โบท็อกลิฟกรอบหน้า กรอบชัด หน้าเป๊ะ เลือกยี่ห้อไหนดี?

โบท็อกลิฟกรอบหน้า กรอบชัด หน้าเป๊ะ เลือกยี่ห้อไหนดี? 

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า คืออะไร?

โบท็อกลิฟกรอบหน้า (Lifting Botox) คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ไปยังบริเวณผิวชั้นตื้นตามแนวกรอบหน้า ลำคอ และเหนียง เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผิวกระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ทำให้โครงหน้าดูชัดขึ้น การฉีดนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและมีมิติขึ้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม และสามารถใช้ควบคู่กับการฉีดโบท็อกลดกรามเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

การทำงานของโบท็อกลิฟกรอบหน้า

หลักการของการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า คือ การทำให้กล้ามเนื้อผิวตึงกระชับ และช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยการฉีดลงไปในชั้นผิวที่ตื้นกว่าการฉีดโบท็อกลดกราม ซึ่งโบท็อกซ์จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ผิวดูตึงและกระชับมากขึ้น

 

เทคนิคยอดนิยมในการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

การลิฟกรอบหน้าด้วยโบท็อกมี 2 เทคนิคหลัก ที่ได้รับความนิยม ได้แก่

• Dermo Lift

เป็นฉีดโบท็อกเข้าไปในชั้นผิวตื้นตามแนวกรอบหน้า ช่วยให้ผิวยกตัวขึ้นและแนวกรอบหน้าชัดขึ้นโดยตรง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ระยะเวลาของผลลัพธ์ประมาณ 1-2 เดือ สามารถเห็นผลทันทีหลังฉีด

• Nefertiti Lift

เป็นฉีดโบท็อกเข้าไปที่กล้ามเนื้อพลาทีสมา (Platysma Muscles) บริเวณลำคอ ยกกระชับกรอบหน้าตั้งแต่คางไปจนถึงลำคอ ทำให้ใบหน้าดูเรียวและได้สัดส่วนที่ชัดเจนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอและกรอบหน้า ระยะเวลาของผลลัพธ์ประมาณ 3-4 เดือน สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานกว่าการฉีดแบบ Dermo Lift

 

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าดีไหม? อันตรายหรือเปล่า?

การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า ไม่เป็นอันตราย หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้โบท็อกของแท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. โดยข้อดีของการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า ได้แก่ 

• เห็นผลไว – ผิวจะเริ่มกระชับขึ้นภายในไม่กี่วัน
• ไม่ต้องพักฟื้น – หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
• ช่วยปรับรูปหน้า – ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• ลดเหนียงและความหย่อนคล้อย – ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

แต่ถ้าหากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือใช้โบท็อกปลอม อาจเกิดอาการปากเบี้ยว คิ้วตก หรือดื้อโบท็อกได้

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า กี่วันเห็นผล?

หลังจากฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้และการดูแลหลังฉีด

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า เหมาะกับใครบ้าง?

• ผู้ที่ต้องการให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
• ผู้ที่ต้องการกระชับใบหน้าให้ดูยกขึ้น
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น
• ผู้ที่ต้องการเสริมโครงหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น
• ผู้ที่ต้องการลดเหนียงและลำคอหย่อนคล้อย

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต?

การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าใช้ ประมาณ 30-50 ยูนิต แต่ปริมาณที่แน่นอนขึ้นอยู่กับขนาดของใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/botox/botox-lift

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า ยี่ห้อไหนดี?

โบท็อกที่นิยมใช้สำหรับลิฟกรอบหน้า ได้แก่

• Allergan (USA)

โบท็อกจากอเมริกา มาตรฐานสูง ออกฤทธิ์แม่นยำ กรอบหน้าคมชัด อยู่ได้นาน 5-6 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติ

• Xeomin (Germany)

โบท็อกเยอรมันที่บริสุทธิ์ 100% ไม่มีโปรตีนเจือปน ลดโอกาสดื้อโบท็อก ใช้ต่อเนื่องได้ยาว ๆ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน เหมาะกับคนที่เคยดื้อโบท็อก และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

• Dysport (UK)

โบท็อกจากอังกฤษ มีโมเลกุลเล็ก กระจายตัวดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการลิฟกรอบหน้าให้ละมุน ไม่แข็งตึง

• Nabota (Korea)

