ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ตกลงร่วมมือกันด้านสันติภาพ

     รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ "โช แท ยูล" กล่าวว่า "ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ได้ตกลงกันในวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ว่า "สันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ของเราทั้ง 3 ชาติ [จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้]"

     "โช แท ยูล" กล่าวในการประชุมของนักการทูตระดับสูง ของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นที่จะ ส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าว...

     การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก การประชุมสุดยอดไตรภาคีที่กรุงโซล เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 ประเทศซึ่งมีปัญหาขัดแย้งทางประวัติศาสตร์และดินแดน ตกลงที่จะกระชับความสัมพันธ์ และ ยืนยันเป้าหมายในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ บนคาบสมุทรเกาหลีอีกครั้ง

     อย่างไรก็ตาม การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้น ในขณะที่อเมริกา กำลังขึ้นภาษีการค้าในภูมิภาคนี้ และ ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือ และ การส่งทหารไปสนับสนุนสงครามของรัสเซียกับยูเครนเพิ่มมากขึ้น

     "โช แท ยูล" กล่าวว่า "เราขอยืนยันว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ บนคาบสมุทรเกาหลี เป็นผลประโยชน์ และ ความรับผิดชอบร่วมกัน ของทั้ง 3 ประเทศ" และ "ความร่วมมือทางทหารที่ผิดกฎหมาย ระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ จะต้องยุติลงทันที!!"

     โดยทั่วไปแล้วโซลและโตเกียว มีท่าทีแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากกว่าจีน ซึ่งยังคงเป็นพันธมิตร และ ผู้ให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญที่สุดของเปียงยาง...

    รัฐมนตรีต่างประเทศ "ทาเคชิ อิวายะ" ของญี่ปุ่นกล่าวว่า "ผม "โช แท ยูล" และ "หวัง อี้" ได้แลกเปลี่ยนมุมมองอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับความร่วมมือไตรภาคี และ กิจการระหว่างประเทศในภูมิภาค" และ "เราจะส่งเสริมความร่วมมือ ที่มุ่งเน้นเพื่ออนาคตของเรา" และ "สถานการณ์ระหว่างประเทศ มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า เราอยู่ในจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ ซึ่งในบริบทนี้ การพยายามเอาชนะความแตกแยก และ การเผชิญหน้าผ่านการเจรจา และ ความร่วมมือ จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย"

     รัฐมนตรีต่างประเทศ "หวัง อี้" ของจีน กล่าวว่า "ปีนี้เป็นวันครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2" และ "เราจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราไตร่ตรองถึงประวัติศาสตร์อย่างจริงใจเท่านั้น" และ "การเสริมสร้างความร่วมมือ จะช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถต้านทานความเสี่ยงร่วมกัน ตลอดจนส่งเสริม ความเข้าใจร่วมกัน ระหว่างประชากรของตน"