วิธีหารายได้เสริมจากการเขียนนิยายขายบนแอปต่างๆที่ดิฉันจะนำมาแบ่งปันในวันนี้ อยากรู้ห้ามพลาด

วิธีหารายได้เสริมจากการเขียนนิยายขายบนแอป Dek-D, ReadAWrite, Meb, Dream และ ธัญวลัย

 

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ดิฉันอยากมาแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการหารายได้เสริมจากการเขียนนิยายขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ใครที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน หรือชอบแต่งนิยายอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง บทความนี้เหมาะกับคุณมาก ๆ ค่ะ

สมัยนี้การเขียนนิยายไม่ได้เป็นแค่เรื่องของงานอดิเรกอีกต่อไป เพราะสามารถสร้างรายได้ได้จริง บางคนทำเป็นอาชีพหลักเลยก็มี! ยิ่งถ้ารู้จักเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม บวกกับเทคนิคการลงนิยายให้ถูกจังหวะ รับรองว่ามีโอกาสปังแน่นอนค่ะ

1. สมัครเป็นนักเขียนยังไง

ก่อนอื่นเราต้องสมัครเป็นนักเขียนในแต่ละแพลตฟอร์มก่อนนะคะ วิธีสมัครไม่ยากเลย แค่เตรียม อีเมลและหมายเลขบัญชีธนาคาร เอาไว้รับเงิน แล้วเข้าไปสมัครตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ

Dek-D : www.dek-d.com/writer

ReadAWrite : www.readawrite.com

Meb : www.mebmarket.com

Dream : www.dreame.com

ธัญวลัย : www.tunwalai.com

เมื่อสมัครเสร็จ เราสามารถเริ่มลงนิยายได้เลยค่ะ แต่ละแพลตฟอร์มจะมีเงื่อนไขต่างกันนิดหน่อย เดี๋ยวดิฉันจะอธิบายให้ฟังค่ะ

 

2. แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นยังไง?

 Dek-D นิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุด: แนววัยรุ่น แฟนตาซี โรแมนติก

การหารายได้: เปิด "Coin" ให้คนอ่านซื้อ, หรือขายเป็นแพ็กเกจ

เหมาะสำหรับ: นักเขียนมือใหม่ที่อยากเริ่มต้น

  ReadAWrite

นิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุด: นิยายรัก, Y (BL/GL), ดราม่า, จีนโบราณ

การหารายได้: ตั้ง "เหรียญ" ได้เอง, ทำกิจกรรมเพื่อโปรโมต

เหมาะสำหรับ: นักเขียนที่อยากขายนิยายตอนละ 1-3 บาท

  Meb

นิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุด: อีบุ๊ก, นิยายทุกแนว

การหารายได้: ขายนิยายเป็นเล่ม (eBook)

เหมาะสำหรับ: นักเขียนที่มีนิยายจบแล้วและอยากขายเป็นเล่ม

  Dream

นิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุด: แฟนตาซี, โรแมนซ์, อีโรติก

การหารายได้: ต้องผ่านการคัดเลือกจากทีมงานก่อน

เหมาะสำหรับ: นักเขียนที่อยากขายนิยายแบบสัญญา (มีลิขสิทธิ์)

 ธัญวลัย 

นิยายที่ได้รับความนิยมสูงสุด: นิยายรัก, อีโรติก, แฟนตาซี

การหารายได้: เปิด "กุญแจ" ให้คนอ่านปลดล็อกตอน

เหมาะสำหรับ: นักเขียนที่อยากหารายได้จากนิยายแบบ Pay per Chapter

 

3. เทคนิคการลงนิยายให้ปัง คนอ่านเยอะ

 1. ลงนิยายช่วงเวลาไหนดีที่สุด
การลงนิยายให้ตรงช่วงเวลาที่มีคนอ่านเยอะ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้มีคนเห็นและติดตามมากขึ้นค่ะ

Dek-D และ ReadAWrite: 19.00 - 22.00 น. (ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน-เลิกงาน)

Meb : สามารถขายได้ตลอด เพราะเป็นระบบซื้อขาด

Dream และ ธัญวลัย: 20.00 - 23.00 น. (ช่วงเวลาคนว่างอ่านก่อนนอน)

 2. ควรลงบ่อยแค่ไหน?

ถ้าต้องการให้มีคนติดตามเยอะ ควรลงสม่ำเสมอ อย่างน้อย อัปเดต 3-4 วัน/สัปดาห์

ลงติดกันทุกวันในช่วงแรก จะช่วยดันให้นิยายติดอันดับง่ายขึ้น

 3. ตั้งราคานิยายยังไงให้ขายดี?

Dek-D & ReadAWrite:

ถ้านิยายใหม่ ควรเริ่มจาก "เปิดให้อ่านฟรี 10-15 ตอนแรก" แล้วค่อยเริ่มเก็บเหรียญ

ควรตั้งราคาไม่แพงเกินไป เช่น 1-2 บาท/ตอน

ทำโปรโมชั่นลดราคาตอนเป็นช่วง ๆ

Meb : นิยายที่จบแล้ว ควรตั้งราคา ไม่เกิน 199บาท สำหรับนักเขียนมือใหม่

ถ้ามีนิยายหลายเล่ม ควรทำ Boxset แบบลดราคา

ธัญวลัย : ควรใช้ระบบกุญแจ เปิดฟรี 3-5 ตอนแรก แล้วค่อยล็อกตอน

4. ทำปกนิยายให้น่าสนใจ

ปกนิยายเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดคนอ่านนะคะ ถ้าปกสวย โอกาสที่คนจะกดเข้ามาอ่านก็สูงขึ้นมาก ถ้าทำเองไม่เป็น สามารถจ้างนักออกแบบ หรือใช้แอป Canva ออกแบบได้ค่ะ

5. ใช้คีย์เวิร์ดให้ถูกต้อง

แต่ละแพลตฟอร์มมีระบบค้นหานิยาย เราควรใส่แท็กให้ตรงกับเนื้อหา เช่น

ถ้าเป็นนิยายจีนโบราณ ให้ใช้ #จีนโบราณ #ย้อนยุค

ถ้าเป็นนิยายรักวัยรุ่น ให้ใช้ #รักวัยรุ่น #โรแมนติก

ถ้าเป็นนิยายแฟนตาซี ให้ใช้ #แฟนตาซี #พลังวิเศษ

 

4. รายได้จากการขายนิยายอยู่ที่เท่าไหร่?

โดยเฉลี่ยแล้ว นักเขียนที่มีฐานแฟนคลับเยอะ สามารถมีรายได้ หลักหมื่นถึงหลักแสนบาทต่อเดือน เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่า…

เขียนนิยายแนวไหน (แนวที่คนอ่านเยอะ เช่น โรแมนติก จะขายดี)

ขยันอัปเดตสม่ำเสมอหรือไม่

ใช้เทคนิคการโปรโมตนิยายให้ถูกต้อง

สรุป : การเขียนนิยายขายไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีวินัยและรู้จักเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับตัวเองค่ะ ดิฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ได้ลองสร้างรายได้จากงานเขียนกันดูนะคะ

แล้วเพื่อน ๆ ลองเขียนนิยายลงแพลตฟอร์มไหนกันบ้าง มาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