เมื่อเป็นไข้ ไม่ควรกินฝรั่ง จริงหรือ?
พอดีช่วงก่อนผมไม่สบาย เป็นไข้ตัวร้อนนิด ๆ ก็เลยอยากกินอะไรเย็น ๆ สดชื่น ๆ พอเปิดตู้เย็นเจอฝรั่งหั่นไว้ในกล่องพลาสติก ก็นึกถึงคำพูดของผู้ใหญ่ที่เคยได้ยินมานานว่า "เป็นไข้ อย่ากินฝรั่งนะ มันร้อนใน!" พอได้ยินแบบนั้นบ่อย ๆ เราก็เลยหลีกเลี่ยงมาตลอด แต่วันนี้สงสัยจริง ๆ ว่า ตกลงแล้วมันจริงมั้ย?
ผมเลยลองหาข้อมูลดูจากหลายแหล่ง ปรากฏว่า...
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งวิตามินซีก็มีประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยตรง โดยเฉพาะตอนที่เราป่วยเป็นไข้หรือเป็นหวัด วิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น ป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ด้วย
มีงานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนว่าวิตามินซีช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัด และฝรั่งนี่แหละ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มซะอีก!
บางแหล่งบอกว่า ฝรั่ง 1 ผล มีวิตามินซีมากถึง 3-5 เท่าของส้ม 1 ผลเลยทีเดียว
แล้วทำไมคนเฒ่าคนแก่ถึงมักจะบอกว่าอย่ากินฝรั่งตอนเป็นไข้?
อันนี้ผมคิดว่า น่าจะมาจากรสฝาดของฝรั่ง ที่บางคนกินแล้วอาจรู้สึกระคายคอ หรือถ้ามีอาการเจ็บคออยู่แล้ว อาจจะทำให้รู้สึกแสบ ๆ หรือระคายมากขึ้น เลยเหมือนกับว่า "กินแล้วไม่สบายขึ้น" จนกลายเป็นความเชื่อสืบต่อกันมา
แต่ถ้ามองในแง่โภชนาการและทางการแพทย์แล้ว ไม่มีข้อห้ามในการกินฝรั่งตอนเป็นไข้ ตราบใดที่เราไม่ได้เจ็บคอขั้นรุนแรง หรือไม่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร (เพราะฝรั่งมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง)
สรุปง่าย ๆ ก็คือ
ถ้าคุณเป็นไข้ และอยากกินฝรั่งเพื่อความสดชื่นและได้รับวิตามินซี ก็สามารถกินได้ครับ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
แค่เลือกผลที่ไม่ฝาดมาก ล้างให้สะอาด และกินในปริมาณพอดี ก็เพียงพอแล้ว
ใครที่ชอบฝรั่งเหมือนผมก็สบายใจได้เลยครับ ไม่ต้องหลบตู้เย็นอีกต่อไป!
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์โรงพยาบาลศิริราช
#ฝรั่งกับไข้ #วิตามินซีสูง #สุขภาพดี #เป็นไข้กินอะไรได้บ้าง #ความเชื่อกับความจริง #ผลไม้ต้านหวัด





















