เด็กอีสานติดเกาะ เลาะทะเลอันดามันเป็นเดือน
ทะเลคือความสุขของใครหลายคน อยู่บนบกนั้นสวยงามสบายกว่าไหนไหน
เที่ยวทะเลสองสามวันก็สุขใจ เที่ยวทะเลเรื่อยไปครบหนึ่งเดือนได้ผิวสี
เกาะต่างๆ เลือกได้จะลงไหน จอดปล่อยไปตามคลื่นกลืนเต็มท้อง ได้ความเค็มเต็มไอโอดีนพลัน
สุดท้ายนั้นกลับมาดูแลผิวรักษาให้คงเดิม
ทะเลที่ใครหลายคนชอบ เราเองก็ชอบทะเลเหมือนกัน ทะเลที่ว่านั้นเริ่มตั้งแต่อันดามันยาวไปจนถึงอ่าวไทย เรียกทริปนี้ว่าทริปนกขมิ้น ที่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร ว่าจะเที่ยวตรงไหนบ้าง ไม่ได้ระบุ แต่หลังจากที่เดินทางเราจะมีการหาในโทรศัพท์ว่าด้านหน้า หาดอะไร สวยไหมลงไปเที่ยวสักสองสามชั่วโมง หลังจากนั้นเราก็จะเดินทางต่อเพื่อที่จะตามหาทะเลต่อ
ครั้งนี้คือประสบการณ์ในตอนที่เรียนในมหาวิทยาลัย ตอนนี้มีเวลาในช่วงของวันหยุดซัมเมอร์ที่ยาวนาน เกือบเป็นเดือนเราจึงใช้ทั้งเดือนในการเที่ยวให้มันหมดไปเลย เพราะว่าเลยตามเลยไปแล้วต่อไปเรื่อยๆ เปิดเทอมค่อยกลับมาเรียน กลับบ้านนานๆ ทีกลับ ใช้ชีวิตคุ้มค่ามากกับการเที่ยว จนบางครั้งมีคนถามว่าเราหายไปไหน ไม่ได้กลับบ้านแม่เลยบอกว่าจัก คำว่าจักคือไม่รู้ และทุกครั้งที่แม่โทรหาแม่จะถามว่าอยู่ตรงไหน เพราะว่าไม่เคยอยู่ที่เดิมสักครั้งไปเรื่อยๆ บางทีเปลี่ยนสามจังหวัดในวันเดียว เช้าที่จังหวัดหนึ่งเที่ยงอีกจังหวัด และนอนอีกจังหวัด แต่ตอนนั้นมีความสุขมากก็เที่ยวเนอะ
ทะเลคือความงาม ความงามของทะเลเมื่อเรามองเราเหมือนได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ท้องฟ้าที่จรดกับน้ำทะเลไม่สามารถที่จะแยกได้ว่าไหนน้ำไหนทะเล เราเที่ยวจะไม่เที่ยวในทรายหาดอย่างเดียว เราเที่ยวในมหาสมุทรขับไปมากกว่าชั่วโมงเพื่อไปที่เเกาะต่างๆ ที่สวยงาม ในทริปนั้นบอกว่าจะพาไปเพียงสี่เกาะ แต่สรุปแล้ววันนั้นมีการแถมให้ เพราะว่าเราทำเวลาได้ดีกว่าที่คิด ได้เล่นน้ำในหลายๆ เกาะหาดทรายสีขาวน้ำทะเลใส แต่ความเค็มยังเหมือนเดิม จริงแล้วเรานั้นชิมน้ำทะเลในทุกเกาะเพราะว่า การฝึกใช้หน้ากาก
