ย้ายแล้วศพอลเวง ส่งคืนผิดครอบครัว
ย้ายแล้วศพอลเวง ส่งคืนผิดครอบครัว
กรณีนายวัชรินทร์ ธานีรัตน์ รอง นายกฯ อบต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีรรมราช นำศพนายพงศภัค อายุ 17 ปี ลูกชาย ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยญาติเดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลพัทลุง มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน หมู่ 2 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 3 วัน กระทั้งทราบภายหลังว่าศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านไม่ใช่นายพงศภัค ลูกชาย แต่เป็นศพของนายธนกฤต อายุ 16 ปี เพื่อนของลูกชาย
ล่าสุดบรรยากาศเช้าวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่งานบำเพ็ญกุศลศพ ญาติๆ ทั้งสองฝ่าย มีการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อเคลื่อนย้ายศพนายธนกฤต ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกกรูด หมู่ 3 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายวัชรินทร์ พ่อของนายพงศภัค เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องศพมีการพูดคุยเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว โดยทาง
ญาตินายธนกฤต จะเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหลังที่ยงวันนี้ อย่างไรก็ตามครอบครัวทั้งสองฝ่าย ยังติดใจ คาใจ สงสัย เรื่องการมอบศพให้ญาติ ว่าตำรวจ และโรงพยาบาลพัทลุง ใช้หลักเกณฑ์อย่างไรในการพิสูจน์ทราบศพ ก่อนมอบให้ญาติ รวมทั้งติดใจอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ว่าตำรวจมีการดำเนินการอย่างไร สรุปอุบัติเหตุอย่างไร ใครถูกใครผิด รถเทรนเล่อร์คู่กรณีจอดที่ห้ามจอดหรือไม่ คนขับมีการเปิดไฟสัญญาณหรือตั้งสิ่งกีดขวางเตือนคนขับขี่บนถนนหรือไม่ โดยครอบครัวทราบเพียงว่า คนขับรถเทรลเล่อร์เข้ามอบตัวกับตำรจ สภ.ควนขนุน แล้ว จึงอยากให้ตำรวจตำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง
ต่อมาเวลา13.00 น.ที่บ้านหมู่ 3 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของนายวัชรินทร์ ธานีรัตน์ รองนายก อบต.ควนพัง และตั้งศพผิดจากที่เข้าใจผิดว่าเป็นศพของนายพงศภัค อายุ 17 ปี ลูกชาย แต่ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าเป็นศพของนายธนกฤติ อายุ 16 ปี เพื่อนรักลูกชาย ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ส่วนลูกชายยังได้รับบาดเจ็บที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพัทลุง โดยหลังเสร็จพิธีสงฆ์มีการเคลื่อนศพนายธนกฤติ ออกจากบ้านหมู่ 3 ต.ควนพัง ไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพใหม่ที่วัดโคกกรูด ซึ่งห่างจากบ้านงานศพประมาณ 1 กิโลเมตรเศษโดยขณะเคลื่อนศพนายธนกฤตออกจากบ้านประมาณ 50 เมตรพระสงฆ์ให้หยุดขบวนศพ แล้วพระสงฆ์ทำพิธีเบิกทางศพให้นำศพไปไว้ที่วัดโคกกรูดแทน เมื่อถึงวัดญาตินำโลงศพตั้งในศาลาวัด โดยมีนางมณฑิตา อายุ 39 ปี แม่ของนายธนกฤต อายุ 16 ปี ตามไปส่งศพลูกชายด้วยบรรยากาศโศกเศร้าร่ำไห้ตลอดเวลา ก่อนที่แม่พยายามขอเปิดโลงศพเพื่อขอดูหน้าศพลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย แต่ถูกรองนายกฯและญาติ ห้ามไว้เพราะศพเสียชีวิตมาหลายวันไม่ควรเปิดดู ในที่สุดแม่ของนายธนกฤติ ยอมไม่เปิดโลงศพลูกชายและให้ตั้งบำเพ็ญกุศล คืนนี้สวดเป็นคืนแรกและกำหนดฌาปนกิจวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม
นางมณฑิตา แม่ กล่าวทั้งน้ำตาว่าตนสงสัยตั้งแต่วันแรกที่ไปเยี่ยมลูกชายที่โรงพยาบาลพัทลุง โดยสงสัยเรื่องการเจาะตุ้มหูและกรุ๊ปเลือดของลูกชายที่ไมไม่ตรงกัน แต่ไม่กล้าพูดอะไร กระทั้งทราบความจริงว่าศพที่ตายคือศพลูกชายตนไม่ใช่คนเจ็บ ตนเสียใจมาก แต่ก็ต้องทำใจ
ขณะที่นายวัชรินทร์ รองนายกฯกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งแพทย์ พยาบาล และตำรวจต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนยอมรับเสียใจกับผู้สูญเสียด้วยเพราะใครไม่อยากให้เกิดขึ้น















