เจ้าหน้าที่ UN เรียกร้องให้จัดสรรเงินทุน เพื่อช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นทั่วโลก

     เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้ออกคำร้องขอเงินช่วยเหลือเร่งด่วน จำนวน 10,248 พันล้านดอลลาร์ เพื่อแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งผู้ลี้ภัยและบุคคลที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่น ในปี 2025 จากทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่...

      ที่ปรึกษาอาวุโส "คาลิด คาลิฟา" ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และ ตัวแทนของหน่วยงานดังกล่าว ประจำประเทศสมาชิกคณะมนตรี ความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ กล่าวว่า "เนื่องจากจำนวนผู้อพยพที่ถูกบังคับเพิ่มขึ้น ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือ 123 ล้านคนทั่วโลก การจัดหาเงินทุนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการตอบสนองต่อทั้งความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นใหม่และวิกฤตที่ยืดเยื้อ"

     จนถึงขณะนี้ รัฐบาลผู้บริจาคได้ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 1,143 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงินเพิ่มเติมอีก 355 ล้านดอลลาร์ จากพันธมิตรภาคเอกชน ซึ่งทำให้ยอดบริจาคทั้งหมดอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเพียง 15% ของเงินทุนที่จำเป็นสำหรับปี 2025

     สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กำลังประสานงานกับรัฐบาล ประเทศเจ้าภาพ องค์กรระหว่างประเทศ และ พันธมิตรในพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการอันมหาศาล ของผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ

     "คาลิด คาลิฟา" ได้เน้นย้ำถึงความพยายามของหน่วยงาน ในการจัดหาทรัพยากรสำหรับบริการที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงที่พักพิง อาหาร น้ำ การดูแลสุขภาพ และ การศึกษา โดยกล่าวว่า "เราอาศัยแผนตอบสนองของหน่วยงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลเจ้าภาพในการให้ความคุ้มครอง และ ความช่วยเหลือแก่ทั้งผู้ลี้ภัยและชุมชน"

     "คาลิด คาลิฟา" กล่าวเสริมว่า "ซูดานเป็นหนึ่งในวิกฤตการณ์ที่เร่งด่วนที่สุด โดยความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ ทำให้ผู้คนกว่า 8.9 ล้านคนต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ" และ "อีก 3.4 ล้านคนต้องอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน" และ "เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ที่จำนวนผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนมิถุนายน 2024 มีผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่น 1 ใน 67 คนทั่วโลก ซึ่งเกือบ 2 เท่าของอัตราเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นมีผู้ถูกบังคับให้พลัดถิ่น 1 ใน 114 คน"

     เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ กล่าวเสริมว่า "จำนวนผู้พลัดถิ่นที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากสงครามและความขัดแย้ง ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เช่น สงครามในยูเครน สงครามในฉนวนกาซา และ สงครามในซูดาน ซึ่งโดยยังไม่มีแนวทางแก้ไขทางการเมืองที่ชัดเจน นอกจากนี้ วิกฤตการณ์ผู้พลัดถิ่นที่เกิดขึ้นมายาวนาน เช่น วิกฤตการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน และ ความขัดแย้งในซีเรีย ยังคงบีบให้ผู้คนนับล้านต้องพลัดถิ่นฐาน"