โบท็อกเกาหลีตัวแรกที่ได้รับ USFDA (มาตรฐานอเมริกา) ราคาเข้าถึงง่าย ออกฤทธิ์ไว อยู่ได้นาน 4-6 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการคุณภาพระดับสากล ในราคาที่ประหยัดกว่า

• Aestox (Korea)

โบท็อกเกาหลีบริสุทธิ์สูง 99.5% เห็นผลไว อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ราคาประหยัด เหมาะกับคนที่ต้องการโบท็อกคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า

• Hugel (Korea)

โบท็อกจากบริษัทเดียวกับ Aestox ให้ผลลัพธ์ที่ดี ราคาสบายกระเป๋า เหมาะกับคนที่อยากทดลองฉีดลิฟกรอบหน้าในราคาที่คุ้มค่า

 

อันตรายจากการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าปลอม

การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย จำเป็นต้องใช้โบท็อกของแท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากเลือกฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้โบท็อกปลอม อาจเสี่ยงต่อ ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ดังนี้

• ไม่เห็นผลแม้ฉีดไปแล้ว

โบท็อกปลอมไม่มีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้ออย่างแท้จริง ตัวยาเสื่อมคุณภาพ ไม่สามารถยกกระชับกรอบหน้าได้ ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

• คิ้วตก ปากเบี้ยว หรือหน้าแข็ง

เกิดจากการฉีดโบท็อกในจุดที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้ตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ปากเบี้ยว หนังตาตก หรือหน้าแข็งตึงจนไม่เป็นธรรมชาติ

• อาการบวมแดง หรือแพ้

โบท็อกปลอมอาจมีสารปนเปื้อน หรือไม่ได้ผ่านมาตรฐานความสะอาด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ อักเสบ หรือบวมแดงผิดปกติ หากมีอาการรุนแรง อาจเกิดเป็นตุ่มหนอง หรือผื่นขึ้นทั่วใบหน้า

• ติดเชื้อ หรือเกิดอาการดื้อโบท็อก

หากโบท็อกไม่มีมาตรฐาน หรือฉีดในสถานที่ที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หากใช้โบท็อกที่มีโปรตีนเจือปนมาก หรือฉีดบ่อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อก จนดื้อยา ทำให้โบท็อกครั้งต่อไปไม่ได้ผล

 

วิธีป้องกันอันตรายจากโบท็อกลิฟกรอบหน้าปลอม

• เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง จากกระทรวงสาธารณสุข
• ตรวจสอบชื่อแพทย์ที่ฉีด ว่าเป็นแพทย์จริง ผ่านเว็บไซต์แพทยสภา
• ใช้ โบท็อกของแท้ 100% ที่ได้รับการรับรองจาก อย. (อย่าเลือกโบท็อกราคาถูกเกินจริง!)
• ตรวจสอบ ขวดโบท็อกต้องมีฉลากชัดเจน มีเลขล็อตและวันหมดอายุระบุชัด
• แพทย์ต้อง ดึงยาให้ดูต่อหน้า และสามารถนำกล่องโบท็อกกลับบ้านได้
• หลีกเลี่ยงคลินิกที่ ไม่มีรีวิวจริง หรือโฆษณาราคาถูกเกินไป

 

ฉีดโบลิฟกรอบหน้าที่ไหนดี?

• คลินิกต้องมีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
• ใช้โบท็อกของแท้ ดึงยาต่อหน้า
• มีรีวิวจากผู้ใช้จริง
• แพทย์ต้องเป็นผู้ฉีดเอง และสามารถตรวจสอบชื่อแพทย์ได้

 

โบท็อกลิฟกรอบหน้า ราคาเท่าไหร่?

ราคาของโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกและจำนวนยูนิตที่ใช้ โดยปกติราคาจะเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป

 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

• งดกด นวด ถูใบหน้า
• หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ใช้ความร้อนสูง
• งดดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วัน
• งดนอนราบภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกลิฟกรอบหน้า

โบท็อกลิฟกรอบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
อยู่ได้ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้

ผู้ชายฉีดโบลิฟกรอบหน้าได้ไหม?
ได้! โดยเฉพาะผู้ชายที่ต้องการให้กรอบหน้าและแนว Jawline คมชัดขึ้น

ลิฟกรอบหน้าทำร่วมกับอะไรได้บ้าง?
สามารถทำร่วมกับ Hifu, Ulthera, Thermage หรือโบท็อกลดกราม เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น