ความรักบทที่สี่
นิยาม ความรักบทที่ 4. (24/3/68)
การตั้งกำแพงปกป้องหัวใจของตัวของคุณและอยู่ใน เซฟโซน ที่ปลอดภัยในมุมของตัวเอง
…..ก่อนอื่นนั้นต้องอย่าให้ใครมาทำร้ายหัวใจของคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการกระทำและคำพูด เพราะว่าชีวิต จิตใจของคุณนั้นมีคุณค่ามากพอ
…..หากคนรักของคุณเขารักคุณเหมือนที่เขาพูด เขาคงจะไม่ทำร้ายความรู้สึกของคุณ ทั้งด้วยการกระทำ คำพูด ทั้งๆที่คุณ ก็มอบความรัก ความซื่อสัตย์ต่อเขา แต่เมื่อคนรักของคุณในกรณีที่บางคนเขามีเส้นทางที่ดี มีอาชีพที่ดีกว่าคุณ เขาก็มักจะดูถูกคุณด้วยคำพูด เช่น ทำได้แค่นี้เหรอ ทำไมฉันต้องมานั่งทำนั่น ทำนี่ จ่ายค่าอะไรนั่นนี่ให้เธอ คำพูดเหล่านั้นคนพูดบางครั้งไม่รู้หรอกว่าคนฟังเขารู้สึกไม่ดี หรือเสียใจมากแค่ไหน คำว่าพูดตรง กับพูดแบบไม่คิด มันก็มีแค่เส้นบางๆที่กั้นอยู่ก็เท่านั้นเอง ในความสัมพันธ์เรื่องความรัก ถ้าอีกฝ่ายนั้นมีศักยภาพมากกว่า การช่วยเหลือ เกื้อกูลอีกฝ่ายนั่นก็ถือเป็นเรื่องปกติ
…..การที่อีกฝ่ายนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมากๆขนาดหนักไม่ยอมปรับลดอีโก้ในความสัมพันธ์ของคนสองคน ควรจะปรับจูนนิสัยส่วนตัวและพบกันแค่ครึ่งทาง ไม่ใช่เป็นตัวของตัวเองแบบสุดโต่ง จนกระทั่งไม่สนใจอะไรเลยสักอย่าง ทำตามความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเต็มร้อย จนลืมห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย อีกฝ่ายพูดอะไรนิดหน่อยก็ไม่ได้อีกคนก็จะหัวร้อน โมโห โวยวาย โกรธาตลอดๆ เอาแต่ใจมากๆ พูดอะไรนิดหน่อย ก็โกรธ แล้วก็ชอบใช้วาจาทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายหรือไม่ก็ทำทีเป็นหายเงียบไป
…..คนรักของคุณไม่เคยชัดเจนต่อคุณ ไม่เคยมองเห็นความดีของคุณสักนิด ความรักที่คุณให้เขาไปนั้นเขาไม่เคยมองเห็น ไม่เห็นค่า เพราะว่าเขาอาจจะมีทางเลือกที่มากมาย จึงเอาคุณไปเปรียบเทียบกับใครๆที่เขานั้นเฝ้าฝันและจินตนาการถึง
…..คนรักของคุณมักจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ เครียด เพราะว่าคนเรานั้นมักจะต้องพบเจอกับปัญหาที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันมากมายทั้งที่เป็นปัญหาส่วนตัว ครอบครัว ซึ่งมันก็มากพออยู่แล้ว เมื่อคุณหันหน้ามาหาคนที่คุณรัก คุณก็หวังจะได้ความสบายใจ เสียงหัวเราะ เป็นที่จรรโลงพักผ่อนหัวใจ มีความสุข แต่สิ่งที่คุณได้รับนั้นกลับกลายเป็นใบหน้าที่มึนตึงของคนรัก เขามักจะทำอารมณ์หงุดหงิดใส่คุณ พูดจาอะไรนิดหน่อยก็ไม่ได้ โกรธ หงุดหงิดใส่อีกฝ่ายตลอด ดูแย่ไปหมดทุกอย่าง แล้วถ้าเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดๆ คุณลองคิดดูซิว่า บรรยากาศของความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร
…..ถ้าคิดจะรัก อย่าถือดี อย่าเก่งหรืออยากชนะ ในความสัมพันธ์ และคิดว่าคุณนั้นดีกว่า เก่งกว่า เป็นคนคุมเกม สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง ในการทำงานการประกอบอาชีพนั้น การทำงานสามารถเก่งได้ แต่อย่าเก่งคำพูด อย่าเก่งและอยากเอาชนะคนที่คุณรัก ความรักนั้นอย่าเก่งใส่กัน มันจะทำให้ความสัมพันธ์นั้นมีแต่ความวุ่นวาย พังกับพัง เปลี่ยนมาเป็นหมั่นเติมความหวานให้กันจะดีกว่า จิตใจของคุณทั้งคู่จะได้มีความสุข สบายใจ
…..ความรักเมื่ออีกฝ่ายมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี มีอาชีพที่ดีกว่าอีกฝ่าย ทำให้บางครั้ง เกิดความทะนงตนว่า เก่งกล้า สามารถ และอีกฝ่ายต้องยอมให้ตลอด ความรักนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะมาเก่งใส่กัน คำพูดคำจานั้นอย่าเก่งใส่กัน อย่าพูดใหญ่ใส่กัน อย่าข่มอีกฝ่าย ความรักนั้นถ้าทั้งคู่รู้จักทำตัวให้เล็กลง หันมาเอาใจใส่กันมากขึ้น แคร์ ดูแลปกป้องแคร์อีกฝ่าย อะไรนิดหน่อย หรือคำพูดบางอย่างก็อย่าได้ถือสากัน อย่าเก็บมาคิด อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์ซะทุกอย่าง ความรักของคุณทั้งคู่ ก็จะเจริญเติบโตและยิ่งใหญ่ขึ้น
