การล่มสลายของราชวงศ์พม่า
ราชวงศ์สุดท้ายของพม่าคือราชวงศ์คองบอง ซึ่งก่อตั้งโดยพระเจ้าอลองพญา ท่ามกลางความอ่อนแอของราชวงศ์ตองอูและการรุกรานของชาติตะวันตกอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส พระเจ้าอลองพญาทรงพยายามรวบรวมดินแดนและทรงรู้จักใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส ทำให้ราชวงศ์คองบองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม อังกฤษดำเนินนโยบายล่าอาณานิคมอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในพม่าผ่านการค้าและการขยายสิทธิพิเศษ นำไปสู่สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ซึ่งพม่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และเสียดินแดนส่วนล่างให้กับอังกฤษ
ในรัชสมัยพระเจ้ามินดง พม่าพยายามปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยและประนีประนอมกับอังกฤษ แต่ความขัดแย้งระหว่างชาวพม่าและอังกฤษยังคงมีอยู่ ประกอบกับปัญหาภายในราชสำนักที่อ่อนแอ มีการแก่งแย่งอำนาจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของพระนางอเลนันดอ ผู้ทรงมีอำนาจและอิทธิพลอย่างมาก
การสืบราชบัลลังก์หลังรัชสมัยพระเจ้ามินดงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการแย่งชิง พระนางอเลนันดอทรงวางแผนให้เจ้าชายทีบอ ซึ่งมิได้อยู่ในสายการสืบราชบัลลังก์ ขึ้นครองราชย์ และนำไปสู่การสังหารหมู่พระญาติและผู้ที่อาจเป็นภัยต่อบัลลังก์ สร้างความหวาดกลัวและความไม่พอใจทั้งในและนอกราชสำนัก
รัชสมัยพระเจ้าทีบอเต็มไปด้วยความอ่อนแอและการไร้เสถียรภาพ อำนาจส่วนใหญ่อยู่ในมือของพระนางศุภรัตน์ พระมเหสีของพระองค์ ซึ่งทรงขัดแย้งกับพระมารดา สถานการณ์ภายนอกก็ตึงเครียดจากการรุกรานของอังกฤษและการเข้ามามีอิทธิพลของฝรั่งเศส
จุดแตกหักที่นำไปสู่การล่มสลายคือเหตุการณ์โกงราคาไม้สัก อังกฤษใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างในการทำสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่ 3 ซึ่งพม่าที่อ่อนแออยู่แล้วไม่สามารถต้านทานได้ กองทัพอังกฤษเข้ายึดมัณฑะเลย์อย่างรวดเร็ว และเนรเทศพระเจ้าทีบอและราชวงศ์ทั้งหมดไปยังอินเดีย
การถูกเนรเทศถือเป็นการสิ้นสุดของราชวงศ์พม่า พม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษอย่างสมบูรณ์ และถูกรวมเข้ากับดินแดนที่อังกฤษยึดครองไว้ก่อนหน้านี้ เป็นการปิดฉากราชวงศ์ที่เคยยิ่งใหญ่และนำไปสู่ยุคสมัยใหม่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ
















