ระเบิดเงียบใต้ป่าแดนชายขอบ
ในห้วงสายลมที่พัดผ่านแนวป่าทึบระหว่างชายแดนไทย–กัมพูชา เสียงนกร้องขับกล่อมแผ่วเบาเหนือสันเขา บางที...มันอาจทำให้เราหลงลืมไปว่า เบื้องใต้ผืนดินอันเงียบสงบนั้น ยังแฝงไว้ด้วยเงาของภัยอันตรายที่รอคอยอย่างไม่ลืมหูลืมตา—ทุ่นระเบิด
สิ่งของเล็กจิ๋วไร้ชีวิตที่ถูกฝังลงในดิน แต่กลับมีอำนาจพรากชีวิตมนุษย์ไปในเสี้ยววินาที
ระเบิดเงียบเหล่านี้ไม่ได้ส่งเสียงกึกก้องเหมือนในฉากภาพยนตร์ หากแต่แฝงเร้นอยู่ในความปกติ...ของดิน ใบไม้ เศษไม้ และทางเดินที่ดูไร้พิษภัย
เรื่องของ ทุ่นระเบิดในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวของผู้คนในท้องถิ่น และไม่ควรเป็นเรื่องที่คนทั่วไปเพิกเฉย เพราะในทุกก้าวเดินของผู้ไม่รู้ อาจแลกด้วยเลือด เนื้อ หรือแม้แต่ชีวิต
กำเนิดแห่งกับดักมรณะ
ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1970s ถึง 1990s คือช่วงที่โลกอุษาคเนย์ยังไม่สงบดี กัมพูชายังอยู่ในยุคสงครามกลางเมือง และไทยซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านต้องเตรียมตั้งรับทั้งด้านความมั่นคงและการอพยพ
แนวชายแดนภาคอีสานตอนล่าง ตั้งแต่สระแก้ว ศรีสะเกษ ไปจนถึงสุรินทร์และบุรีรัมย์ จึงถูกใช้เป็นแนวป้องกันทางทหาร มีทั้งค่ายทหารแนวหน้า ค่ายผู้อพยพ และเขตป่าที่ใช้เป็นทางเคลื่อนพลของกองกำลังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพประชาชนเวียดนาม กองกำลังเขมรแดง หรือแม้กระทั่งกองทัพไทยเอง
ทุ่นระเบิดถูกนำมาใช้ในยุทธศาสตร์เหล่านี้ โดยการฝังไว้เพื่อชะลอข้าศึก หรือเพื่อกำหนดเขตอันตรายห้ามเข้า แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง สิ่งที่หลงเหลืออยู่กลับไม่ใช่ชัยชนะ หากแต่เป็นระเบิดนับหมื่นลูกที่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันอยู่ตรงไหน
เครื่องจักรสังหารที่ไร้วันหมดอายุ
ทุ่นระเบิดส่วนใหญ่ที่พบในเขตชายแดน มักเป็นแบบ “ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” (Anti-personnel mines) ซึ่งมีขนาดเล็กเท่ากระป๋องน้ำอัดลม มีแรงระเบิดมากพอที่จะทำให้แขน ขา หรือร่างกายแหลกสลาย
บางลูกทำงานด้วยแรงกด—แค่มีน้ำหนักเท้าเหยียบลงไปเพียง 5 กิโลกรัมก็เพียงพอแล้ว บางลูกใช้สายลวดดึง ส่วนใหญ่ถูกฝังไว้ลึกแค่เพียงไม่กี่เซนติเมตรใต้ผืนดิน บ้างก็ปกคลุมด้วยใบไม้ รากไม้ หรือฝุ่นดิน จนไม่ต่างจากธรรมชาติ
ที่น่ากลัวคือ ทุ่นระเบิดไม่มีวันหมดอายุการทำงาน บางลูกถูกฝังมาเกินกว่า 30 ปี แต่ยังพร้อมทำงานทันทีที่มีการรบกวน
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกมันกลายเป็น “ภัยเงียบ” ที่พรากชีวิตและอวัยวะของผู้คนมานับไม่ถ้วน
