น้ำตาแห่งความสำเร็จ! “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ปล่อยโฮกลางเวที คว้า 2 รางวัลใหญ่ นาฏราช
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก คว้า 2 รางวัลใหญ่จากงานนาฏราช ครั้งที่ 16 ซึ้งจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แฟนๆ เทใจชื่นชม “สมมงที่สุด!”
นับเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนแห่งความทรงจำที่อบอวลไปด้วยความภาคภูมิใจ และเต็มไปด้วยพลังของศิลปินผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในวงการบันเทิง สำหรับงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยปีนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากเหล่าศิลปิน นักแสดง และบุคลากรในแวดวงละคร โทรทัศน์ และสื่อสารมวลชน ที่ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
หนึ่งในไฮไลต์ที่เรียกเสียงปรบมือกึกก้องและกระแสชื่นชมถล่มทลายจากทั้งในงานและโลกโซเชียล คงหนีไม่พ้น “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” นักแสดงสาวเจ้าบทบาทวัย 31 ปี ที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ไปได้ถึง 2 สาขาในค่ำคืนนี้ โดยทั้งสองรางวัลล้วนเป็นรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากละครทั้งประเภทสั้นและประเภทยาว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาและสะท้อนถึงศักยภาพในฐานะนักแสดงที่มากด้วยฝีมือของเธอได้เป็นอย่างดี
คว้า 2 รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สะท้อนความสามารถรอบด้าน
ใบเฟิร์นสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากละครสั้น เรื่อง “ทิชา” ซึ่งเป็นละครความยาวไม่เกิน 13 ตอน ที่ฉายหลังเวลา 20:00 น. โดยเธอถ่ายทอดบทบาทตัวละครที่มีความลึกซึ้งและซับซ้อนได้อย่างเข้าถึงอารมณ์คนดู และยังได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกหนึ่งรางวัลจากละครยาวเรื่อง “ทองประกายแสด” ซึ่งเป็นผลงานที่ออกอากาศหลัง 20:00 น. และมีจำนวนตอนตั้งแต่ 14 ตอนขึ้นไป
การคว้ารางวัลทั้งสองประเภทในคราวเดียวกันถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และสะท้อนถึงความสามารถทางการแสดงที่หลากหลายของใบเฟิร์น ทั้งการรับบทในละครสั้นที่ต้องอัดแน่นอารมณ์ภายในเวลาอันกระชับ และละครยาวที่ต้องรักษาความลึกของตัวละครและความต่อเนื่องทางอารมณ์ตลอดเรื่อง
น้ำตาแห่งความสุขที่กล้องจับได้
หนึ่งในโมเมนต์ที่กลายเป็นไวรัลทันทีหลังประกาศรางวัล คือช่วงเวลาที่กล้องแพนไปจับใบหน้าของใบเฟิร์น หลังได้ยินชื่อของตนเองในฐานะผู้ชนะรางวัล สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ และรอยยิ้มที่ฉายแววของความภูมิใจได้กลายเป็นภาพประทับใจในค่ำคืนนี้
แฟนๆ ที่ได้รับชมคลิปช่วงเวลาดังกล่าวต่างเข้ามากดไลก์ แชร์ และคอมเมนต์ให้กำลังใจ พร้อมเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามว่า "สมมงที่สุด", "คนเก่งที่คู่ควร", "ใบเฟิร์นไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ" ฯลฯ ยิ่งตอกย้ำว่ารางวัลที่เธอได้รับในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับจากความทุ่มเทที่ผ่านมาทั้งหมด
ข้อความจากหัวใจของ “ใบเฟิร์น” สะท้อนความรักในอาชีพนักแสดง
หลังจบงานไม่นาน ใบเฟิร์นได้โพสต์ข้อความแสดงความรู้สึกผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยถ่ายทอดความรู้สึกซาบซึ้งจากใจต่อทุกโอกาสที่ได้รับ ตลอดจนผู้สนับสนุนในทุกช่วงชีวิตของเธอ โดยเธอเขียนไว้ว่า:
“หนูเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำอาชีพนักแสดง เติบโตมากับวงการซีรี่ส์และภาพยนตร์ไทย มองเห็นความเปลี่ยนแปลง ความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์พัฒนามากมายของพี่น้องในวงการ ได้มองวงการของเราเติบโตไปข้างหน้าด้วยความรักและความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในวงการซีรี่ส์และภาพยนตร์ไทยของพวกเรา
ขอบคุณคณะกรรมการทุกท่าน พี่น้องในวงการทุกคนที่มองเห็นคุณค่าและความตั้งใจของนักแสดงคนนี้ ขอบคุณทุกๆ โอกาส ทุกๆ ความเมตตาที่หนูได้รับ
ขอบคุณคุณครูทุกคนของหนู ขอบคุณครอบครัว ผู้จัดการคนเก่ง และแฟนคลับที่น่ารักที่คอยสนับสนุนความฝัน ความตั้งใจของหนูมาตลอด
ที่สำคัญที่สุด ขอบคุณผู้ชมทุกท่านที่สนับสนุนผลงานของคนไทยเสมอมา
หนูขอเป็นส่วนหนึ่งที่เติบโตไปพร้อมกับวงการซีรี่ส์และภาพยนตร์ไทย และจะทำหน้าที่นักแสดงของหนูด้วยความรัก เคารพในวิชาชีพ และทำมันด้วยความเคารพคนดูเสมอ
– ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก
18-05-25”
ข้อความดังกล่าวไม่เพียงเรียกน้ำตาและความซาบซึ้งจากแฟนๆ เท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพของนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้มองงานแสดงเพียงแค่เป็นอาชีพ แต่เป็นความรัก ความภูมิใจ และหน้าที่ที่เธอให้เกียรติในทุกก้าวของการทำงาน
การเติบโตอย่างมั่นคงของนักแสดงคุณภาพ
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงวัยรุ่นในซีรีส์ชื่อดัง ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาฝีมือและพิสูจน์ตนเองผ่านบทบาทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์รักใสๆ ซีรีส์ดราม่าหนัก ไปจนถึงบทบาทสุดท้าทายที่ต้องใช้พลังการแสดงอย่างลึกซึ้ง
ในระยะหลัง ผลงานของเธอมักถูกพูดถึงในแง่ของคุณภาพมากกว่าความนิยมชั่วครั้งชั่วคราว โดยเฉพาะบทบาทในละคร “ทองประกายแสด” ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมในวงกว้าง ซึ่งสะท้อนถึงพัฒนาการและการเติบโตของเธอในฐานะนักแสดงที่ครบเครื่อง
ปิดท้ายค่ำคืนแห่งเกียรติยศด้วยแรงบันดาลใจ
รางวัลทั้งสองรางวัลที่ใบเฟิร์นได้รับในค่ำคืนนี้ ไม่เพียงเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเธอในฐานะนักแสดง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังเดินตามฝัน ให้มองเห็นว่าความทุ่มเทและความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จที่คู่ควร
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ไม่เพียงเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงไทยในปัจจุบัน แต่ยังเป็นตัวแทนของคนที่รักในศิลปะการแสดงและทุ่มเทเต็มที่ในทุกบทบาทที่ได้รับ
และแน่นอนว่า ค่ำคืนนี้คือการยืนยันอย่างแท้จริงว่า เธอคือหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ “สมมง” ที่สุดของวงการในยุคนี้






