ในชีวิตนั้นยังไม่เคยได้เล่นน้ำทะเลเยอะขนาดนี้ เคยไปทะเลครั้งแรกน่าจะตอนอายุ 12 ปี จากนั้นไม่ได้ไปทะเลอีกเลย และในการไปครั้งแรกนั้นไม่ได้เล่นน้ำเพราะเวลา เราถึงในตอนเย็นและนอนในวัด กว่าจะเดินลงมาดูน้ำขึ้นน้ำลงก็กินเวลาเยอะมากพอแล้ว ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่มาอยู่กับทะเล นอนติดทะเลเล่นน้ำทะเลจนดึกดื่นนอนยังได้ยินเสียงคลื่น
เริ่มแรกของทริป เรือพาพวกเราออกมาปล่อยไว้กลางทะเล ที่มีโขดหินหน่อยเลยทำให้น้ำไม่ค่อยลึก ตรงนี้จะมีพวกปลานีโม่ปลาตัวเล็กมาหลบซ่อนอยู่ และมีน้ำทะเลสองสี ซึ่งหากเรามองไปในน้ำทะเลที่มีสีอ่อนนั้นจะน้ำไม่ลึกแต่หากเป็นสีเข้มนั้นสองเมตรสำหรับตรงนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะเดินได้ แต่ถ้าเดินได้คงไม่เดินเพราะพวกเจ้าสาหร่ายจำนวนมากบวกกับเจ้าเม่นทะเล ส่องสายตาสีแดงประกายจ้องอยู่
มหาสมุทรเรียกอย่างนั้นได้ มันน่ากลัวด้วยความที่เรามองไปนั้นน้ำมีสีน้ำเงินเข้ม มืดไม่รู้ว่าจะลึกขนาดไหน มองเห็นเกาะหลายเกาะ รวมถึงเกาะม้า เกาะแหวนที่มีการทำพิธีแต่งงานที่ใต้น้ำ แต่งงานว่ายากแล้วยังจะดำลงไปใต้น้ำสวมแหวนจดทะเบียน ก็เกินคนแล้วแค่คิดในใจนะ
ตรงนี้มาถึงชายหาดของเกาะไข่นอก หาดทรายตรงนี้สวยมาก น้ำทะเลน่าเล่นแต่ว่ามีช่วงของฝนที่กำลังเตรียมจะตกหนักในทะเล จึงไม่ได้อยู่ที่นี่นาน เพราะว่าน้ำค่อนข้างที่จะขึ้นมาเยอะหร่อย แต่เดินรอบทรายหาดไปกระโดดเล่นในสะพานลอยถ่ายภาพแล้วก็กลับ เราจะอยู่ตามแต่ละเกาะประมาณสี่สิบนาทีอย่างมาก
ตรงนี้คือถ้ำมรกตที่ต้องเสียงดวงมา หากว่ามาถึงโดนปากถ้ำปิดจะไม่สามารถที่จะเข้าไปด้านในได้ แต่เรามาพอดีน้ำลงเข้าได้ เราน่าจะเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปด้านใน ในหนึ่งวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนไม่มาก คนที่จะเข้าจะต้องรู้เส้นทางและรู้ว่าเวลาไหนน้ำขึ้นลง ถึงจะออกจากถ้ำได้
ตอนแรกนั้นน่าจะมีเราเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถในการว่ายน้ำได้ และไม่เคยดำน้ำ เลยคิดว่าจะรออยู่ด้านนอก แต่เพื่อความปลอดภัยเขาเลยบอกว่าต้องเข้าด้วยกันทั้งหมด ใส่หน้ากากใส่ชูชีพและเกาะนักประดาน้ำเข้าไปได้เลย เขาให้เกาะเราก็เกาะไม่ได้ช่วยตีเท้าอะไรทั้งสิ้น เย็นเท้ามากในตอนที่เข้าไป ด้านในนั้นมีกลิ่นของขี้ค้างคาวและสายตาสีแดงเต็มไปหมดเมื่อมองขึ้นด้านบน เมื่อไปถึงปากถ้ำจะต้องมีคนที่ลอยไปรับเพื่อนเราเองเป็นคนที่ถูกรับคนแรก เราจะต้องดูจังหวะของน้ำหากว่าน้ำลง จะลอยข้ามไปอีกฝั่ง เวลาน้ำขึ้นจะต้องพักในด้านในก่อน
