กระจกมีกี่ประเภท แล้วแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบใดบ้าง

 

กระจก เป็นวัสดุที่เราคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน ทั้งในการตกแต่งบ้าน อาคาร ร้านค้า รวมถึงใช้ในงานด้านความปลอดภัยหรืออุตสาหกรรม แต่ทราบหรือไม่ว่า "กระจก" มีหลากหลายประเภท และแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมต่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับกระจกแต่ละชนิด พร้อมแนะนำว่าแบบใดเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบไหน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัยค่ะ

 

1. กระจกใส (Clear Glass)

 

คุณสมบัติ: เป็นกระจกพื้นฐาน มีความโปร่งใส นิยมใช้มากที่สุด

เหมาะสำหรับ: งานตกแต่งภายใน เช่น หน้าต่าง ประตู ชั้นวางของหรือ

อาคารที่ต้องการแสงธรรมชาติ

ข้อควรระวัง: ไม่เหมาะกับบริเวณที่ต้องการความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวสูง

 

2. กระจกฝ้า (Frosted Glass)

 

คุณสมบัติ: ผิวกระจกถูกขัดหรือพ่นทราย ทำให้แสงผ่านได้แต่ไม่สามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจน

เหมาะสำหรับ:  ห้องน้ำและประตูห้องประชุม หรือ พื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ข้อดี: ยังคงให้แสงธรรมชาติผ่านได้

 

3. กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Glass)

 

คุณสมบัติ: แข็งแรงกว่ากระจกใสทั่วไป 4-5 เท่า หากแตกจะเป็นเม็ดเล็ก ลดอันตราย

เหมาะสำหรับ: ประตูอาคารสูงหรือหน้าต่างอาคารรวมถึงฉากกั้นอาบน้ำ

ข้อดี: ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีแรงกระแทกสูง

 

4. กระจกลามิเนต (Laminated Glass)

 

คุณสมบัติ: เป็นการนำกระจกสองแผ่นมาประกบกัน โดยมีฟิล์มพิเศษคั่นกลาง ทำให้เมื่อแตก เศษกระจกจะยังติดอยู่กับฟิล์ม

เหมาะสำหรับ: อาคารสูงกันเสียง

ใช้เป็นหลังคาหรือหน้าต่างที่ต้องการความปลอดภัยสูง

ข้อดี: ป้องกันเสียงได้ดี และลดความเสี่ยงจากการโจรกรรม

 

5. กระจกเงา (Mirror Glass)

 

คุณสมบัติ: ผิวเคลือบสารสะท้อนแสง นิยมใช้เพื่อส่องเงา

เหมาะสำหรับ: ห้องแต่งตัวหรือห้องน้ำ และงานตกแต่งภายใน

ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้ภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่อาจได้รับแรงกระแทก

 

6. กระจกสะท้อนแสง (Reflective Glass)

 

คุณสมบัติ: เคลือบสารพิเศษที่สะท้อนแสงและรังสี UV

เหมาะสำหรับ: อาคารสำนักงานา หรืออคารกระจกที่ต้องการลดความร้อน

ข้อดี: ประหยัดพลังงาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ

 

7. กระจกสองชั้น (Insulated Glass / Double Glazing)

 

คุณสมบัติ: กระจก 2 ชั้นมีช่องว่างอากาศตรงกลาง ช่วยป้องกันความร้อนและเสียง

เหมาะสำหรับ:  อาคารในเขตเมืองที่เสียงดังและเหมาะกับบ้านที่ต้องการรักษาอุณหภูมิภายใน

ข้อดี: ประหยัดพลังงาน และให้ความเป็นส่วนตัวสูง

 

สรุป

การเลือกใช้กระจกที่เหมาะสม ควรพิจารณาทั้งเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพการกันความร้อนหรือเสียง สำหรับการใช้งานในบ้านหรืออาคารพักอาศัย การเลือกใช้กระจกนิรภัยและกระจกลามิเนตจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ส่วนผู้ที่ต้องการลดอุณหภูมิในอาคาร กระจกสะท้อนแสงและกระจกสองชั้นคือคำตอบที่ดี

 

หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านตัดสินใจเลือกกระจกได้อย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการใช้งานนะคะ หากท่านมีข้อสงสัยหรือคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ในความคิดเห็นด้านล่างค่ะ