เหตุวิวาทกลางถนน! "คู่สามีภรรยา vs. พ่อลูก" ซัดกันนัว ใช้หมวกกันน็อกกระหน่ำตีไม่ยั้ง
เหตุวิวาทกลางถนน! "คู่สามีภรรยา vs. พ่อลูก" ซัดกันนัว ใช้หมวกกันน็อกกระหน่ำตีไม่ยั้ง
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม เวลา 08:00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุวิวาทกลางถนนที่สี่แยกในเมืองฉาวโจว ในเขตผิงตง ไต้หวัน ระหว่างคู่สามีภรรยาและพ่อลูก คาดว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาการขับขี่ของทั้งสองฝ่าย ทั้งคู่จึงเปิดศึกกลางถนน ไม่เพียงแต่ใช้มือตี แต่ยังใช้หมวกกันน็อกตีใส่กันอย่างแรง ฝ่ายคนขับน่าจะไม่ระวัง เผลอออกหมัดโดนใส่ตัวภรรยาลงไปกองกับพื้น ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะซัดกันนัวจากกลางถนนไปถึงข้างทาง แม้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา จะเข้าห้ามปรามอย่างไร ก็ไร้ผล
บนถนนที่เกิดเหตุ ประตูข้างคนขับรถ มีผู้หญิงคนหนึ่งฟุบอยู่ที่พื้นใกล้ๆ แต่ไม่นานนัก เธอก็ลุกขึ้นมาและพยายามห้ามทะเลาะวิวาท
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด อีกฝายมีการใช้หมวกกันน็อกกระหน่ำตีไม่ยั้ง ไม่มีใครยอมใครจริงๆ การทะเลาะวิวาทยืดเยื้อจากกลางถนนไปยังข้างถนน แม้ว่าผู้สัญจรไปมา จะพยายามห้ามปราม แต่ก็ไร้ผล เหตุการณ์นี้คาดว่า ผู้ขับขี่ชายน่าจะมีปากเสียงกับคนขับรถชาย ก่อนที่บานปลายเป็นการลงไม้ลงมือในที่สุด
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า: "เหมือนมีคนนึงสูงวัยกับเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ดูเหมือนจะผอมๆ ดุดันมาก เห็นขี่มอเตอร์ไซค์มา แล้วคนขับรถไม่รู้ว่าจะไปชนหรือเปล่านะ แต่คนขี่มอเตอร์ไซค์ดูเหมือนโหดอยู่ ยังเตะรถด้วย"
การมีปากเสียง จนกลายเป็นการลงไม้ลงมือนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม เวลาประมาณ 08:00 น. ที่สี่แยกฟู่ซิงและกวงฮัว ในเมืองฉาวโจว เขตผิงตง ขณะนั้นพ่อลูกขี่มอเตอร์ไซค์ กับคู่สามีภรรยาที่ขับรถยนต์ เกิดมีปากเสียงระหว่างกัน หลังจากนั้นก็มีการแลกหมัดกลางอากาศ และสุดท้าย ชายขับรถ เหมือนจะไม่ได้ตั้งใจ ซัดหมัดโดนภรรยาตนเอง จนไปกองกับพื้น แล้วตัวสามีก็ยังสู้ต่อกับคู่พ่อลูกต่อ จนมีผู้ขับขี่ที่ผ่านไปมาไม่ได้ ต้องหยุดรถ แล้วเข้ามาห้ามศึกครั้งนี้
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า: "เหมือนคนขับรถ ไม่ค่อยอยากยุ่งกับพวกเขา แต่เหมือนรถเขาจะถูกเตะซ้ำๆ เขาเลยลงจากรถมา"
ตำรวจจากสถานีตำรวจฉาวโจว ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบพบผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยในไต้หวัน การทะเลาะวิวาทนี้ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 304 เรื่องการบังคับขู่เข็ญ และตามกฎหมายการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม มาตรา 87 เรื่องการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างบุคคล
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ทั้งสองฝ่ายก็หนีหายไปในพริบตา แต่ตำรวจเตรียมติดตามตัวทั้งสองฝ่าย เพื่อทำการสอบสวนและหาสาเหตุที่แท้จริงเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา: TVBS News HD






