พอถึงตอนจะไปน้ำลงเรารีบพุ่งไปสลับกับความช้าว่ายน้ำไม่ไป น้ำขึ้นทางนี้ก็ดึงด้านหน้าก็ดึง แต่สุดท้ายก็เดินไปได้ เพราะว่าเท้าถึงพื้นด้านในนั้นเป็นช่องเขาให้ได้เล่นน้ำ ด้านในไม่เหมือนอยู่ในทะเลเลย ซอกเขาสูงมากกว่าห้าสิบเมตร ไม่นานเราก็ต้องออกไปเพราะว่าน้ำอาจจะขึ้นแล้วทำให้ออกไปไม่ได้
ไข่นุ้ยให้อาหารปลา แต่ตอนนี้ไม่สนแล้วว่าปลาจะหิวเพราะว่าคนให้เองก็หิวเช่นกัน เล่นน้ำมาทั้งวัน สาเหตุที่เอาขนมปังมาด้วยเพราะว่าปลาพวกนี้ไม่มีคนให้อาหารเลยจะหิวนานๆ ทีมีคนมา แต่ยังไงได้คนเองก็หิวมากเช่นกัน จำได้ว่าที่นี่ฝึกใส่หน้ากากเตรียมตัวสำหรับการดำน้ำดูปากการังในเกาะที่จะไปต่อสวยมาก
ดำน้ำดูเจ้าปลากัน เจ้าปลาที่นี่คุ้นเคยกับคนมาก ไม่ได้กลัวอะไรเลย เราจับขึ้นมาแล้วก็ปล่อยลงไปก็จะนอนนิ่งๆ ในพื้นดินที่นี่ห้ามนำขาลงไปเดินเพราะว่าเจ้าเม่นจองพื้นที่ไว้หมด เราจะต้องทำใจให้สบายแล้วให้ชูชีพพาลอยไปลอยมาตีขาบ้างช่วยพยังในการลอย
สวยมากเจ้าฝูงปลาทั้งหน้าตาตื่น หน้าตาสงสัย ตัวเล็กตัวน้อยชวนกันมาตอดกางเกงบ้างลอยเข้าไปด้านในจนต้องล้วงออกมาไม่เข้าใจเข้าไปทำอะไร ปลาที่นี่น่าจะสวยที่สุดเพราะว่าตัวใหญ่แล้วเมื่อเห็นคนมาจะลอยมาต้อนรับ แต่ต้องก้มหน้าลงไปมองด้านล่างถึงจะเห็นเราใช้กล้องถ่ายใต้น้ำในการถ่ายเก็บภาพประทับใจ อยู่นานเลยเกาะนี้เพราะว่าจะต้องทานอาหารที่นี่
เบรคของเรามาแล้วเมนูหวานเพราะว่าเราทานความเค็มมาตลอดทางแล้ว เย็นฉ่ำมาก อร่อยจนไม่เหลือ เวลาที่หิวเอาอะไรมาทานได้หมด เจ้าหน้าที่บอกเราว่าไม่อยากให้เสียเวลาในการเล่นน้ำ เลยเอามาให้ทานถึงทรายหาดที่พวกเรานั้นเล่นน้ำกัน ออกมาตั้งแต่ตีห้าทานข้าวเช้าตอนออกเรือ มาในตอนนี้จะเที่ยงแล้วต้องทานของว่างหน่อยใช้พลังงานไปเยอะ
ให้อาหารปลาของแท้ สวยงามมาก น้ำใสที่สุดรักที่นี่เลย นอนเล่นกับเจ้าฝูงปลาสวยงามไปเลย อยากพากลับไปเลี้ยงที่บ้าน แต่เขาชอบน้ำทะเลนี่ละ หากนำกลับไปน้ำทะเลเน่าจะเอาน้ำใส่เกลือเลี้ยงมันจะมีชีวิตรอดไหม ขนมปังที่ได้นำมามากกว่าห้าแถวหมดไปทั้งปลาและคน ที่แย่งกันรับประทาน ผิวตอนนี้ไปกับทะเลหมดแล้ว พยายามในการทากันแดด แต่แดดยังไงก็เอาไม่อยู่ใสสะอาดจนแสบตา
