‘Grounding’ ธรรมชาติบำบัดด้วยการเดินเท้าเปล่า สัมผัสกับพื้นโลกโดยตรง
การเดินตามธรรมชาติของมนุษย์ คือ การเดินโดยไม่สวมรองเท้า การเดินเท้าเปล่าจึงเป็นการฟื้นฟูลักษณะการเดินอย่างที่ควรเป็น กระตุ้นให้ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ทำให้เดินได้อย่างแข็งแรง มั่นคงมากขึ้น ต่างจากการใส่รองเท้าที่มีแผ่นรองเท้าเพิ่มความนุ่มสบายในการเดิน แต่อาจขาดการใช้งานกล้ามเนื้อบางส่วนไป
การที่ฝ่าเท้าและร่างกายได้สัมผัสเชื่อมต่อพื้นโลก เรียกว่า ‘Grounding’ หรือ ‘Earthing’ จะทำให้เรารู้สึกดี ผ่อนคลาย มีความสุข ทั้งในเชิงสุขภาพและจิตวิญญาณภายใน
ประโยชน์ของการเดินเท้าเปล่าบนพื้นดินเรียบ ๆ ไม่น้อยกว่า 30 นาทีในแต่ละวัน
การเดินเท้าเปล่าเพื่อให้ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นดินเรียกสั้น ๆ ว่า การรับ Vitamin G ซึ่ง ‘G’ ย่อมาจาก Grounding จากการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง พบว่าผลการทดลองให้ผลบวกในการฟื้นฟูร่างกายอย่างมีนัยยะสำคัญ
1.ทำให้หลับสบาย
2.ความเครียดลดลง
3.ลดอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
4.การทำงานของระบบประสาทสั่งการอัตโนมัติดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งอารมณ์ ความรู้สึก
5.ตามหลักของการแพทย์แผนจีนระบุว่า การเดินเท้าเปล่าจะทำให้ธาตุไฟภายในร่างกายเกิดความสมดุล มีส่วนเสริมสร้างพลังงานแก่ชีวิต กระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานสมดุล เช่น ระบบขับถ่าย บรรเทาความเครียด ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ เพิ่มสมาธิ กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง กระตุ้นภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตไปยังอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายดีขึ้น
นอกจากการเดินเท้าเปล่าเพื่อให้ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นดิน ยังสามารถเดินเท้าเปล่าเพื่อสัมผัสหาดทราย ใบไม้ในป่า พื้นหญ้า ผืนน้ำ
ประโยชน์ของการเดินเท้าเปล่าบนหญ้าในช่วงเช้า ประมาณวันละ 15-30 นาที
1.ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นการนวดฝ่าเท้าอย่างหนึ่ง กระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมกับรับอากาศบริสุทธิ์ จะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส
2.ช่วยบริหารกล้ามเนื้อเท้าให้แข็งแรงขึ้น ไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป
3.มีส่วนในการช่วยทำให้โครงกระดูกของเท้าทำหน้าที่ได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ
4.ลดอัตราการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่แก่ก่อนวัย
5.ช่วยบรรเทาโรคบางอย่าง เช่น ท้องผูก หืด ปวดหัว โรคไต นิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ โรคเครียด ไมเกรน ไซนัส
นอกจากการเดินเท้าเปล่าแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่ใส่รองเท้าแทนได้ การใช้ชีวิตแบบเท้าเปล่าตามหลักธรรมชาติบำบัดจึงไม่จำเป็นต้องหมายถึง การเดินเสมอไป สามารถใช้ประโยชน์จากกิจกรรมอื่น เช่น การเล่นโยคะ การฝึกศิลปะป้องกันตัว การออกกำลังกายแบบพิลาทิส ก็สามารถช่วยผ่อนคลายเท้าไปในขณะเดียวกัน





















