วัยรุ่นมหาลัย เมื่อต้องออกค่ายจิตอาสา...จากเด็กกรุงเทพฯ สู่วัดปลายนา และบทเรียนจากห้องน้ำหลุม
สวัสดีชาวโลก
กระทู้นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ร่างกายของผมผ่านการซ่อมบำรุงมาเรียบร้อย หลังจากไป "ค่ายจิตอาสา" ของมหาลัย ที่ชื่อค่ายโคตรเท่ แต่ชีวิตจริงแม่มไม่เหมือนในโปสเตอร์เลย...
เริ่มต้นด้วยใจที่พร้อม แต่ไม่ได้พร้อมจริงๆ
เรื่องมันเริ่มต้นจากอาจารย์พูดว่า "ใครไปค่ายจิตอาสา จะได้ชั่วโมงกิจกรรมครบ!"
โอ้โห ทุกคนแห่กันยิ่งกว่าต่อแถวซื้อไอโฟน รุ่นใหม่ลด 50%
แน่นอน... ผมกับเพื่อนๆ ก็ไม่พลาด!
เราตั้งใจจะไปด้วยจิตอาสา (ปนบังคับเล็กๆ) หวังเก็บชั่วโมงไปเรียนจบไวๆ
สู่ดินแดนแสนห่างไกล...สัญญาณโทรศัพท์แทบจะต้องจุดธูปขอ
หลังจากนั่งรถบัสพลังแอร์ที่หนาวยันกระดูกไป 8 ชั่วโมง
เราเดินทางถึงหมู่บ้านปลายเนินกลางป่า
ที่มีประชากร 200 คน
แต่มีหมา 400 ตัว (รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในสารคดีเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก)
สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี ต้องปีนขึ้นไปบนโบสถ์ถึงจะเล่นไลน์ได้
WiFi ก็...ไม่ต้องหวังเลยครับพี่
เต็นท์ของจริง ไม่ใช่เต็นท์ใน IG
พอลงรถเสร็จ อาจารย์แจกเต็นท์ แล้วบอกให้ไปกางเอง
ผมกับเพื่อนที่ไม่เคยแม้แต่จะกางร่ม ยังไม่รู้เลยว่าเต็นท์มันมีหน้าหลังมั้ย
กางเสร็จดูเหมือนเจดีย์ทรุดในเมืองโบราณ
แต่ยังไงก็อยู่ได้ครับ...แม้คืนแรกจะมีตะขาบมาเยี่ยมด้วยก็ตาม
อาหาร 3 มื้อ...กับข้าวที่น้องหมาเล็ง
อาหารที่นี่คือ “ข้าวร้อนๆ กับไข่ดาวน้ำมันเยิ้ม”
กินไปเหงื่อตกไป เพราะแดดเมืองไทยตอนเที่ยงไม่เคยปรานี
มีบางมื้อที่มี "น้ำพริกปลาร้า" ซึ่งหอมจนหมาทั้งหมู่บ้านแห่มาล้อมวง
แต่ก็กินกันจนหมด...เพราะหิวแบบไม่มีอารมณ์เลือก
งานจิตอาสา = งานหนักกว่าฟิตเนส
งานของเราคือ ขุดดิน ปลูกต้นไม้ ทาสีโรงเรียน และปัดกวาดศาลาวัด
แต่ที่พีคสุดคือ...ให้ขุด "ห้องน้ำหลุม" สำหรับใช้ในค่าย
ใครคิดว่าชีวิตในค่ายโรแมนติก โปรดนึกถึงตอนนั่งปลดทุกข์กลางดึก
โดยมีเสียงกบร้องอยู่ข้างๆ แล้วจะเข้าใจ
พีคกว่านั้นคือมีเพื่อนเผลอหล่นโทรศัพท์ลงหลุม...
สุดท้ายต้องทำใจแล้วบอกว่า “ชีวิตมันก็ต้องมีอะไรหายไปบ้าง”
พี่น้องในค่าย = สนิทกว่าญาติ
สิ่งที่ดีที่สุดของค่ายนี้ คือ “มิตรภาพ”
เพราะตอนตักน้ำด้วยขันเดียวกัน
ตอนช่วยกันกางเต็นท์ (ที่เกือบกลายเป็นว่าวบิน)
และตอนนั่งล้อมวงแชร์เรื่องเล่าผีใต้แสงเทียน
มันทำให้เราสนิทกันแบบไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ต้องทำผม
บางคนเห็นหน้าสดกันทุกวัน จนตอนกลับมาเรียนไม่แน่ใจว่าใครเป็นใคร
คืนสุดท้าย...น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว
คืนสุดท้าย พวกเราจัดกิจกรรม “ส่งท้ายค่าย”
ทุกคนผลัดกันเล่าความประทับใจ
บางคนเล่าด้วยเสียงหัวเราะ บางคนเล่าด้วยน้ำตา
แต่สิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันคือ “เราจะไม่ลืม 5 วันที่ผ่านมา”
แม้จะไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีหมูกระทะ
แต่มี “ความทรงจำ” ที่หาจากไหนไม่ได้
บทสรุปจากค่ายจิตอาสา...ของเด็กมหาลัยใจกรุง
1. การเข้าห้องน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ามันเป็นหลุม
2. ชีวิตไม่จำเป็นต้องมี WiFi ถ้ามีเพื่อนดีๆ อยู่รอบตัว
3. แดดเมืองไทยร้อนจริงจัง แต่มิตรภาพในค่ายมันอุ่นยิ่งกว่า
4. ทุกคนควรได้ไปสักครั้งในชีวิต...เพื่อจะรู้ว่า
ความสุขไม่ได้มาจากห้องแอร์ แต่มาจาก “การให้” ที่ไม่มีเงื่อนไข
ใครเคยมีประสบการณ์ฮาๆ แบบนี้จากค่ายจิตอาสา มาแชร์กันได้เลยนะครับ
หรือใครกำลังลังเลจะไป...ไปเถอะครับ จะได้รู้ว่า
"การไม่ได้อาบน้ำ 3 วัน ไม่ได้ฆ่าใครตาย"
แค่ต้องฉีดน้ำหอมเพิ่มหน่อยแค่นั้
นเอง
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ฝากหัวใจให้ค่ายและความโคตรเหนื่อยนี้ไว้ในใจด้วย...










