มีอยู่จริง!! “ทฤษฎีความซวย” "อะไรก็ตามที่อาจผิดพลาดได้ มันจะผิดพลาด"
“ทฤษฎีความซวย” (คำวง่าซวย นั่นคือ ภาษาปาก ใช้แทนความเคราะห์ร้าย, โชคร้าย เป็นคำที่คนไทยเรียกกันแบบไม่เป็นทางการ) ไม่มีสถานะเป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หรือจิตวิทยาอย่างเป็นระบบ แต่เป็นคำอธิบายแบบพื้นบ้านหรือภาษาพูด เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เลวร้ายหลายอย่างเกิดขึ้นติดๆ กัน ราวกับโชคร้ายวิ่งชนโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่อง "ความซวย" มีความเกี่ยวข้องกับหลักการและทฤษฎีทางจิตวิทยาและสถิติหลายแนวทางที่ช่วยอธิบายสิ่งที่ดูเหมือน “ซวย” ได้ เช่น....
-จริงๆแล้วมัยนคือ กฎของเมอร์ฟี (Murphy’s Law)
“Anything that can go wrong will go wrong.” หรือ “อะไรก็ตามที่อาจผิดพลาดได้ มันจะผิดพลาด” ซึ้งเป็นทฤษฎีที่ใช้เขาอธิบายเรื่องของความโชคร้าย หรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ว่าทุกสิ่งที่สามารถผิดพลาดได้ มักจะผิดพลาดเสมอ โดย เอ็ดเวิร์ด อลอยเซียส เมอร์ฟี จูเนียร์ อดีตวิศวกรกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับแรง G-Force แต่ในระหว่างการทดลองเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
กฎของเมอร์ฟี
1. ถ้าอะไรผิดพลาดได้ มันก็จะผิดพลาด
2. ถ้ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดหลายสิ่งผิดพลาด สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุดจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาดเป็นอย่างแรก
3. ถ้าอะไรผิดพลาดไม่ได้ มันก็จะผิดพลาดอยู่ดี
4. ถ้าคุณรับรู้ว่ามีวิธีที่เป็นไปได้สี่วิธีที่จะทำให้บางสิ่งผิดพลาด และหลีกเลี่ยงวิธีเหล่านั้น วิธีที่สามซึ่งไม่ได้เตรียมการไว้ก็จะเกิดขึ้นทันที
5. หากปล่อยให้สิ่งต่างๆ ดำเนินไปเอง สิ่งต่างๆ มักจะแย่ลงเรื่อยๆ
6. ถ้าทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น แสดงว่าคุณมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป
7. ธรรมชาติมักจะเข้าข้างข้อบกพร่องที่ซ่อนอยู่เสมอ
8. ธรรมชาติเป็นคนใจร้าย
ถ้ามองให้ดีๆ นี่เป็นแนวคิดที่ใกล้เคียงกับ “ความซวย” มากที่สุด ใช้อธิบายว่าหากมีโอกาสที่อะไรบางอย่างจะผิดพลาด มันก็มีแนวโน้มจะผิดในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด
ไม่ใช่ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ แต่เป็นการสรุปจากประสบการณ์มนุษย์ต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด
- ความเอนเอียงในการรับรู้ (Confirmation Bias)
เรามักสังเกตและจำเฉพาะเหตุการณ์ "แย่ๆ" มากกว่าเรื่องดีๆเมื่อเรารู้สึกว่า "ช่วงนี้ซวยจัง" เราจะสนใจเฉพาะเหตุการณ์ลบ และมองข้ามเรื่องดีที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเหมือนซวยทั้งวันทั้งสัปดาห์ ทั้งที่จริงอาจมีเรื่องดีอยู่ด้วย
-ทฤษฎีเหตุและผลร่วม (Correlation vs Causation) การที่หลายเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ไม่ได้แปลว่ามีความเกี่ยวพันโดยตรง
เช่น คนโดนรถชน → โทรศัพท์พัง → โดนไล่ออกจากงาน
ทั้งหมดอาจไม่เกี่ยวกันโดยตรง แต่สมองมนุษย์เชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกันว่า "เป็นความซวย"
- หลักสถิติของเหตุการณ์สุ่ม (Law of Truly Large Numbers) ถ้ามีโอกาสมากพอ อะไรแปลกๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณเผชิญเหตุการณ์หลายร้อยหลายพันเรื่องต่อเดือน ย่อมมีโอกาสที่บางเรื่องจะผิดพลาดได้บ้าง จึงดูเหมือนเป็น “ช่วงของความซวย”
-ทฤษฎีวงจรชีวิต (Life Cycle Theory) บางช่วงชีวิต เราเผชิญกับความกดดันทางเศรษฐกิจ สังคม หรือครอบครัวมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มเกิด “ความซวย” หรือความล้มเหลวมากขึ้น
ในทางจิตวิทยา “ความซวย” เป็นภาพสะท้อนของการรับรู้มากกว่าความจริง ปรากฏการณ์ที่ดูเหมือน “ซวยซ้ำซวยซ้อน” ส่วนใหญ่มีคำอธิบายตามเหตุและผลได้ การรับมือกับความซวยคือการ “เปลี่ยนมุมมอง” และ “แยกแยะเหตุการณ์” ว่าสิ่งไหนเกิดจากการกระทำของเรา สิ่งไหนควบคุมไม่ได้
เครื่องบินรบของอินเดีย กลายเป็นตัวตลกนานาชาติ ในงานแอร์โชว์ที่ดูไบ
😻 ชวนเข้ามาดูภาพถ่ายที่สัตวแพทย์จะพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีคนไข้ที่ไหนน่ารักไปกว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเราอีกแล้ว 😘
ลุ้นรับ 4,000 บาท สรุปให้ชัด คนละครึ่งพลัส เฟส 2 ลงทะเบียนวันไหน ใครบ้างมีสิทธิ์
รวมภาพตลกขำขันประจำวันนี้ วันที่สายลมหนาวเริ่มโปรยปรายเข้ามาจนรู้สึกได้
สวยสระกดทุกสายตา "โอปอล์ ปาณิสรา" ออร่าร่างทองหลายคนเห็นต่างกดไลก์รัวๆ
นักเรียนสาวร้องไห้หนัก หลังซ้อมฉากตบ แล้วพลาดหนัก!!
กองทัพรัสเซียเงียบกริบ หลังโดนยูเครนถล่ม ดับไปมากกว่า 300 นาย
คุณสงสัยไหมว่า สัตว์ตัวไหนที่ตรงกับนิสัยของคุณเอง 🤔
ทหารเขมรขวัญผวา เห็น F-16 กับจรวดใหม่ไทย ถึงหลอนและผวา ไม่อยากจะรบ
เหมาะสมมั้ย? “แจ็ก แปปโฮ” ถอดเสื้อเต้นโชว์บนหลังคารถหน้าร้าน LAWSON ในญี่ปุ่น
หาดูยาก! งูเหลือมปะทะจงอางยักษ์ริมลำคลอง สุดท้ายงูเหลือมสิ้นท่า
นางงามเขมรใส่ร้ายประเทศไทยยับ
แจ็กแปปโฮ เผยสาเหตุที่ไม่ลบคลิปคอนเทนต์ ปีนขึ้นไปบนหลังคารถ เต้นอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ (ลอว์สัน) ซึ่งมีฉากหลังเป็น ภูเขาไฟฟูจิ
รีสอร์ทเปิดตัว "บริการปลุกด้วยสิงโต" นักท่องเที่ยวจองเต็มอย่างรวดเร็ว
สวยสระกดทุกสายตา "โอปอล์ ปาณิสรา" ออร่าร่างทองหลายคนเห็นต่างกดไลก์รัวๆ