การป้องกัน: เมื่อทางรอดอยู่ที่ความรู้และสติ
แม้จะมีหน่วยงานอย่างศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) หรือองค์กรต่างชาติ เช่น HALO Trust และ Handicap International ที่ทำหน้าที่กู้ระเบิดตามแนวชายแดน แต่ก็ยังมีพื้นที่อีกมากที่ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้ทั้งหมด
ประชาชนจึงต้องมีความรู้พื้นฐานในการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยหรือเดินทางในพื้นที่เสี่ยงติดป่าชายแดน
สัญญาณเตือนภัยที่ควรจำใส่ใจ
-
ป้ายสีแดงระบุคำว่า "ระวังทุ่นระเบิด" หรือภาพหัวกะโหลกมักแสดงว่าพื้นที่นั้นยังไม่ปลอดภัย
-
เสารั้วไม้ไผ่ ผ้าผูกสี หรือเชือกกั้น เป็นเครื่องหมายชั่วคราวที่ชุมชนใช้กันเพื่อเตือนเขตอันตราย
-
พื้นที่ที่ไม่มีทางเดินชัดเจน และไม่ใช่เส้นทางสัญจรประจำของชาวบ้าน ควรหลีกเลี่ยง
ข้อปฏิบัติเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง
-
อย่าเดินออกนอกเส้นทาง หรือเข้าไปในพื้นที่รกทึบโดยไม่จำเป็น
-
อย่าเก็บวัตถุต้องสงสัย โดยเฉพาะชิ้นโลหะ เศษเหล็ก หรือสิ่งแปลกปลอมที่ฝังบางส่วนอยู่ในดิน
-
ห้ามขุด คุ้ย หรือเผาพื้นที่ต้องสงสัย เพราะอาจกระตุ้นให้ทุ่นระเบิดทำงาน
-
แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หากพบวัตถุต้องสงสัย หรือพบคนได้รับบาดเจ็บจากระเบิด
หากเจอทุ่นระเบิด: ทำอย่างไรไม่ให้กลายเป็นเหยื่อ
หากพบวัตถุใดที่สงสัยว่าอาจเป็นทุ่นระเบิด สิ่งสำคัญที่สุดคือ "อย่าแตะต้อง"
การเข้าไปใกล้ หรือขยับสิ่งของใด ๆ โดยไม่มีความรู้ อาจทำให้เกิดการระเบิดทันที
ให้ปฏิบัติดังนี้:
-
หยุดทันที อย่าเคลื่อนไหวหากยังอยู่ใกล้วัตถุนั้น
-
ย้อนกลับเส้นทางเดิมอย่างระมัดระวัง ใช้เท้าเดินย้อนรอยเดิมที่เหยียบมา เพื่อหลีกเลี่ยงการเหยียบจุดใหม่
-
ทำเครื่องหมายบริเวณนั้น โดยใช้กิ่งไม้ ก้อนหิน หรือสิ่งใดก็ได้ที่มองเห็นง่าย
-
แจ้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทันที ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน ตำรวจตระเวนชายแดน หรือหน่วยกู้ภัยในพื้นที่
ระเบิดที่ฝังอยู่ในป่าอาจไม่มีเสียง ไม่มีไฟ ไม่มีควัน
แต่มันร้ายกาจกว่าเพลิงใด เพราะมันหลอกให้เหยื่อรู้สึกว่า “ปลอดภัย”
จนกว่าจะสายเกินไป
การรู้จัก ป้องกันตัวเอง การเฝ้าระวัง และการให้ความรู้กับชุมชนในพื้นที่ชายแดน คือเส้นทางสู่ความปลอดภัยที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การพึ่งเจ้าหน้าที่อย่างเดียว
เพราะในท้ายที่สุด ภัยจากทุ่นระเบิดไม่เลือกเหยื่อ และไม่เคยให้อภัย
และในพื้นที่ที่ไร้เสียงปืน...ยังอาจมีเสียงระเบิด ที่พร้อมพรากความสงบไปในพริบตา
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป