต่เรื่องราวของความผูกพันและความซื่อสัตย์ของเพนกวินที่ว่ายน้ำกว่า 5,000 ไมล์เพื่อกลับมาพบกับผู้ช่วยชีวิตยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังของความเมตตาและความรักระหว่างมนุษย์กับสัตว์
สรุปได้ว่า ดินดิมไม่เพียงแต่เป็นเพนกวินที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์และสัตว์ ที่แสดงให้เห็นว่าแม้ในธรรมชาติ สายสัมพันธ์ที่เกิดจากความเมตตาสามารถยืนยาวและทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง
