ถ่ายรูปกันก่อนกลับหน่อย เพราะว่าตอนนี้หนาวกันหมดแล้ว บางที่บางหาดน้ำทะเลก็อุ่นดี บางที่ก็หนาวเย็น สลับกันไปมาแต่ว่าไม่ได้ทำอะไรเราได้ เพราะว่าน่าจะแก่ทะเลแล้วเพราะว่าเที่ยวทะเลมาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ ตอนนี้มาถึงอันดามันรอบอันดามันอีก เบื่อกันไปข้างเลย
นี่คือการดำดูโลกใต้น้ำแต่สำหรับเราแล้วว่ายน้ำไม่เป็นต้องถูกผูกชูชีพไว้กับเรือแต่ก็ดูได้เช่นกัน แต่หากว่าใครบอกว่าตรงนี้สวยตรงนี้มีปลาฉลามตัวเล็กเราไปดูไม่ได้เลย เพราะว่าถูกโยงไว้กับเชือกเพราะว่าความแรงของน้ำ จึงสามารถพัดเราไปไกลจากเรือแล้วจะว่ายกลับมาไม่ได้ น้ำในบริเวณนี้เย็น เท้าชูไว้ด้านบนเลย สนุกเหมือนกันนะถึงว่ายน้ำไม่เป็น
ความลึกของน้ำจะประมาณเมตรกว่า แต่จะต้องว่ายน้ำไปให้ได้ ถึงจะได้เห็นปลาสีสวย แต่ว่าหากว่าว่ายน้ำไม่ไปจะอยู่ที่เดิม เลยต้องหาเกาะคนที่ว่ายน้ำได้เพื่อที่จะได้ลอยไปดูรอบหาดเห็นปลาที่สวยงาม คือจับแน่นมาก ช่วยตีขาอยู่แต่ว่าลอยไม่ไปเลย ตอนนี้คืออยากไปเรียนว่ายน้ำมาก มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปเรียนว่ายน้ำ เพราะว่าคิดว่าครั้งหน้าน่าจะได้ว่ายอีกยากนะ เพราะว่าอายุตอนนี้คงจะยากที่จะไปติดเกาะเที่ยวทะเลเป็นเดือนอีกรอบ แต่ว่าได้ไปทั่วทุกทะเลแบบว่ายน้ำไม่เป็นนี่ละ คุ้มแล้ว
สิ่งที่มีค่าคือประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากหนังสือ เมื่อไหร่ที่เราอ่านหนังสือแล้วเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราต้องเจอในสภาพจริงนั้นเป็นอย่างไร น้ำทะเลที่ว่าเค็มนั้นเมื่อเราไปอยู่ในน้ำทะเลที่หาดทรายสีขาวใครจะบอกว่าน้ำทะเลนั้นมีความเค็มไม่เท่ากันยังได้ แต่ความแสบตาจะเพิ่มมากขึ้น น้ำทะเลที่ใสกว่าเราจะรู้สึกว่าออกซิเจนจะเยอะกว่าน้ำทะเลอ่าวไทยที่มีความเป็นสีชา สีขาวจะโล่งและเบากว่าเวลาที่เราเล่น หากให้เลือกในการเล่นน้ำคงเลือกที่จะเล่นน้ำทะเลในแถบของอันดามันมากกว่าเพราะว่าความใสและความสวย นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของความสะอาดเพราะว่ายากนักที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปถึง













