หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

OKR คืออะไร แตกต่างกับการวัดผลแบบ KPI อย่างไรบ้าง?

โพสท์โดย tothemoon555

OKR คือสิ่งที่ช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและสามารถติดตามผลได้จริง การทำ OKR จะช่วยขับองค์กรให้เกิดการพัฒนาและสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้

ในโลกของธุรกิจการประเมินและวัดผลในทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้องค์กรสามารถปรับปรุงและพัฒนาต่อไป โดยที่จะใช้การวัดผลแบบ KPI และ OKR คือสองแนวทางที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แม้จะดูคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วมีจุดประสงค์และแนวทางการใช้งานที่แตกต่างกัน คำถามที่ว่าการวัดผลแบบไหนที่เหมาะกับองค์กรของเรากันแน่? หรือแท้จริงแล้วควรใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กัน? 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงความแตกต่าง จุดเด่น และวิธีเลือกใช้ OKR กับ KPI ให้เหมาะสม เพื่อให้การตั้งเป้าหมายและการวัดผลในองค์กรของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!


แนวคิด OKR คืออะไร? มีจุดเด่นอย่างไร?

OKR คือกรอบการตั้งเป้าหมายและวัดผลที่ช่วยให้องค์กรและทีมสามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญที่ต้องการบรรลุ โดยมีโครงสร้างหลัก 2 ส่วน ได้แก่ Objectives หรือเป้าหมายที่ต้องการทำให้สำเร็จ และ Key Results หรือตัวชี้วัดที่ใช้วัดว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่

โดยจุดเด่นของ OKR มีดังนี้


ทำไม OKR จึงจำเป็นต่อทุกองค์กร? 

เพราะองค์กรไม่สามารถพึ่งพาแค่แผนงานระยะยาวเพียงอย่างเดียวได้ แต่จำเป็นต้องมีระบบที่ช่วยกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ติดตามผลได้จริง และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว นี่คือเหตุผลที่แนวคิด OKR (Objectives and Key Results) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกเลือกใช้ OKR ไม่ใช่แค่การตั้งเป้าหมายทั่วไป แต่เป็นแนวทางที่ช่วยให้ทีมและองค์กร สามารถมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญที่สุดและทำงานได้อย่างสอดคล้องกัน พร้อมกับวัดผลได้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ซึ่งข้อดีของการทำ OKR คือ


OKR ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญอะไรบ้าง?

OKR คือแนวคิดที่ช่วยให้องค์กรและทีมกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้จริง โดยมี 2 องค์ประกอบหลักที่ทำให้ OKR มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนองค์กร นั่นก็คือ Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์หลัก) ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ

Objectives การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและทรงพลัง

Objectives หรือเป้าหมายที่องค์กรหรือทีมต้องการทำให้สำเร็จ โดยทั่วไปแล้ว Objectives ควรมีลักษณะที่ชัดเจน เข้าใจง่าย สามารถสร้างแรงบันดาลใจหรือมีคามท้าทาย กระตุ้นให้ทีมอยากทำให้สำเร็จ และควรเป็นคำอธิบายที่สร้างภาพใหญ่ของความสำเร็จ ที่อาจไม่ใช่แค่ตัวเลข

Key Results การวัดผลลัพธ์ให้ชัดเจนและจับต้องได้

Key Results คือตัวชี้วัดที่บอกว่าเราบรรลุเป้าหมาย (Objectives) แล้วหรือยัง Key Results จะต้องเป็นข้อมูลที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบของตัวเลขหรือค่าที่จับต้องได้ แต่ก่อนที่จะประเมินว่าเราทำสำเร็จแล้วหรือยัง ต้องมีการระบุรายละเอียดว่าต้องทำอะไรให้สำเร็จบ้างเป็นลำดับขั้นตอน และกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้าได้


หลักการตั้ง OKR ให้มีประสิทธิภาพ มีอะไรบ้าง?

