กางแต่งงานที่เรียบง่ายของชาวมอแกลน
ความรักเกิดจากคนสองคนที่สัมพันธ์ และอีกอย่างหนึ่งนั้นความรักต้องต่อสู้และฝันใฝ่ ความรักต่างฝ่ายต่างพอใจ สุดท้ายสิ่งที่จะอยู่ตลอดไปคือความรักของคนสองคน
ความรักคือความเข้าในของคนสองคน เคยเห็นบางคู่ที่รักกันมาตั้งแต่สมัยประถมปลายได้ครองคู่กันในวิวาห์ กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่น คบกันนานกว่า 15 ปี สุดท้ายแล้วก็ต้องแยกจากกันเพราะความไม่เข้าใจย่อมมีให้เห็นมาก
รักกันว่ายากแล้ว อย่าให้งานเป็นสิ่งทำลายความสัมพันธ์ อย่างหากต้องการมีหน้าตาทางสังคมในปัจจุบันจะมีการ หยิบยืมสินสอดมาเพื่อที่จะวางให้กับบ่าวสาว ทำให้หลังจากแต่งงานต้องช่วยกันใช้หนี้สิน จนบางครั้งเป็นปัญหาจนต้องเป็นการทะเลาะและจากกันด้วยสิ่งเหล่านี้
ยังมีหลายครอบครัวที่อยู่กันด้วยความอดทน ไปแต่ละวัน เรียกว่าคู่เวรคู่กรรม ตัดกันไม่ขาดแยกกันไปไม่ได้ เพราะหน้าตาทางสังคมแต่สำหรับชาวมอแกลนนั้นไม่มี รักยืนยาวตลอดทุกคู่เท่าที่เจอมา อาจจะมีแยกกันไปบ้างแต่ไม่เยอะ เพราะวัฒนธรรมสอนให้มีแค่คู่เดียวผัวเมียเดียว
อย่างคนที่เรารู้จัก รักกันนานมากได้แต่งงานกันเมื่ออยู่ด้วยกันแบบครอบครัวไปด้วยกันไม่ได้ ต้องแยกจากกันไปคนละทาง ด้วยความไม่เข้าใจและไม่อยากเดินไปด้วยกัน บางคู่คนหนึ่งอยากที่จะสร้างอนาคต อีกคนยังไม่อยากหยุดอยู่กับคนตรงหน้า คนเรามีมากหน้าหลายตา ต่างความคิดไม่ผิดหรอกที่บางคนรู้ตัวเองเมื่อสายแล้ว ว่าตนเองกำลังอยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่
คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนคือคนที่มีประสบการณ์ และช่วยบอกช่วยสอนในการดำเนินชีวิต ทำมาหากินจุนเจือในครอบครัวของตนเอง จนผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้
ทั้งสองฝ่ายมาพบหน้ากัน ร่วมผูกข้อมือกัน แล้วก็พรมน้ำหอมให้พรทั้งคู่เป็นอันเสร็จ สิ้นพิธีการ อาจจะมีการทานอาหารร่วมกันบ้างหลังจากเสร็จสิ้น ถือเป็นการทานอาหารครอบครัว ไม่ได้ยุ่งกับคนข้างบ้านหรือ ทั้งหมู่บ้าน รู้เพียงสองครอบครัวพอ
การผูกข้อต่อแขนถือเป็นการยืนยันแล้วว่าทั้งสองคือคู่กัน ไม่มีทรัพย์สมบัติ หรือทองหมั้นที่ต้องมาวางต่อหน้า หรือถ้าเป็นคนไทยจะเรียกว่าค่าน้ำนมมารดา
แต่ที่จะพาไปรู้จักในครั้งนี้ คือการแต่งงานของชนชาติพันธุ์เผ่า มอแกลน ที่ถือว่าเป็นคนไทยเช่นกันแต่คือคนไทยที่ส่วนหนึ่งนั้นเป็นชาวพม่า ด้วย กลุ่มนี้จะอาศัยอยู่แถบเกาะ ใกล้กับทะเลอันดามัน อาศัยอยู่กับน้ำหรืออาจจะเรียกว่าชาวเลก็ได้
การแต่งงานของชาว มอแกลนนั้นมีความเรียบง่ายมาก ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีการเชิญชาวบ้านมาร่วมเป็นสักขีพยาน ไม่ต้องจัดงานที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องมีรายจ่ายที่มหาศาล
ด้วยชาวมอแกลนนั้นมีการแต่งงานกันตั้งแต่อายุยังน้อย มีชีวิตได้ไม่นาน เมื่อโตเป็นสาวก็แต่งงานมีครัวเรือน เวลาที่แต่งงาน
ตอนที่ยังเด็กและเป็นสาวนั้นจะมีการสอนในเรื่องของวัฒนธรรม ความรักในชนชาติพันธุ์ของตนเอง จึงไม่ค่อยเห็นชาวมอแกลนแต่งงานกับเหล่าคนกลุ่มอื่น
เมื่อเสร็จในการทำพิธีกราบลง ซึ่งในการทำพิธีบางที่นั้นจะเรียกว่าศาลหลังหมู่บ้าน เป็นสถานที่ในการทำพิธี แต่ไม่เสมอไปบางคู่ทำที่บ้าน
ขอให้รักอยู่ด้วยกันนานแสนนาน และมั่นคงเหมือนเส้นทางที่ผ่านมา












