โศกนาฏกรรมเรือ Wilhelm Gustloff หายนะที่โลกเกือบจะลืม
สงครามมักทิ้งร่องรอยความสูญเสีย และหนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกกลืนหายไปในหน้าประวัติศาสตร์คือโศกนาฏกรรมเรือ MV Wilhelm Gustloff ซึ่งจมลงในคืนวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1945 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 9,400 คน มากกว่าเหตุการณ์เรือไททานิกและเรือลูซิทาเนียรวมกันถึง 3 เท่าครึ่ง นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือ
ในคืนที่หิมะโปรยปรายเหนือน่านน้ำทะเลบอลติกที่เย็นจัด เรือ Gustloff ได้แล่นฝ่าความมืดมิดพร้อมด้วยผู้ลี้ภัยนับหมื่นที่หลบหนีการรุกคืบของกองทัพแดงโซเวียต เส้นทางบกถูกตัดขาด ทางเดียวคือทางทะเล เรือลำนี้พร้อมเรืออื่น ๆ จึงถูกระดมเข้าประจำการเพื่ออพยพผู้คน
เรือ Wilhelm Gustloff เดิมทีถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1937 ในฐานะเรือสำราญหรูหราสำหรับโครงการ "Kraft durch Freude" (พลังแห่งความสุข) ของนาซีเยอรมัน แม้จะเคยทำหน้าที่เป็นเรือพยาบาลและค่ายทหาร แต่ในช่วงสุดท้ายของสงครามมันถูกใช้เป็นเรือขนส่งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารใน ปฏิบัติการฮันนิบาล ซึ่งเป็นปฏิบัติการอพยพครั้งใหญ่
ความโกลาหลในการขึ้นเรือทำให้มีผู้โดยสารมากกว่า 10,000 คน ซึ่งมากเกินกว่าขีดความสามารถของเรือ กัปตันทั้งสี่คนบนเรือมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องเส้นทางเดินเรือ และการตัดสินใจเปิดไฟนำทางในความมืดมิดทำให้เรือตกเป็นเป้าสายตาของเรือดำน้ำโซเวียต S-13 ภายใต้การบังคับบัญชาของกัปตันอเล็กซานเดอร์ มารีเนสโก
เรือ S-13 ยิงตอร์ปิโดสามลูกเข้าใส่เรือ Gustloff ในเวลาประมาณ 21:16 น. ตอร์ปิโดสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้เรือเอียงและไฟฟ้าดับ เรือชูชีพไม่เพียงพอและหลายลำใช้งานไม่ได้เนื่องจากน้ำแข็งและสภาพอากาศที่หนาวจัด ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากการจมน้ำ ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ หรือจากการเหยียบกันเพื่อเอาชีวิตรอด เรือ Gustloff จมลงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังถูกโจมตี มีผู้รอดชีวิตเพียง 1,252 คน
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถูกลืมเลือนไปในประวัติศาสตร์ด้วยหลายเหตุผล ทั้งการที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามที่มีผู้เสียชีวิตมากมายทั่วทวีปยุโรป และการที่ทั้งสองฝ่ายไม่เต็มใจที่จะรายงานเหตุการณ์นี้ เยอรมนีกลัวการเสียขวัญกำลังใจของประชาชน ส่วนรัสเซียไม่อยากให้ภาพลักษณ์ดูโหดร้าย เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ลี้ภัย ผู้หญิง เด็ก และคนชรา
เหตุการณ์เรือ Wilhelm Gustloff จึงเป็นบทเรียนอันเจ็บปวดที่แสดงให้เห็นถึงความสูญเสียอันมหาศาลที่เกิดจากสงคราม และเป็นเครื่องย้ำเตือนว่ามนุษย์ควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความหายนะที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
เขมรหลอกเขมร! สายทหารเขมรหลุดแผนลับ "หักหลังฮุนเซน" รบในจอ รอรับตังค์ โกยเงินหลักล้าน อัดฉีดคลังแสงไม่อั้น
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษ
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
ทำไมผู้สูงอายุชอบเล่าเรื่องเก่า ๆ ให้อื่นฟัง
ผัก สมุนไพร แคลอรี่ต่ำ ลดหน้าท้อง
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศ
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
สุขสันต์วันคริสต์มาส...







