“เปลือกมะม่วงสุกและดิบ” มีประโยชน์ที่หลายคนยังไม่รู้

“เปลือกมะม่วงสุกและดิบ” มีประโยชน์ที่หลายคนยังไม่รู้

 

 

ในปัจจุบันที่กระแสการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรและพืชผักผลไม้ใกล้ตัวกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง “มะม่วง” ผลไม้ประจำบ้านของคนไทย ก็มิได้มีดีแค่เนื้อที่หวานอร่อยหรือรสเปรี้ยวที่กระตุ้นน้ำลาย แต่ “เปลือกมะม่วง” ทั้งในสุกและดิบ กลับอัดแน่นไปด้วยสรรพคุณทางยาและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงประโยชน์ของ เปลือกมะม่วงสุก และ เปลือกมะม่วงดิบ รวมถึงวิธีการใช้แต่ละแบบอย่างละเอียด

 

เปลือกมะม่วงดิบ

 

สรรพคุณเด่น

 

มีสารแทนนินสูง มีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยในเรื่องของการรักษาแผลภายใน และช่วยแก้ท้องเสีย

 

ช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้

 

ช่วยดับกลิ่นปากและรักษาโรคเหงือก

 

มีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง

 

วิธีใช้

 

1. นำมาทำเป็นผงสำหรับโรยแผลภายนอก

 

ล้างเปลือกมะม่วงดิบให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

 

ตากแดดให้แห้งสนิท

 

นำไปบดให้ละเอียด เก็บไว้ในขวดแห้ง ใช้โรยแผลสดหรือแผลพุพอง เพื่อสมานแผลและลดการติดเชื้อ

 

2. ชงดื่มเพื่อช่วยเรื่องท้องเสีย

 

ใช้เปลือกมะม่วงดิบสด 1 ช้อนโต๊ะ

 

ต้มน้ำร้อน 1 ถ้วย ทิ้งไว้ 10-15 นาที

 

กรองเอาแต่น้ำ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

 

3. นำมาแปรรูปเป็นผงขัดฟัน

 

ตากเปลือกมะม่วงดิบให้แห้ง บดเป็นผงละเอียด

 

ผสมกับผงถ่านและเกลือเล็กน้อย ใช้แปรงฟันสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

 

เปลือกมะม่วงสุก

 

สรรพคุณเด่น

 

อุดมด้วยสารเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ

 

มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย

 

ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน

 

ลดอาการคันผิวหนัง และผื่นแพ้บางประเภท

 

วิธีใช้

 

1. ทำเป็นพอกผิวหน้าหรือผิวกาย

 

ล้างเปลือกมะม่วงสุกให้สะอาด

 

ปั่นรวมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และนมสด 1 ช้อนโต๊ะ

 

พอกบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก

 

ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อบำรุงผิวพรรณ

 

2. ทำสบู่เปลือกมะม่วง

 

ตากเปลือกมะม่วงสุกให้แห้ง

 

บดเป็นผงและผสมในสูตรสบู่ธรรมชาติ เช่น สบู่น้ำมันมะพร้าวหรือสบู่กลีเซอรีน

 

จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้กับสบู่

 

3. ทำชาสมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ

 

ตากเปลือกมะม่วงสุกให้แห้งสนิท

 

นำมาต้มกับน้ำสะอาด 3 ถ้วย เคี่ยวจนน้ำเหลือ 1 ถ้วย

 

กรองดื่มอุ่น ๆ มีประโยชน์ต่อระบบผิวหนังและต้านอนุมูลอิสระ

 

ข้อควรระวัง

 

ควรล้างเปลือกมะม่วงให้สะอาด เพราะอาจมีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงตกค้าง

 

ผู้ที่แพ้ยางมะม่วง ไม่ควรใช้เปลือกในทางภายนอกหรือรับประทานโดยไม่ปรึกษาแพทย์

 

เปลือกมะม่วงมีสารบางชนิดที่อาจกระตุ้นการระคายเคืองในบางคนได้

 

สรุป

 

เปลือกมะม่วงไม่ใช่เพียงแค่ของเหลือทิ้ง หากแต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นทั้งสมุนไพรบำบัดโรค และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงรู้จักวิธีใช้และเลือกให้เหมาะสม เปลือกมะม่วงก็สามารถกลายเป็น “ทรัพยากรล้ำค่า” ที่อยู่ใกล้ตัวเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