"นางสงกรานต์ขี่เสือ" หรือ "นอนบนครุฑ" – เมื่อตำราไทยและเขมรตีความต่างกันในเทศกาลเดียวกัน (แต่ก็น่าจะมีความสุขทั้งสองชาติเหมือนกันแหล่ะเด้อ)
เมื่อถึงช่วงเดือนเมษายนของทุกปี คนไทยบ้านเราก็จะเริ่มคึกคักไปด้วยกลิ่นอายของเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลแห่งน้ำ รอยยิ้ม และวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน (คนเขียนด้วยก็อีกคนแหล่ะเด้อ เตรียมไปงานวัดแถวบ้านแล้วเนี่ย ฮา) แต่น่าสนใจว่าในขณะที่เรากำลังนับถอยหลังรอน้ำเย็นสาดคลายร้อน หลายคนก็ตาโตเมื่อเห็นภาพโปรโมตงานสงกรานต์จากฝั่งเขมร ที่มีนางสงกรานต์ขี่เสือปรากฏตัวอย่างอลังการ
งงไหม? เราก็เช่นกัน เพราะตามตำราไทยแบบดั้งเดิมของปีนี้ นางสงกรานต์ผู้มาเยือนควรจะนอนหลับอยู่บนหลังครุฑ ซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะพยากรณ์ที่ระบุถึงลักษณะของปีนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นพาหนะ อาวุธ ทิศทางที่นางมา หรือแม้แต่นิสัยของนาง ที่ว่ากันว่าจะมีผลต่อพืชพรรณธัญญาหารและบ้านเมือง
แล้วทำไมนางสงกรานต์ของเขมรถึงมาขี่เสือ? หรือว่าตำราของเขาจะต่างออกไป? คำตอบคือ…น่าจะใช่แบบเต็มๆ เพราะแม้ไทยและเขมรจะมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันในหลายด้าน แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ “ตำราเดียวกันเป๊ะ” เสมอไป โดยเฉพาะเรื่องของตำนานและความเชื่อ ซึ่งมักถูกตีความต่างกันตามบริบทและรากเหง้าทางวัฒนธรรม
จึงไม่แปลกใจเลยถ้าเราจะเห็นนางสงกรานต์ในแบบต่าง ๆ บางปีขี่โค บางปีขี่ราชสีห์ และปีนี้พอทางไทยบอกว่านางต้องนอนหลับบนครุฑ ฝั่งเขมรก็จัดให้นางขี่เสือเสียเลย ทำเอาคนไทยอย่างเราถึงกับขมวดคิ้วเล็ก ๆ ปนอมยิ้ม แล้วพูดกับตัวเองว่า “สงสัยจะคนละตำราแน่ ๆ 5555”
แต่ไม่ว่าจะขี่เสือหรือครุฑ สงกรานต์ก็ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย และเป็นเทศกาลที่ยืนยันว่าความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ได้ทำให้เราแตกต่างจนห่างไกลกัน หากแต่ยิ่งทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ และเรียนรู้ว่าความเชื่อแบบไทย แบบเขมร หรือแบบใด ๆ ก็ตาม ล้วนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองทั้งนั้น
ส่วนอันนี้ของทางไทยเราเด้อครับเด้อ






















