10 อันดับไม้ที่อ่อนที่สุด/ Top 10 Softest Woods
การทดสอบความแข็งของ Janka เป็นการวัดปริมาณแรงที่จำเป็นในการฝังลูกบอลเหล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 11.28 มม. ลงในชิ้นไม้จนลึกถึงครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางของลูกบอล มีหน่วยเป็นปอนด์-แรง (lbf) หรือนิวตัน (N)
10. Western Red Cedar
(Thuja plicata) 350 lbf (1,560 N)
ซีดาร์แดงตะวันตก หรือสนพลูคาตา เป็นไม้เนื้ออ่อนขนาดใหญ่โตได้สูงถึง 70 เมตร มีถิ่นกำเนิดในแถบแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ ไม้ซีดาร์แดงตะวันตกมีกลิ่นหอมและทนต่อการผุพัง ชนพื้นเมืองใช้ไม้นี้เพื่อจุดประสงค์หลายประการ
เช่น สร้างเรือแคนู เสาโทเท็ม และเครื่องมือไม้
9. Black Cottonwood / Quaking Aspen
(Populus tremuloides and P. trichocarpa) 350 lbf (1,560 N)
แอสเพน ไม้ผลัดใบที่มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ที่อากาศเย็นกว่าของอเมริกาเหนือ โดยพบได้ตั้งแต่แคนาดาไปจนถึงตอนกลางของเม็กซิโก เป็นต้นไม้สูงที่เติบโตเร็ว สูงได้ถึง 25 เมตร มักขยายพันธุ์ผ่านรากเพื่อสร้างดงโคลนขนาดใหญ่ ที่ใช้ระบบรากร่วมกัน
ไม้แอสเพนใช้ทำผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษหลักในแคนาดา และเหมาะเป็นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์แผ่นไม้
8. Atlantic White Cedar
(Chamaecyparis thyoides) 350 lbf (1,560 N)
ซีดาร์ขาวแอตแลนติก บางครั้งเรียกว่าซีดาร์ขาวใต้ หรือซีดาร์หลังบึง มีถิ่นกำเนิดบนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของอเมริกาเหนือ ไม้ซีดาร์ขาวถือเป็นไม้ที่มีความทนทาน เนื่องจากทนต่อการผุพังและการโก่งงอในอุณหภูมิและระดับความชื้นที่หลากหลาย
มีการนำไปใช้ทำรั้ว เสาโทรศัพท์และเสาไฟฟ้า เครื่องใช้ไม้ เหยื่อล่อเป็ด เฟอร์นิเจอร์สนาม และต้นคริสต์มาส
7. Yellow Buckeye
(Aesculus octandra) 350 lbf (1,560 N)
บัคอายเหลือง หรือที่เรียกอีกอย่างว่าบัคอายหวาน เป็นไม้ผลัดใบทรงพุ่ม สูง 20 เมตรถึง 48 เมตร มีถิ่นกำเนิดในหุบเขาโอไฮโอและเทือกเขาแอปพาเลเชียนในอเมริกาเหนือ มันเติบโตในป่าเมโซไฟต์หรือที่ราบน้ำท่วมถึง ไม้สามารถนำไปใช้ทำเยื่อกระดาษ เครื่องใช้ไม้
ใช้ทำแขนขาเทียม และเลื่อยเป็นไม้แปรรูปได้
6. Subalpine Fir
(Abies lasiocarpa) 350 lbf (1,560 N)
เฟอร์ซับอัลไพน์ หรือเฟอร์ใต้เทือกเขาอัลไพน์ คือต้นเฟอร์ที่อยู่ทางตะวันตกของอเมริกาเหนือ เป็นไม้สนขนาดกลางที่มีทรงกรวยแคบมาก เติบโตได้สูงถึง 20 เมตร ไม้เนื้ออ่อนถือเป็นไม้ที่มีคุณภาพต่ำ ใช้ประโยชน์ด้านโครงสร้างทั่วไปและการผลิตกระดาษ
นอกจากนี้ยังเป็นต้นคริสต์มาสยอดนิยมอีกด้วย เป็นไม้ประดับยอดนิยม สำหรับสวนสาธารณะและสวนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังใช้เป็นบอนไซได้อีกด้วย
5. Northern White Cedar
(Thuja occidentalis) 350 lbf (1,560 N)
ซีดาร์ขาวเหนือ หรือต้นอาบอร์วิเท เป็นเพียงต้นไม้ขนาดเล็กหรือขนาดกลาง มีถิ่นกำเนิดในแคนาดาตะวันออก เป็นไม้ที่เติบโตเร็วและแข็งแรงมาก โดยเติบโตได้สูงถึง 15 เมตร จึงนิยมปลูกเป็นรั้วในสวน ในเชิงพาณิชย์ใช้สำหรับทำรั้วและเสาไม้ ไม้แปรรูป
ระแนง และในการก่อสร้างกระท่อมไม้ซุง
4. European Silver Fir
(Abies alba) 320 lbf (1,420 N)
เฟอร์เงินยุโรป ไม้พื้นเมืองในเทือกเขาของยุโรป เป็นสนขนาดใหญ่ไม่ผลัดใบ ซึ่งเติบโตได้สูง 40–50 เมตร ในสมัยโรมัน ไม้ถูกนำมาใช้ทำถังไม้ เพื่อเก็บและขนส่งไวน์และสารอื่นๆ สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยใช้ในน้ำหอม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และสเปรย์ปรับอากาศ
ไม้ชนิดนี้มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใช้ทำไม้สำหรับงานก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด ไม้เยื่อกระดาษ
3. Balsam Poplar
(Populus balsamifera) 300 lbf (1,330 N)
ป็อปลาร์บัลซัม เป็น ไม้เนื้อแข็ง ที่อยู่เหนือสุดของทวีปอเมริกาเหนือ ขึ้นได้ทั่วทุกทวีปบนพื้นที่สูงชันและภูเขา และเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง โดยทั่วไปมีอายุสั้น แต่พบว่าบางต้นมีอายุมากถึง 200 ปี ต้นไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นที่หอมหวาน
เนื้อไม้อ่อนและเบา นำมาใช้ทำเยื่อกระดาษและก่อสร้าง
2. Paulownia
(Paulownia spp.) 260 lbf (1,160 N)
เพาโลว์เนีย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ผลัดใบ มีถิ่นกำเนิดทางตอนกลางและตะวันตกของประเทศจีน ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่เติบโตเร็วที่สุด โดยสูงขึ้น 3 ฟุต/ปี และเมื่อโตเต็มที่จะสูงได้ราว 30 - 40 ฟุต จัดเป็นไม้เอนกประสงค์เพราะแทบทุกส่วนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
เหมาะแก่การใช้ทำไม้แปรรูปก่อสร้างบ้าน ทำเฟอร์นิเจอร์ งานแกะสลัก หรืองานฝีมือของประดับต่าง ๆ
1. Balsa
(Ochroma pyramidale) 90 lbf (390 N)
บัลซ่า เป็นไม้เนื้ออ่อนที่สุดและเบาที่สุดในบรรดาไม้เชิงพาณิชย์ทั้งหมด ที่ได้จากต้นบัลซ่า ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกาใต้ เป็นไม้ที่เติบโตเร็วและลำต้นมีเนื้อไม้ที่เบามาก น้ำหนักของไม้บัลซ่าจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องการความเบาเป็นพิเศษ เช่น การทำเครื่องบินยาง เครื่องร่อน เรือจำลอง โมเดลต่างๆ และงานศิลปะ













