ทำความรู้จักกับการรับผลิต “OEM & ODM และ OBM” โรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
ทำความรู้จักกับการรับผลิต “OEM & ODM และ OBM” โรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
การสร้างแบรนด์ในยุคนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนที่มีทุนมากหรือมีโรงงานเป็นของตัวเองเท่านั้น ด้วยบริการจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบต่าง ๆ เช่น OEM, ODM และ OBM ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิว เซรั่ม สบู่ หรือเครื่องสำอางประเภทใดก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้บริการจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ตอบโจทย์คุณที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับรูปแบบการผลิตทั้ง 3 และเปรียบเทียบข้อดีข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบ รวมถึงให้แนวทางในการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ใช่สำหรับคุณ
การผลิตแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer)
OEM คือ การผลิตในรูปแบบที่เจ้าของแบรนด์จ้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางให้ดำเนินการผลิตสินค้าให้ทั้งหมด โดยใช้สูตรมาตรฐานหรือสูตรที่มีอยู่เดิมของโรงงาน ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องสำอางจะดูแลตั้งแต่กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงขั้นตอนการจดแจ้ง อย. และจัดส่งสินค้า พร้อมให้คุณสามารถติดโลโก้แบรนด์ของตนเองและเริ่มทำตลาดได้ทันที
ข้อดีของ OEM:
- ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรหรือสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางเอง
- ไม่ต้องมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์หรือเคมีมาก่อน
- มีสูตรมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบคุณภาพแล้ว
- โรงงานผลิตเครื่องสำอางมักมีทีมที่ปรึกษาให้บริการแบบครบวงจร (One-Stop Service)
ข้อจำกัดของ OEM:
- ต้นทุนในการพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์สูงกว่า OEM เนื่องจากการพัฒนาสูตรเฉพาะต้องอาศัยกระบวนการวิจัยและทดลองจำนวนหลายรอบ ใช้สารสกัดพรีเมียมหรือนวัตกรรมใหม่ ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องสำอางจะต้องจัดทีมเฉพาะทางมาร่วมพัฒนา ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงกว่าการใช้สูตรสำเร็จรูปแบบ OEM อย่างเห็นได้ชัด
- ใช้เวลาพัฒนาสูตรนานขึ้นก่อนเริ่มผลิตจริง เพราะกระบวนการพัฒนา ODM ต้องผ่านการทดลอง การปรับสูตร การทดสอบความเสถียรภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดลองใช้จริงในกลุ่มเป้าหมายบางส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรนั้นตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง จึงต้องเผื่อเวลาในการเตรียมตัวมากกว่าระบบ OEM
การผลิตแบบ ODM (Original Design Manufacturer)
ODM เป็นรูปแบบการผลิตที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของตนเอง โรงงานผลิตเครื่องสำอางในระบบ ODM ไม่เพียงแค่ผลิตสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแนวคิด การออกแบบสูตร การทดสอบประสิทธิภาพ ไปจนถึงการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง การทำ ODM จึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถมีผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครได้โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางด้วยตัวเอง ซึ่งเหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีแนวทางชัดเจน ต้องการเติบโตแบบยั่งยืน และเน้นความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ข้อดีของ ODM:
- ต้นทุนในการพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์สูงกว่า OEM เนื่องจากการพัฒนาสูตรเฉพาะต้องอาศัยกระบวนการวิจัยและทดลองจำนวนหลายรอบ ใช้สารสกัดพรีเมียมหรือนวัตกรรมใหม่ ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องสำอางจะต้องจัดทีมเฉพาะทางมาร่วมพัฒนา ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงกว่าการใช้สูตรสำเร็จรูปแบบ OEM อย่างเห็นได้ชัด
- ใช้เวลาพัฒนาสูตรนานขึ้นก่อนเริ่มผลิตจริง เพราะกระบวนการพัฒนา ODM ต้องผ่านการทดลอง การปรับสูตร การทดสอบความเสถียรภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดลองใช้จริงในกลุ่มเป้าหมายบางส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรนั้นตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง จึงต้องเผื่อเวลาในการเตรียมตัวมากกว่าระบบ OEM
การผลิตแบบ OBM (Original Brand Manufacturer)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
OBM คือรูปแบบการผลิตที่เจ้าของแบรนด์เป็นผู้ดำเนินการทุกขั้นตอนเองแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแนวคิดสินค้า การวิจัยและพัฒนาสูตร การจัดซื้อวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการทำตลาดและจัดจำหน่าย โดยเจ้าของแบรนด์มักจะมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางเป็นของตัวเอง หรือควบคุมการผลิตผ่านระบบการจัดการที่ออกแบบขึ้นเฉพาะแบรนด์ OBM จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมคุณภาพ การดำเนินงาน และภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงต้องการวางรากฐานธุรกิจให้เติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง
ข้อดีของ OBM
- ต้นทุนต่ำ: เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรหรือสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางเอง ลดภาระทางการเงินและช่วยให้สามารถใช้เงินทุนไปกับการสร้างแบรนด์และการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่ต้องมีความรู้เฉพาะทาง: แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเคมีหรือวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ เพราะโรงงานผลิตเครื่องสำอางมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน
- มีสูตรมาตรฐานพร้อมใช้งาน: โรงงานผลิตเครื่องสำอางมักมีคลังสูตรที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และลดเวลาในการพัฒนา
- บริการครบวงจร (One-Stop Service): ตั้งแต่การผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ จดแจ้ง อย. ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า โรงงานผลิตเครื่องสำอางมีทีมงานที่พร้อมสนับสนุนในทุกกระบวนการ ช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถโฟกัสกับการสร้างแบรนด์และการขายได้อย่างเต็มที่
ข้อจำกัดของ OBM:
- สูตรสำเร็จอาจไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด เนื่องจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางในระบบ OEM จะเน้นการใช้สูตรที่ผ่านการพัฒนามาแล้ว และมีการผลิตในลักษณะเดียวกันให้กับหลายแบรนด์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจมีความคล้ายคลึงกันในด้านคุณสมบัติหรือกลิ่นสัมผัส
- ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนสูตรหรือคุณสมบัติสินค้าอาจมีจำกัด เพราะการพัฒนาสูตรใหม่ในระบบ OEM ไม่ใช่จุดแข็งหลักของโรงงานผลิตเครื่องสำอางในลักษณะนี้ ผู้ที่ต้องการนวัตกรรมเฉพาะแบรนด์ หรือสูตรเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ อาจต้องพิจารณาเลือกใช้ระบบ ODM แทน
โรงงานผลิตเครื่องสำอางแบบไหนเหมาะกับคุณ?
การเลือกใช้บริการจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และความพร้อมของแต่ละธุรกิจ หากคุณยังไม่มีทุนมาก และต้องการเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว OEM อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด แต่หากคุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ODM ก็เป็นคำตอบที่ดี ส่วน OBM เหมาะกับผู้ที่พร้อมสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางด้วยตัวเองและต้องการสร้างอาณาจักรแบรนด์ในระยะยาว
ทำไมการผลิตแบบ OEM ถึงได้รับความนิยม
ในยุคที่การเริ่มต้นธุรกิจต้องอาศัยความคล่องตัว การเลือกใช้บริการจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบ OEM ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เพราะ:
- ใช้ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
- มีสูตรมาตรฐานที่ผ่านการวิจัยและทดสอบแล้ว
- โรงงานผลิตเครื่องสำอางมีทีมที่ปรึกษาด้านสูตร การออกแบบ โลโก้ บรรจุภัณฑ์
- มีระบบการผลิตที่ทันสมัยและผ่านมาตรฐาน GMP, ISO, HALAL
- พร้อมให้คำปรึกษาด้านการตลาดและการจดแจ้งอย่างครบวงจร
เคล็ดลับเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ
- ตรวจสอบมาตรฐานโรงงาน: เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล เช่น GMP (Good Manufacturing Practice), ISO (International Organization for Standardization) และการรับรองจาก อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ซึ่งแสดงถึงความปลอดภัย ความสะอาด และกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพ เป็นสัญญาณว่าโรงงานนั้นมีความน่าเชื่อถือและสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคได้
- ดูความหลากหลายของสูตร: โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีสูตรให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรไวท์เทนนิ่ง ลดสิว ป้องกันริ้วรอย หรือสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ในอนาคตโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
- มีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D): ทีมวิจัยถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพ โรงงานที่มีทีม R&D จะสามารถช่วยพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา และยังสามารถช่วยแนะนำสารออกฤทธิ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างให้แบรนด์ของคุณได้
- บริการที่ครบวงจร: โรงงานที่ให้บริการ One-Stop Service ไม่เพียงแค่ผลิตสินค้า แต่ยังมีบริการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้ การจดแจ้ง อย. รวมถึงการวางแผนการตลาดและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเริ่มต้นได้อย่างมืออาชีพ โดยไม่ต้องประสานงานหลายฝ่ายให้ยุ่งยาก
- ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ: เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีประสบการณ์ในวงการมาอย่างต่อเนื่อง มีผลงานหรือแบรนด์ที่เคยร่วมผลิตเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถ ยิ่งโรงงานมีประสบการณ์มากเท่าไร ก็ยิ่งสามารถให้คำแนะนำและวางแผนกลยุทธ์ร่วมกับเจ้าของแบรนด์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากกระบวนการผลิตหรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้ดีกว่า
OEM, ODM, OBM – ทางเลือกของเจ้าของแบรนด์ยุคใหม่
ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหนในการสร้างแบรนด์ โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ดีต้องสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ บริการ และการสนับสนุนด้านการตลาด หากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยความมั่นใจ การใช้บริการจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีระบบครบวงจรและมีประสบการณ์คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
เพียว เดอริมา แลบบอราทอรีส์ จำกัด คือหนึ่งในโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ให้บริการครบทั้ง OEM และ ODM ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมมาตรฐานระดับสากล หากคุณต้องการคำปรึกษา หรือมองหาโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีความพร้อมในทุกด้าน ติดต่อเราได้ที่:
Facebook page: Pure Derima Laboratories
Website: Pure Derima Laboratories
Tel: 02-285-4266 และ 061-656-1449
Line: @PureDerima
IG: PureDerima
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!
