เช็กให้ชัวร์ อาการแบบไหน สัญญาณเตือน ! ร่างกายขาดวิตามิน วิธีเติมวิตามิน เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
ขาดวิตามินเอ
- เป็นหวัดง่าย การขาดวิตามินเอ ทำให้ภูมิต้านทานต่ำลง จึงเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย และทำให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูก ช่องปาก คอ และที่ต่อมน้ำลายได้ จึงทำให้เป็นหวัดง่าย
- ตาฟาง แสบตา มองไม่เห็นในที่แสงน้อย โดยธรรมชาติแล้วคนเราจะสามารถปรับสายตาให้เข้ากับความมืดได้ แต่ในผู้ที่ขาดวิตามินเอ จะมองเห็นในที่มืดได้น้อยลง อาจนำไปสู่ภาวะตาบอดกลางคืนได้
- ผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย เส้นผมเปราะบาง
แหล่งวิตามินเอ น้ำมันตับปลา ตับ ไข่แดง ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้สีเหลืองส้ม
ขาดวิตามินบี
- ชาตามแขนตามขา เป็นเหน็บชาบ่อย เพราะวิตามินบีมีส่วนช่วยในการบำรุงปลายประสาท การขาดวิตามินบี จึงทำให้เกิดอาการเหน็บชา
- เครียดง่าย หรือ ปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้ง วิตามินบีเป็นวิตามินต้านความเครียด คอยกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนลดเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอจึงอาจกระตุ้นให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล จนนำมาซึ่งโรคที่เกิดจาดความเครียดได้
- เบื่ออาหาร อะไรที่เคยชอบ เคยอยากกินก็พาลไม่น่ากินไปหมด เพราะวิตามินบีมีส่วนสำคัญในการย่อยอาหาร กระตุ้นการดูดซึมของไขมันและโปรตีนในร่างกาย การที่ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ จึงทำให้รู้สึกไม่อยากอาหาร
- โลหิตจาง วิตามินบีมีส่วนในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้เม็ดเลือดแดงสามารถลำเลียงออกซิเจนไปตามอวัยวะต่าง ๆ ได้ การได้รับวิตามินที่ไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ อาจส่งผลให้อวัยวะรวมไปถึงกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทำงานผิดปกติด้วย
- ผิวหนังอักเสบ แสบคันตามผิวหนัง เป็นสิว การขาดวิตามินบีทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไขมันจึงถูกขับออกมาตามส่วนต่าง ๆ ของผิวหนัง จนทำให้เกิดการอุดตัน อักเสบ และเป็นสิว
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดกล้ามเนื้อ ผมร่วง
- ปัญหาทางระบบประสาท อย่างเช่น ความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวน
แหล่งวิตามินบี เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว
ขาดวิตามินซี
- อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา อ่อนล้าเหมือนผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก หรือออกแรงยกของหนักทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร
- เลือดออกตามไรฟัน วิตามินซีมีส่วนช่วยในการบำรุงผนังหลอดเลือดฝอยให้แข็งแรง การขาดวิตามินจึงทำให้หลอดเลือดเปราะบางและแตกง่าย จึงทำให้เกิดปัญหาเลือดออกตามไรฟัน เกิดการอักเสบตามร่องเหงือก จนทำให้เกิดปัญหาในช่องปากตามมา
- ไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขาดวิตามินซีทำให้ร่างกายไม่สามารถเอาชนะเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่เข้ามาในร่างกายของเราได้ จึงทำให้ไม่สบายบ่อย
- ผิวหยาบกร้าน หมองคล้ำ แผลหายช้า ผิวแห้งกร้าน ผมร่วง วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
แหล่งวิตามินซี ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง กะหล่ำปลี มะเขือเทศ พริกหวาน
ขาดวิตามินดี แม้การขาดวิตามินดีจะได้มีอาการแสดงออกที่แน่ชัด เพราะวิตามินดีมีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส การขาดวิตามินดีจึงทำให้
- เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน กระดูกเปราะบาง ปวดกระดูก เป็นโรคที่ไร้สัญญาณเตือน จะทราบได้ก็ต่อเมื่อกระดูกของเราแตกหักไปแล้วเท่านั้น
- เสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคเบาหวาน และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
แหล่งวิตามินดี แสงแดด ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่แดง เห็ด
ขาดวิตามินอี
- ตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้าลง ทรงตัวได้ยาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ส่วนใหญ่การขาดวิตามินอี มักเกิดจากความผิดปกติของการดูดซึมไขมันของตับ ตับอ่อน และลำไส้ หรือพบในผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรม
- ผิวแห้ง แตก ลอกง่าย
แหล่งวิตามินอี น้ำมันมะกอก อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด
วิธีเติมวิตามิน เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ คือ แหล่งวิตามินชั้นดีที่ร่างกายต้องการ ควรเลือกอาหารหลากหลายชนิด ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต จากข้าวกล้อง ธัญพืช ผักผลไม้
- โปรตีน จากเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง
- ไขมันดี จากปลา น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว
- วิตามินและแร่ธาตุ อย่างเช่น ผักผลไม้หลากสี
- น้ำ โดยดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์
3.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การสูบบุหรี่จะทำลายวิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 12 และการดื่มแอลกอฮอล์ จะไปรบกวนการดูดซึมวิตามินบี 1 วิตามินซี รวมถึงแมกนีเซียม
4.รับประทานอาหารเสริมวิตามิน เลือกรับประทานวิตามินจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ตามคำแนะนำบนฉลากยา โดยมีปริมาณวิตามินอาหารเสริมที่ควรได้รับต่อวันจะแตกต่างกันตามเพศและวัย ทั่วไปอาจระบุได้ในเบื้องต้น อย่างเช่น
- วิตามินเอ ควรได้รับในปริมาณ วันละ 800-1,000 ไมโครกรัม
- วิตามินบี มีหลากหลายชนิด ร่างกายต้องการในปริมาณที่แตกต่างกัน อย่างเช่น วิตามินบี 1 ควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 ควรได้รับวันละ 7 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 ควรได้รับวันละ 20 มิลลิกรัม เป็นต้น
- วิตามินซี ควรได้รับในปริมาณ วันละ 80-100 มิลลิกรัม
- วิตามินดี ควรได้รับในปริมาณไม่เกิน วันละ 50 ไมโครกรัม
- วิตามินอี ควรได้รับในปริมาณไม่เกิน วันละ 1,000 ไมโครกรัม
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เขมรสั่งห้ามจุดพลุฉลองปีใหม่ในกรุงพนมเปญ
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
บทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น
ดาราดัง "บริจิตต์ บาร์โดต์" เสียชีวิตแล้ว
การส่งต่อความสุขของคนในเมือง ความสุขเล็กๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนในส่วนของปี
เห็นแบบนี้แล้ว คุณยังกล้าใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าต่อหรือไม่?
ทรัมป์ดีใจ เลยแสดงความยินดี ที่ไทยและเขมรหยุดยิง!!
เคล็ดไม่ลับ นึ่งข้าวให้เหนียวนุ่ม
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
ความแตกต่างของ มัทฉะ (Matcha) และ ชาเขียว (Green Tea)
ไข่ดาวน้ำเพื่อสุขภาพ
6 เมนูต้อนรับสงกรานต์ เริ่ดไม่ซ้ำบ้านอื่น!
คนขับรถรับส่งสนามบินเส้นทางฮาเนดะและนาริตะป่วย รัฐบาลโตเกียวขอให้ทุกคนที่เคยใช้บริการเฝ้าระวัง
คิม จองอึน แสดงแสนยานุภาพทางทหารของเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง
ฟีเจอร์ลับของตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติในญี่ปุ่น
สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันมะเร็ง! โดยจะป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งเต้านมด้วยการฉีดเพียงครั้งเดียว