การตั้ง OKR ที่ดีไม่ใช่แค่การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องออกแบบให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรและทีมไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง โดยใช้หลัก 5 ข้อต่อไปนี้ 


OKR ต่างกับ KPI อย่างไร

OKR คือระบบตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้องค์กรและทีม มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่ท้าทายและสร้างผลลัพธ์ที่มีความหมาย โดยมีการกำหนด Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ตัวชี้วัดผลลัพธ์) เพื่อใช้วัดความสำเร็จ ทำให้ OKR เหมาะกับองค์กรที่ต้องการตั้งเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ กระตุ้นให้ทีมทำสิ่งที่ท้าทายและก้าวไปข้างหน้า

ตัวอย่างการเขียน OKR

Objective: “สร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”

Key Results: คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า (CSAT) เพิ่มจาก 4.2 เป็น 4.8 และเว็บไซต์ใช้เวลาโหลดหน้าเว็บจาก 3 วินาทีเป็น 1.5 วินาที ทำให้มีอัตราการกลับมาใช้งานเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 55%

ส่วน KPI เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ใช้วัดผลการดำเนินงานขององค์กร ทีม หรือบุคคล โดย KPI จะเป็นเกณฑ์ที่บอกว่า “งานที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพหรือไม่” และช่วยให้ทีมสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ในเชิงปริมาณได้ ซึ่งจะ KPI เหมาะกับการติดตามผลการดำเนินงานของกระบวนการที่มีอยู่ และใช้ตรวจสอบว่าประสิทธิภาพของงานเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่

ตัวอย่างการเขียน KPI

ทีมการตลาดบริษัทหนึ่ง ต้องการ KPI ที่จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ต่อเดือน ≥ 100,000 คน มีอัตรา Conversion Rate ≥ 5% และมียอดขายที่เกิดจากโฆษณาออนไลน์ ≥ 500,000 บาท


OKR กุญแจสำคัญสู่การเติบโตขององค์กร

การนำ OKR มาใช้ไม่เพียงช่วยให้ทีมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว OKR จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้ไว พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมและความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

เนื้อหาโดย: tothemoon555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tothemoon555's profile


โพสท์โดย: tothemoon555
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลบทเรียนรักกลางสมุทร: อดีตลูกเรือสำราญเตือนสติ ทำไม "ความรักในที่ทำงาน" บนเรือถึงเป็นดราม่าที่หนีไม่พ้น10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตดาราดัง "บริจิตต์ บาร์โดต์" เสียชีวิตแล้วการส่งต่อความสุขของคนในเมือง ความสุขเล็กๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนในส่วนของปีพรรคภูมิใจไทยส่งแคมเปญ ‘พูดแล้วทำ พลัส’ ผ่านบทเพลงฝีมือ"ดี้ นิติพงษ์ - สุเมธ""ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบทรัมป์ดีใจ เลยแสดงความยินดี ที่ไทยและเขมรหยุดยิง!!5 อันดับศาสตร์เวทย์ลี้ลับที่คุณไม่เคยรู้เขมรสั่งห้ามจุดพลุฉลองปีใหม่ในกรุงพนมเปญ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยความแตกต่างของ มัทฉะ (Matcha) และ ชาเขียว (Green Tea)ไข่ดาวน้ำเพื่อสุขภาพ6 เมนูต้อนรับสงกรานต์ เริ่ดไม่ซ้ำบ้านอื่น!เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด โฆษณา ประชาสัมพันธ์
เรตินอลคืออะไร? แนะนำเรตินอลยอดนิยมที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2026จะซื้อโซฟาใหม่ดูอะไรบ้าง? 5 ทริคเลือกโซฟาที่ใช่ทริคเลือกเก้าอี้สนามเดินป่า ใช้นาน ไม่พังง่ายโรงงานผลิตครีมที่รับผลิตครีมสำหรับแบรนด์ใหม่ ควรเลือกอย่างไรในปี 2026
ตั้งกระทู้ใหม่