เจ้าหญิงเงือกน้อยกับไข่มุกแห่งปัญญา
เจ้าหญิงเงือกน้อยกับไข่มุกแห่งปัญญา
ใต้ท้องทะเลลึกที่ซึ่งแสงแดดแทบส่องไปไม่ถึง มีเมืองงดงามชื่อว่า อควาเรีย สร้างจากเปลือกหอย หินเรืองแสง และดอกไม้ทะเลที่เปล่งสีทุกครั้งที่มีกระแสน้ำไหลผ่าน ที่นั่นมีเจ้าหญิงเงือกน้อยนามว่า มีริน่า เธอเป็นลูกของราชาเนเรอุส ผู้ปกครองทะเลด้วยความยุติธรรม
มีริน่าเป็นเงือกน้อยที่ฉลาด กล้าหาญ แต่ดื้อรั้น เธอมักถามคำถามมากมาย เช่น “ทำไมเราต้องฟังคำสั่งผู้ใหญ่?” หรือ “ทำไมเราต้องกลัวสิ่งที่ยังไม่เคยเห็น
วันหนึ่งเธอได้ยินนางเงือกเฒ่าในตลาดเล่าเรื่อง ไข่มุกแห่งปัญญา
“ว่ากันว่าไข่มุกนั้นสามารถมอบพลังในการเข้าใจหัวใจของผู้อื่นแต่มีข้อห้ามห้ามใช้ไข่มุกด้วยใจที่ยังไม่พร้อม”
คำพูดนั้นฝังอยู่ในใจของมีริน่าเป็นอย่างมาก เธอไม่บอกเรื่องนี้ใครเลยแม้แต่เพื่อนสนิทอย่าง ลูโม่ ปลาหมึกจอมรู้ดีที่คอยเตือนเธอเสมอ
เธอแอบว่ายออกจากวังในคืนเดือนดับการเดินทางผ่านแนวปะการังดำที่ลึกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องเผชิญกับฝูงปลาฉลาม ปะการังพิษที่หากสัมผัสจะทำให้หมดสติ และแมงกะพรุนเรืองแสงที่ทำให้เธอเห็นภาพหลอน
เมื่อไปถึง ถ้ำแห่งกระซิบ สถานที่ที่ไข่มุกถูกเก็บไว้ เธอพบ ซีรอส ม้าน้ำผู้เฝ้าถ้ำมาหลายร้อยปี
“เจ้ามาด้วยความอยากรู้ หรือด้วยความตั้งใจจะเข้าใจ?”
“ทั้งสองอย่าง” มีริน่าตอบเสียงหนักแน่น
“ถ้าเช่นนั้น…จงฟังให้ดี”
ไข่มุกเปล่งแสงสีฟ้านุ่มนวล เมื่อเธอสัมผัสมัน ภาพมากมายก็ไหลบ่าเข้าสู่จิตใจของเธอ:
– เด็กปลาตัวเล็กๆ ที่กลัวการถูกทอดทิ้ง
– ฝูงปลาใหญ่ที่หิวโหยแต่ไม่อยากทำร้ายใคร
– พ่อของเธอที่นั่งเงียบๆ หน้าบัลลังก์ทุกคืน เพราะคิดถึงลูกสาวที่ไม่ฟังคำเตือน
หัวใจของเธอเจ็บปวดราวกับถูกบีบ แม้จะไม่มีบาดแผลภายนอกเลย
เมื่อมีริน่ากลับถึงอควาเรีย ทุกคนตกใจแต่ดีใจที่เธอปลอดภัย ราชาเนเรอุสกอดเธอแน่นโดยไม่พูดอะไร มีริน่าหลั่งน้ำตา
“ข้าเข้าใจแล้วท่านพ่อ… ข้าเคยคิดว่าความกล้าหาญคือการทำตามใจตัวเอง แต่แท้จริงคือการใส่ใจผู้อื่น”
จากวันนั้นเป็นต้นมา มีริน่าใช้เสียงอันไพเราะของเธอในการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปะการังที่เจ็บจากการถูกเหยียบ หรือปลาที่หลงทาง เธอกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกชีวิตในทะเลให้ความรักและเคารพ
แม้ไข่มุกแห่งปัญญาจะถูกคืนสู่ถ้ำแห่งกระซิบอีกครั้ง แต่แสงของมันยังอยู่ในหัวใจของมีริน่า และในเมืองอควาเรียที่เปล่งประกายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
ข้อคิดของเรื่อง:
ความเข้าใจผู้อื่น ไม่ได้เกิดจากการมองด้วยตา...แต่จากการฟังด้วยหัวใจ















