นั่งทำงาน ใช้ชีวิต หน้าคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อยู่กับหน้าโทรศัพท์มือถือ ทั้งวัน กินแล้วไม่ขยับไปไหน เสี่ยงอ้วนลงพุง
หลายคนที่มักใช้ชีวิต ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อยู่กับหน้าโทรศัพท์มือถือ ทั้งวัน อาจเสี่ยงอ้วนลงพุงได้โดยไม่รู้ตัว สังเกตได้จาก
- บิลค่าอาหารที่สั่งจากนอกบ้านเพื่อมาส่งเพิ่มมากขึ้น
- โพสภาพอาหารที่ทำลงโซเชียลมีเดียเกือบทุกวัน บางคนโพสทั้ง 3 มื้อ
- เปิดตู้เย็นบ่อย เพื่อหาของกินมาแกล้มระหว่างทำงานที่บ้าน
- ติดซีรีส์ ละครจนนอนดึก ไม่ยอมออกกำลังกายเพราะฟิตเนสปิด
- ชีวิต Move on เป็นวงกลม ตื่น กิน ทำงาน กิน ทำงาน กิน ทำงาน ดูหนัง เล่นเกมส์ นอน
ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกอาหารที่ไม่ทำให้อ้วนง่ายประกอบกับการออกกำลังกาย ง่าย ๆ ในบ้าน ทำให้ไม่เสี่ยงอ้วนลงพุง เพียงแค่มีวินัยและแบ่งเวลาให้เป็น
เลือกอาหารให้เป็น โดยเฉพาะน้ำมันประกอบอาหาร
- น้ำมันพืชส่วนใหญ่มีโอเมก้า 3, 6 , 9 จะต่างกันที่สัดส่วนของโอเมก้าแต่ละชนิด ถ้าจะเลือกน้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ ควรเลือกน้ำมันพืชที่มีโอเมก้า 9 สูง เช่น น้ำมันมะกอก แต่น้ำมันมะกอกชนิด Extra virgin ไม่เหมาะกับการทอดเพราะจุดเกิดควันต่ำ แต่สามารถกินกับสลัดได้ หากต้องการเลือกอาหารแบบผัด ให้เลือกชนิด Extra Light ส่วนน้ำมันที่มีโอเมก้า 9 รองลงมา เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำรำข้าว
- หากชอบอาหารทอด ให้มองหาน้ำมันที่ไฟแรงปานกลาง-แรง โดยน้ำมันในกลุ่มนี้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเพราะมีโอเมก้า 3 และ 9 สูง เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันคาโนล่า น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันวอลนัท แต่ราคาจะค่อนข้างสูง
- แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีกรดไขมันแบบสายกลาง ย่อยง่าย แต่เนื่องจากประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวสูง จึงไม่เหมาะในผู้ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
ผักผลไม้ 5 สี เน้นอาหารเพิ่มภูมิต้านทานร่างกายและไม่ทำให้อ้วน
- ผักผลไม้สีเขียว เช่น แอปเปิ้ลเขียว องุ่นเขียว กีวี คะน้า กะหล่ำปลี แตงกวา จะมีสารสำคัญ คือ คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ผักผลไม้สีแดง เช่น สตรอเบอร์รี่ องุ่นแดง ดอกกระเจี๊ยบ มะเขือเทศ พริกแดง หอมแดง จะมีสารสำคัญ คือ ไลโคปีน (Lycopene) เบตาไซซีน (Betacycin) เควอซิทิน (Quercetin) เฮสเพอริดิน (Hesperidin) สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด
- ผักผลไม้สีม่วง สีน้ำเงิน เช่น องุ่น บลูเบอร์รี่ ลูกพรุน มะเขือม่วง กะหล่ำม่วง มันม่วง ข้าวเหนียวดำ ข้าวลืมผัว จะมีสารสำคัญ คือ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และสารกลุ่มฟีนอลิก แอซิด (Phenolic acid) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ
- ผักผลไม้สีเหลืองและสีส้ม เช่น เสาวรส แคนตาลูป มะละกอ สับปะรด แครอท ข้าวโพด มันเทศ พริกเหลือง จะมีสารสำคัญ คือ แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินเอ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และวิตามินซี (Vitamin C) มีส่วนช่วยในการลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ผักผลไม้สีขาว เช่น น้อยหน่า ลิ้นจี่ มังคุด หัวไชเท้า ดอกกะหล่ำ ขิง กระเทียม เห็ด จะมีสารสำคัญ คือ เบต้า กลูแคน (Beta glucan) และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ช่วยบำรุงเม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อยู่กับหน้าโทรศัพท์มือถือ เป็นเวลานานๆ ให้เน้นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา
- สารในตระกูลแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) เช่น ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งพบในบริเวณเนื้อเยื่อตา และ พบมากที่สุดบริเวณจุดศูนย์กลางของจอประสาทตา ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจกและโรคจอตาเสื่อม ได้ 40% ทั้งยังช่วยกรองแสงสีฟ้าที่อาจทำลายดวงตาได้ เสริมได้จาก จากผักใบเขียว ไข่แดง กีวี องุ่น ซูกินี ข้าวโพด
- สารไลโคปีน (Lycopene) จากผิวมะเขือเทศ เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ช่วยป้องกันเยื่อบุตาอักเสบ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา
- สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) พบในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่รวม (Mixed Berry Blend) เช่น บิลเบอร์รี แครนเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสเบอร์รี โกจิเบอร์รี หรือ เก๋ากี้ ต่างก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของจอประสาทตา ฟื้นฟูเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงดวงตา
- สารเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) พบในฟักทอง แครอท มันหวาน มะม่วงสุก มะละกอสุก หรือแคนตาลูป ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ป้องกันดวงตาจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต เวลาที่เราออกไปข้างนอก
การออกกำลังกายที่บ้านง่ายๆ สามารถใช้ทั้งอุปกรณ์และน้ำหนักตัวเป็นแรงต้าน หากใครที่ชอบเข้าครัว พอมีเวลาระหว่างรออาหารสุก หรือ รู้สึกเบื่อๆ จากงานที่ทำ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่กำลังดูหนังที่ชอบ สามารถแบ่งเวลาในระหว่างนั้นมาออกกำลังกาย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เราห่างไกลจากการเสี่ยงอ้วนลงพุงได้












