มาร์กาเร็ต โบฟอร์ท สตรีผู้พลิกชะตาแห่งราชวงศ์ทิวดอร์
มาร์กาเร็ต โบฟอร์ท (ค.ศ. 1443-1509) คือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ ผู้มีบทบาทอย่างยิ่งในการก่อตั้งราชวงศ์ทิวดอร์ แม้จะเกิดในช่วงสงครามร้อยปีกำลังจะสิ้นสุด และสงครามดอกกุหลาบกำลังคุกรุ่น มาร์กาเร็ตก็แตกต่างจากสตรีผู้โดดเด่นคนอื่นในยุคเดียวกัน เธอไม่ได้เข้ามามีบทบาทผ่านการแต่งงาน แต่เป็นผ่านสายเลือดในฐานะหลานทวดของจอห์น แห่งแกนต์
ชีวิตสมรสของมาร์กาเร็ตเริ่มต้นตั้งแต่เยาว์วัย โดยเธอถูกจับแต่งงานครั้งแรกกับจอห์น เดอ ลา โพล ลูกชายของวิลเลียม เดอ ลา โพล ขณะอายุเพียง 1 ขวบ การแต่งงานนี้เป็นเพียงในนาม จนกระทั่งผู้ปกครองเสียชีวิตลง เธอจึงถูกจับแต่งงานอีกครั้งกับเอ็ดมันด์ ทิวดอร์ เอิร์ลแห่งริชมอนด์ น้องชายต่างพ่อของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 6 มาร์กาเร็ตตั้งครรภ์ขณะอายุเพียง 12 ปี และคลอดบุตรชาย เฮนรี่ ทิวดอร์ (อนาคตกษัตริย์เฮนรี่ที่ 7) หลังจากที่สามีเสียชีวิตจากกาฬโรค ทำให้เธอกลายเป็นแม่ม่ายตั้งแต่อายุ 13 ปี การคลอดบุตรครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ทำให้เธออาจหวาดกลัวการมีบุตรในภายหลัง
ด้วยสถานะที่เป็นสายเลือดกษัตริย์ เฮนรี่ ทิวดอร์ จึงเป็นภัยต่อบัลลังก์ มาร์กาเร็ตจึงต้องหาพันธมิตรเพื่อปกป้องลูกชาย เธอแต่งงานครั้งที่สามกับเซอร์เฮนรี่ สแตฟฟอร์ด ผู้แสนดีและคอยปกป้องเธอและเฮนรี่อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ แม้ภาพในซีรีส์จะแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้ง แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์กลับตรงกันข้าม มาร์กาเร็ตและสามีใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเป็นที่รักของคนรอบข้าง
เมื่อกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 4 ขึ้นครองราชย์ มาร์กาเร็ตใช้ความสามารถทางการเมืองและสายสัมพันธ์พาตัวเองและสามีเข้าไปเป็นข้าราชบริพารสำคัญในราชสำนักยอร์ก เธอเป็นคนมีรสนิยมสูง ชอบเข้าสังคม และฉลาดเฉลียว ในช่วงเวลาที่การเมืองผันผวน เฮนรี่ ทิวดอร์ ต้องหลบหนีไปเบรอตาญ มาร์กาเร็ตพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำลูกชายกลับอังกฤษอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะด้วยการเจรจากับกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 4 หรือส่งสารเตือนเฮนรี่ให้ระวังกับดัก
หลังจากการสวรรคตของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 4 และการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 ซึ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการหายตัวไปอย่างลึกลับของเจ้าชายในหอคอย มาร์กาเร็ตได้ตัดสินใจลงมือเอง เธอแต่งงานเป็นครั้งที่สี่กับโทมัส สแตนลีย์ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองล้วนๆ และเริ่มสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อโค่นล้มริชาร์ดที่ 3 โดยให้คำมั่นว่าเฮนรี่จะแต่งงานกับเอลิซาเบธ แห่งยอร์ก เพื่อรวมราชวงศ์
ในที่สุด แผนการของมาร์กาเร็ตก็ประสบความสำเร็จ เมื่อเฮนรี่ ทิวดอร์ เผชิญหน้ากับริชาร์ดที่ 3 ในสมรภูมิบอสเวิร์ธ ด้วยความช่วยเหลือของโทมัส สแตนลีย์ เฮนรี่ได้รับชัยชนะและขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์เฮนรี่ที่ 7 สถาปนาราชวงศ์ทิวดอร์ มาร์กาเร็ตได้รับเกียรติสูงสุดในฐานะ "พระบรมราชชนนี" และมีบทบาทสำคัญในการบริหารราชสำนัก แม้จะมีข่าวลือเรื่องความขัดแย้งกับลูกสะใภ้ แต่ทั้งสาม (มาร์กาเร็ต, เอลิซาเบธ วูดวิลล์, และเอลิซาเบธ แห่งยอร์ก) กลับทำงานร่วมกันอย่างดี
ในช่วงท้ายของชีวิต มาร์กาเร็ตต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ทั้งหลานชายคนโต ลูกสะใภ้ และลูกชาย (กษัตริย์เฮนรี่ที่ 7) เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอทุ่มเททำงานเพื่อส่งเจ้าชายเฮนรี่ (เฮนรี่ที่ 8) ขึ้นสู่บัลลังก์ ก่อนจะเสียชีวิตลงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1509 ร่างของเธอถูกฝังร่วมกับกษัตริย์และราชินีในโบสถ์น้อยของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 7 มาร์กาเร็ต โบฟอร์ท คือสตรีผู้แข็งแกร่ง ฉลาดเฉลียว และเด็ดเดี่ยว ผู้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตและสิทธิ์ของลูกชาย และได้พลิกชะตาประวัติศาสตร์อังกฤษไปตลอดกาล


















