ล่า Green River Killer: โศกนาฏกรรม 49 ศพที่แม่น้ำกรีนริเวอร์
ในบ่ายวันที่ 15 สิงหาคม 1982 ความสงบเงียบของแม่น้ำ Green River ในรัฐวอชิงตันได้ถูกทำลายลงเมื่อ โรเบิร์ต เอนส์เวิร์ธ พบศพหญิงสาวลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของหนึ่งในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ที่รู้จักกันในนาม Green River Killer
เพียงไม่กี่วันหลังจากการพบศพแรก เจ้าหน้าที่ก็พบศพอีกหลายราย โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิงที่ทำงานอยู่บนถนนเดียวกัน และเสียชีวิตจากการถูกรัดคอ เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนกไปทั่วเมืองซีแอตเทิลและพื้นที่ใกล้เคียง การพบศพของ โอปอล์ มิลส์, มาชา แชปแมน, ซินเทีย ไฮส์, เดโบราห์ บอนด์, เวนดี้ ลี คอฟฟีลด์ และ เลแอน วิลคอกซ์ ล้วนชี้ไปที่ฆาตกรคนเดียวกัน
เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามนี้ กรมตำรวจ King County ได้จัดตั้ง หน่วยเฉพาะกิจ Green River ขึ้นอย่างเร่งด่วนในวันที่ 19 สิงหาคม 1982 ซึ่งเป็นการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐวอชิงตัน พวกเขาได้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างโปรไฟล์ฆาตกรต่อเนื่องอย่าง จอห์น ดักลาส จาก FBI และอดีตนักสืบ บ็อบ เคปเปล
การสืบสวนต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งข้อมูลและหลักฐานที่ท่วมท้น ซึ่งยากต่อการจัดการในยุคที่เทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลยังไม่ก้าวหน้า นอกจากนี้ มุมมองของสังคมที่มีต่อเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิงที่ทำงานอยู่บนถนนเดียวกัน ก็ส่งผลกระทบต่อความรวดเร็วในการติดตามคดี
อย่างไรก็ตาม แสงสว่างเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อมีพยานผู้รอดชีวิตอย่าง ซูซาน วิทมอร์ และ เดโบราห์ เอสเตส ที่ถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวและทำร้ายร่างกายในรถกระบะสีน้ำเงินขาว คำบอกเล่าของพวกเธอเป็นเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับลักษณะของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้
แม้จะมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยอย่าง เคน คลินตัน คลาร์ก แต่เขาก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับคดีได้อย่างชัดเจน และการหายตัวไปของ บริเจ็ต มีฮาน ในระหว่างที่คลาร์กถูกควบคุมตัว ยิ่งเพิ่มความกังวลว่าฆาตกรที่แท้จริงยังคงลอยนวล
ชื่อของ แกรี ริดจ์เวย์ ช่างพ่นสีรถบรรทุกในท้องถิ่น เริ่มปรากฏขึ้นในบันทึกการสืบสวนตั้งแต่ช่วงต้นคดี เขาถูกพบเห็นเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเหยื่อหลายราย เช่น แมรี่ แมนวา และ คิมิ คาย พีเซอร์ ซึ่งถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายว่าขึ้นรถกระบะที่มีลักษณะคล้ายรถของริดจ์เวย์ แม้จะมีข้อมูลเหล่านี้ แต่ข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในยุคนั้น ทำให้ริดจ์เวย์ยังไม่ถูกมองว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในทันที
ภายใต้การนำของ กัปตันแฟรงค์ อดัมสัน ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจคนใหม่ในปี 1984 การสืบสวนเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น มีการจัดระบบข้อมูลและหลักฐานให้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้เห็นรูปแบบการก่อเหตุของฆาตกรชัดเจนขึ้น ฆาตกรเริ่มเปลี่ยนจุดทิ้งศพ จากแม่น้ำ Green River ไปยังพื้นที่ป่า หรือสุสานต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจพบ
แม้การสืบสวนจะดำเนินไปอย่างยาวนาน และมีข้อเสนอแนะจาก เท็ด บันดี้ ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง รวมถึงทฤษฎีที่ว่าอาจมีฆาตกรมากกว่าหนึ่งคน แต่หลักฐานก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวฆาตกรได้ จนกระทั่งช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 คดีก็เริ่มเงียบลง และหน่วยเฉพาะกิจถูกลดขนาดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน 2001 เกือบ 2 ทศวรรษหลังจากการฆาตกรรมครั้งแรก เดฟ ไรเคิร์ท นายอำเภอในขณะนั้น ได้ตัดสินใจรื้อคดีขึ้นมาสืบสวนใหม่อีกครั้ง โดยอาศัยเทคโนโลยี DNA Profiling ที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก
ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ตัวอย่างอสุจิที่พบจากศพเหยื่อ 3 ราย คือ โอปอล์ มิลส์, มาชา แชปแมน และ แครอล คริสเตน ตรงกับตัวอย่าง DNA ที่เก็บจาก แกรี ริดจ์เวย์ ในปี 1987 หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจโต้แย้งได้นี้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับเขาได้ในที่สุด ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2001 แกรี ริดจ์เวย์ ถูกจับกุมตัว
ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2003 แกรี ริดจ์เวย์ วัย 54 ปี ได้สารภาพผิดในข้อหาฆาตกรรม 48 คดี แลกกับการหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิต เขาให้เหตุผลว่าเลือกเหยื่อที่เป็น ผู้หญิงที่ทำงานอยู่บนถนนเดียวกัน เพราะเชื่อว่าพวกเธอจะไม่ถูกแจ้งความหายไปในทันที และทิ้งศพไว้เป็นกลุ่มเพื่อรำลึกถึงการกระทำของตน
ปัจจุบัน แกรี ริดจ์เวย์ อายุประมาณ 76 ปี และยังคงรับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่ทัณฑสถานรัฐวอชิงตัน คดีนี้ยังไม่ถือว่าปิดลงอย่างสมบูรณ์ เพราะยังมีเหยื่อบางรายที่ยังไม่ถูกระบุตัวตนหรือไม่พบศพ ซึ่งยังคงเป็นปริศนาที่ค้างคาใจ คดี Green River Killer ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญให้กับวงการนิติวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาอาชญากรรม รวมถึงเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับครอบครัวของเหยื่อ
เรื่องราวอันน่าสยดสยองของ Green River Killer แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการนำความยุติธรรมมาสู่ผู้ที่ต้องสูญเสียไปนานนับปี หากคุณสนใจเรื่องราวอาชญากรรมที่ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์จริง อย่าลืมติดตามช่องของเรานะครับ
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
นัดแล้วเปลี่ยน! กัมพูชาขอย้าย GBC ไปมาเลเซีย โยนเหตุผลกลัวไทยไม่ปลอดภัย
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่







