โมซา จากลูกสาวนักโทษ สู่ราชินีผู้พลิกโฉมกาตาร์
เรื่องราวของ ชีค โมซา บินท์ นัสเซอร์ อัล-มิสนิด คือบทพิสูจน์ถึงพลังของผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอเกิดในปี 1959 ที่กาตาร์ แต่ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบากเมื่อพ่อเป็นนักโทษทางการเมือง โมซาต้องลี้ภัยไปต่างประเทศตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ความเจ็บปวดในครั้งนั้นแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ เพื่อล้างแค้นราชวงศ์ที่ทำให้ครอบครัวต้องตกอยู่ในความลำบาก
ก้าวแรกสู่ราชวงศ์: การแต่งงานเพื่อการแก้แค้น
เมื่อกาตาร์ได้รับเอกราชและค้นพบแหล่งน้ำมันมหาศาล ทรัพยากรกลับถูกผูกขาดโดยชีคคาลีฟา บิน ฮาหมัด อัล-ธานี ผู้ซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์ พ่อของโมซาผู้ต่อต้านถูกจับกุมและครอบครัวถูกเนรเทศ โมซาตัดสินใจที่จะล้างแค้นด้วยการแต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ เพื่อเข้าใกล้ศัตรูให้มากที่สุด เป้าหมายคือ มกุฎราชกุมาร ชีค ฮาหมัด บิน คาลีฟา อัล-ธานี ลูกชายของกษัตริย์คาลีฟา แม้จะรู้ว่าต้องเป็นภรรยาน้อย โมซาก็อดทนต่อการดูถูกเหยียดหยามในพิธีแต่งงานเพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่กว่า
สตรีผู้ทรงอิทธิพล: พลิกโฉมวงการแฟชั่นและเศรษฐกิจ
ในสังคมตะวันออกกลางที่ผู้หญิงมีสถานะไม่สูงนัก โมซาใช้ความงาม สติปัญญา และรสนิยมการแต่งกายที่โดดเด่น จนได้รับรางวัล "บุคคลแต่งกายยอดเยี่ยม" จากนิตยสาร Vanity Fair สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนทั่วโลกที่มีต่อผู้หญิงในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ เธอยังสร้างรากฐานที่มั่นคงในราชวงศ์ด้วยการมีทายาทถึง 7 คน
โมซายังเป็นผู้หญิงที่มีหัวการค้าเฉียบแหลม เธอเริ่มต้นธุรกิจด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมไข่มุก และสามารถทำกำไรก้อนแรกได้จากการเล่นเกมกับกษัตริย์คาลีฟาผู้เคยดูหมิ่นเธอ ด้วยเงินทุนนี้ เธอจึงขยายธุรกิจไข่มุกและก่อตั้งกลุ่มการลงทุนเอกชนกลุ่มแรกของราชวงศ์กาตาร์ เธอไม่เพียงทำลายข้อจำกัดต่างๆ ที่ผู้หญิงในกาตาร์เผชิญอยู่ แต่ยังเป็นผู้หญิงคนแรกในราชวงศ์ที่เดินทางได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องสวมผ้าคลุมหน้า
สถาปนาราชินี: รัฐประหารเงียบและการสร้างชาติ
สิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงคือ โมซามีส่วนสำคัญในการช่วยสามีทำการรัฐประหารที่ชนะโดยไม่ต้องต่อสู้ เธอวางแผนอย่างรอบคอบขณะที่กษัตริย์คาลีฟากำลังพักร้อน ทำให้ฮาหมัดขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ได้สำเร็จ
หลังจากฮาหมัดขึ้นครองราชย์ โมซาได้ดำเนินการปฏิรูปต่างๆ ด้วยคำแนะนำในการนำทรัพยากรน้ำมันมาลงทุนและเพิ่มมูลค่า กาตาร์ได้ก่อตั้งกองทุนการลงทุนแห่งชาติ โดยมีโมซาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสร้างรายได้ เธอทุ่มเงินมหาศาลซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน รวมถึงหมู่บ้านโอลิมปิก และซื้อผลงานศิลปะจำนวนมากเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมืองหลวง แม้ในยุคนั้นจะถูกมองว่าฟุ่มเฟือย แต่โมซามองเห็นศักยภาพและโอกาสในการทำกำไรสูง ความเฉียบแหลมทางธุรกิจทำให้เธอสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง จนได้รับฉายาว่า "เครื่องผลิตเงิน" ความสำเร็จของโมซายังมาจากความรักและการสนับสนุนของสามี ฮาหมัดยังคงซื่อสัตย์ต่อโมซาเพียงคนเดียว
มรดกและความสำเร็จ: "ไข่มุกแห่งตะวันออกกลาง"
ในปี 2010 กาตาร์มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลกถึง 4 แห่ง ที่สร้างเสริมวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในปี 2012 กาตาร์มีอัตราการว่างงานเข้าใกล้ศูนย์ ประชาชนได้รับสวัสดิการฟรีเต็มรูปแบบ โมซาไม่เพียงทำให้คำมั่นสัญญาที่จะสร้างกาตาร์ใหม่เป็นจริง แต่ยังดำเนินแผนการล้างแค้นอย่างแยบยล เธอจัดการให้คาลีฟาผู้เคยดูหมิ่นเธอต้องประสบความทุกข์ทรมานจากการลี้ภัยเช่นเดียวกับพ่อของเธอ และจัดการให้ลูกชายของเธอขึ้นเป็นรัชทายาท แม้ว่าลูกชายคนโตจะยกตำแหน่งให้แก่น้องชายวัย 23 ปี แต่ผู้มีอำนาจที่แท้จริงก็ยังคงเป็นโมซา
จากการเป็นเจ้าหญิงที่เคยถูกดูหมิ่นในฐานะสามัญชน โมซาใช้เวลา 40 ปี จนก้าวขึ้นเป็นราชินีผู้ทรงอำนาจ และเป็นพระพันปีหลวงที่ได้รับการยกย่อง เธอบริหารจัดการราชวงศ์กาตาร์ให้กลายเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในเวทีระดับสากล โมซาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าราชวงศ์คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ ด้วยความสง่าผ่าเผยและความสงบเคร่งขรึมของเธอ
เรื่องราวของชีค โมซา สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจิตใจ ความเฉลียวฉลาด และความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ คุณคิดว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ชีค โมซา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่?
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องด่วน ก่อนเกลี้ยงแผง!!




