นักเขียนคนแรกของโลกคือใคร

นักเขียนคนแรกของโลกคือใคร

สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันอยากชวนทุกท่านย้อนเวลากลับไปไกล…ก่อนยุคคริสตกาลหลายพันปี สมัยที่ยังไม่มีหนังสือเล่ม ไม่มีคีย์บอร์ด หรือแม้แต่กระดาษสักแผ่น แต่กลับมี “นักเขียน” ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กล้าหาญพอจะจับปากกาวาดเรื่องราวของตนลงบนแผ่นดินเหนียว และเธอคนนี้เองค่ะ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น…

“นักเขียนคนแรกของโลก” อย่างเอ็นเฮดูแอนนา (Enheduanna)

ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจจะงง ๆ เพราะไม่ใช่นามปากกาจีน หรือฝรั่งที่เราคุ้นเคยกันนะคะ เธอเป็นหญิงสาวชาวสุเมเรียน (Sumerian) ที่มีชีวิตอยู่เมื่อราว 2,300 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบ 4,300 ปีมาแล้วค่ะ

เธอไม่ใช่แค่หญิงสาวธรรมดา แต่เป็น "นักบวชหญิง" ลูกสาวของพระเจ้า Sargon แห่ง Akkad ซึ่งเป็นผู้ปกครองอาณาจักรใหญ่ในเมโสโปเตเมียโบราณ (ปัจจุบันคืออิรักตอนใต้)

แล้วเธอเขียนอะไร

ผลงานของเอ็นเฮดูแอนนาเป็นบทกวี และคำสรรเสริญเทพเจ้าหญิงอินันนา (Inanna) เทพีแห่งความรักและสงคราม ซึ่งเขียนเป็นภาษาคูนิฟอร์มลงบนแผ่นดินเหนียว และนั่นแหละค่ะ คือหลักฐานว่าเธอเป็น “นักเขียนที่มีชื่อและมีตัวตนจริงๆ” คนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

หนึ่งในบทกวีที่เธอเขียน เช่น “The Exaltation of Inanna” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการสรรเสริญเทพเจ้าเท่านั้นนะคะ แต่ยังสะท้อนความคิด ความศรัทธา และบทบาทของผู้หญิงในยุคนั้นด้วย เรียกได้ว่าเธอเป็น “กวีหญิง – นักคิด – นักบันทึก” ที่มีอิทธิพลตั้งแต่ก่อนจะมีคำเรียกว่า “นักเขียน” เสียอีก

ขอเสริมอีกนิดนะคะ คือผู้หญิงส่วนมากในยุคสมัยนั้นไม่มีบทบาททางสังคมหรือศิลปะ แต่เธอกลับลุกขึ้นมาใช้ “บทกวี” สื่อสารความศรัทธา ความรู้สึก และความคิดอย่างอิสระ

และที่น่าชื่นชมเลยคือ งานเขียนของเธอกลายเป็นต้นแบบให้กับบทกวีทางศาสนาอื่นๆ และได้รับการถ่ายทอดต่อมายาวนานถึงพันปีค่ะ

ดิฉันขอชื่นชมเธอด้วยใจจริงค่ะ…ลองคิดดูสิคะ สมัยนั้นไม่มีสมุด ไม่มีปากกา ไม่มีแม้แต่ภาษาเขียนอย่างที่เราคุ้นเคย แต่เธอกลับทิ้งร่องรอยความคิดลงในดินเหนียว ที่แม้แต่กาลเวลาก็ลบไม่ได้

และที่น่าปลื้มปริ่มยิ่งกว่านั้นคือ...นักเขียนคนแรกของโลก “เป็นผู้หญิง” ค่ะ

ในวันที่ดิฉันนั่งเขียนบทความนี้ ก็แอบยิ้มอยู่ในใจ เพราะแม้โลกจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน หัวใจของผู้หญิงที่อยากบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

ใครจะไปคิดล่ะคะ ว่าการเขียนบทกวีสรรเสริญเทพเจ้าบนแผ่นดินเหนียวเมื่อ 4,000 ปีก่อน จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโลกวรรณกรรมที่เรารู้จักในวันนี้

และหากคุณเองก็มีเรื่องราวในใจ อย่ารอให้ใครมาให้โอกาสค่ะ จับปากกาขึ้นมาแล้วเขียนเลย เผลอ ๆ คุณอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนในอีก 4,000 ปีข้างหน้าก็ได้นะคะ