…..ในความสัมพันธ์ของคนสองคนนั้น ทุกคนต่างก็อยากจะโดนรักและเอาใจใส่ แคร์ กันทุกคน ไม่ใช่การเรียกร้องให้อีกฝ่ายมาสนใจ มอบความรักให้คุณ แคร์ ดูแลหัวใจ ความรู้สึก อยู่เพียงข้างเดียว แล้วอีกคนนั้นผู้ที่ได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ก็มีท่าทางไม่สนอกสนใจอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย คล้ายๆกับว่าคุณนั้นเป็นต่อ เก่ง เหนือกว่า สามารถจะทำอะไรกับอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ บางครั้งก็ไม่ได้เข้าใจว่า ความรักคือการปรับจูนเข้าหากันทั้งสองฝ่ายและมอบสิ่งดีๆให้กัน เพราะทุกคนนั้นต่างก็มีหัวจิตหัวใจด้วยกันทั้งคู่
…..คำพูดนั้นมีความสำคัญ มากๆในความสัมพันธ์ หากว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้น พยายามพูดดีๆเพื่อรักษาน้ำใจเสมอ แม้จะรู้สึกไม่ดียังไงก็ตามทีแต่อีกฝ่ายกลับพูดทุกอย่างที่ไม่ดีใส่คุณ ชัดคำพูดทุกอย่างใส่คุณอย่างไม่ยั้งคิด ลองคิดในทางกลับกัน ถ้าหากว่าคนรักของคุณทำแบบนั้นกับคุณบ้างคุณจะรู้สึกเช่นไร คุณจะทนได้ไหม ถ้ามีคนทำกับคุณเช่นนั้น การที่เราโยนหินใส่คนอื่น คุณคิดหรือว่าจะได้รับดอกกุหลาบโยนกลับคืนมา
@@@@@…..บางครั้งคนรักของคุณ เชื่อเหตุผลของตัวเองเป็นหลัก เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ทำเหมือนว่าคุณนั้นไม่มีสมอง ……เป็นเพียงแค่ทาสไว้รองรับอารมณ์ของเขาก็เท่านั้น อย่าลืมว่าความรู้สึกของคนเรานั้นมันมีขีดจำกัด ถึงจะรู้สึกรักมากแค่ไหน แต่ก็รู้สึกเหนื่อยใจในความสัมพันธ์มากๆ แทนที่เวลาที่มีความรัก คุณจะรู้สึกสุข สงบ และมีความผ่อนคลาย มีความสบายใจ แต่ต้องมาทนรองรับอารมณ์ของคนที่เรารัก มันก็จะทำให้กำลังใจของคุณนั้นถดถอย รู้สึกเพลีย เมื่อยล้า เหนื่อยใจอ่อนเพลีย ที่เขาเรียกกันว่า รักไปเหนื่อยไป ประมาณนั้น ความรักความสัมพันธ์ เมื่อไม่มีความสุขสักวันหนึ่ง มันก็คงจะต้องถึงทางแยกจนได้
…..ความเห็นแก่ตัวในความสัมพันธ์ เมื่อคนรักของคุณไม่พอใจอะไร ก็เอาแต่โวยวาย ดุด่า ตวาดใส่อีกฝ่าย โดยไม่รักษาน้ำใจของคนที่รับฟัง บางครั้งก็นิ่งเงียบหายไป มันทำให้ความสัมพันธ์นั้นดูจืดจาง ไม่สดชื่น พอเจอหน้า ก็มีแต่พูดหาเรื่องชวนทะเลาะในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ขุดขึ้นมาสารพัดเรื่อง ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง เพราะคนรักของคุณเอาทุกอย่างมาถือเป็นอารมณ์ซะหมด ไม่ยอมปล่อยวาง หรือมองข้ามเลยแม้แต่เรื่องเดียว จดจำ จดจ้องแต่จับพิรุธ เอามาเป็นข้อเสียของอีกฝ่าย แล้วใช้คำพูดจาแดกดัน ทำให้อีกฝ่ายนั้นรู้สึกไม่ดี ไม่มีความสุข การที่คนสองคนมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ควรจะให้แต่สิ่งที่ดีๆต่อกัน ไม่ใช่ให้สิ่งที่ทำลายอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่าย
…..ทางแก้และทางออกที่จะทำให้คุณนั้นรู้สึกดีขึ้นมา ในเมื่อแก้ไขหรือทำอะไรให้อีกฝ่ายนั้น ปรับปรุง ปรับเปลี่ยน ลด อีโก้ของเขาลงไม่ได้ คุณก็ต้องหันมาเปลี่ยนและโฟกัสเรื่องของตัวเองให้มาก อยู่กับตัวเองพัฒนาตัวเอง หาสิ่งที่คุณชอบทำ ไม่ได้พัฒนาตัวเองเพื่อที่ไปจะชนะใคร แต่เป็นการที่ชนะใจตัวเอง รักตัวเอง ทุกอย่างจะ สุข หรือ ทุกข์ อยู่ที่ตัวคุณเลือก
………………………………………………………………………………..












