Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แอตลาส ยักษ์ผู้แบกโลก

เนื้อหาโดย nuengpaisarn

แอตลาสกับการแบกท้องฟ้า

บทที่ 1: สงครามแห่งเทพเจ้า

เสียงสายฟ้าฟาดกระทบพื้นโลกดังกึกก้อง หมู่เมฆดำปกคลุมท้องฟ้า ขณะที่สนามรบของเหล่าทวยเทพและไททันเปี่ยมไปด้วยเสียงคำรามแห่งสงคราม ดินแดนโอลิมปัสสั่นสะเทือนราวกับกำลังจะพังทลาย เทพโอลิมเปียนและไททันกำลังต่อสู้กันในการศึกครั้งสุดท้าย

ท่ามกลางหุบเขาที่ลุกเป็นไฟ แอตลาส (Atlas) ยืนสูงตระหง่านราวกับภูเขาสูง แขนแข็งแกร่งของเขากำดาบขนาดมหึมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และศรัทธาในพวกพ้องของตนเอง ในฐานะหนึ่งในไททันที่ทรงพลังที่สุด เขาเป็นแม่ทัพของกองทัพแห่งไททันนำโดยโครนัส (Cronus) ผู้ต้องการรักษาบัลลังก์แห่งจักรวาลไว้จากลูกชายของตน ซุส (Zeus)

“ไททันทั้งหลาย! เราจะไม่ยอมแพ้ต่อพวกเด็กโอลิมเปียน! เราคือบรรพชนแห่งสวรรค์และโลก! พวกมันไม่มีสิทธิ์มาทำลายพวกเรา!” แอตลาสตวาดก้อง

เสียงคำรามของเหล่าไททันดังกึกก้องไปทั่วสมรภูมิ ไฟสงครามลุกโชนขึ้นขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าสู่สนามรบ อาวุธกระทบกันเสียงดังสนั่น ดินแดนแยกออกเป็นสองฝั่ง ไซโคลอปส์ (Cyclops) กู่ร้องและขว้างก้อนหินขนาดมหึมาลงมาจากยอดเขา ฝ่ายเทพโอลิมเปียนเองก็ไม่ยอมแพ้ ซุสระดมสายฟ้าโจมตีลงมายังแผ่นดิน ขณะที่โพไซดอน (Poseidon) ก่อคลื่นมหาสมุทรสูงตระหง่านบดขยี้กองกำลังของไททัน

แอตลาสปะทะกับเฮคาโทนไครีส (Hecatoncheires) ยักษ์ร้อยแขนผู้ทรงพลัง ศัตรูของเขาสาดหมัดร้อยกำปั้นใส่ร่างของเขา แต่แอตลาสยืนหยัด โต้กลับด้วยกำลังของไททัน เขาคว้าขาของมันและเหวี่ยงลงกระแทกพื้น เสียงดังสนั่นไปทั่ว

แต่แม้ว่าพวกไททันจะต่อสู้อย่างแข็งแกร่ง พวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะกลอุบายของเทพโอลิมเปียนได้ เมื่อสงครามดำเนินต่อไปเป็นเวลาสิบปี เหล่าไททันเริ่มอ่อนล้า ซุสใช้โอกาสนี้โจมตีด้วยสายฟ้าสุดท้ายที่เผาผลาญกองทัพไททันจนสิ้นซาก

แอตลาสคุกเข่าลง เขาหายใจหนัก เลือดสีทองไหลออกมาจากบาดแผลทั่วร่างกายของเขา เขามองไปรอบ ๆ เห็นพี่น้องของตนถูกโซ่แห่งโอลิมเปียนตรึงไว้อย่างไร้ทางสู้

ซุสยืนอยู่เหนือเขา ดวงตาส่องแสงดั่งอสนีบาต “แอตลาส เจ้าผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ไททัน เจ้าจะไม่ถูกขังไว้ในทาร์ทารัสเหมือนพี่น้องของเจ้า”

แอตลาสจ้องกลับอย่างเยือกเย็น “แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอะไร เป็นทาสของพวกเจ้าเช่นนั้นหรือ?”

ซุสหัวเราะเยาะ “เจ้าไม่สมควรถูกขังในความมืดมิด แต่เจ้าสมควรได้รับบทลงโทษที่คู่ควรกับพลังของเจ้า” เขาชี้ขึ้นไปบนฟ้า “เจ้าจะต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวาล… เจ้าจะต้องแบกท้องฟ้าไว้ตลอดกาล”

ก่อนที่แอตลาสจะทันเอ่ยปาก แรงมหาศาลก็พุ่งเข้ามากดทับร่างของเขา ไหล่ของเขาถูกกดลงอย่างแรงราวกับโลกทั้งใบทับถมลงมาบนบ่า หัวเข่าของเขาทรุดลงกับพื้น มือของเขายกขึ้นรองรับภาระอันหนักอึ้ง เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดของจักรวาล น้ำหนักของดวงดาวและหมู่เมฆที่ถาโถมลงมาบนเขา

เสียงหัวเราะของซุสดังก้องไปทั่ว “นี่แหละ… บทลงโทษของเจ้า แอตลาส!”

แอตลาสกัดฟัน พยายามฝืนทานแรงกดอันหนักหน่วง แม้แต่พละกำลังของไททันเช่นเขาก็แทบไม่อาจต้านทานได้ เขารู้ดีว่าเขาจะต้องแบกรับสิ่งนี้ไปตลอดกาล

และตั้งแต่วินาทีนั้น… แอตลาสจึงกลายเป็นไททันผู้แบกท้องฟ้า

นี่คือบทที่ 1 ฉบับขยาย ซึ่งเน้นการบรรยายที่ลึกขึ้น เพิ่มบทสนทนา และขยายฉากสงครามให้เต็มไปด้วยอารมณ์และความเข้มข้น

ฉันจะเขียนบทต่อไป บทที่ 2: ภาระอันไร้ที่สิ้นสุด เพื่อเพิ่มรายละเอียดของชีวิตของแอตลาสหลังจากได้รับบทลงโทษ พร้อมเพิ่มองค์ประกอบของแฟนตาซีและดราม่าต่อไป

บทที่ 2: ภาระอันไร้ที่สิ้นสุด

แอตลาสยืนอยู่เดียวดายใต้ภาระอันหนักอึ้งของท้องฟ้า ดวงตาของเขามองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น แต่ไม่มีหนทางใดให้หลุดพ้น สายลมเย็นพัดผ่านร่างของเขา นำพากลิ่นของทะเลและเสียงแผ่วเบาของพายุที่กำลังใกล้เข้ามา

วันแล้ววันเล่า เขายืนอยู่ ณ จุดเดิม เสียงของเหล่าเทพและมนุษย์เงียบหายไปนานแล้ว เขาถูกลืมเลือนไปจากประวัติศาสตร์ ไม่มีผู้ใดพูดถึงไททันที่เคยยิ่งใหญ่ บัดนี้ เขาเป็นเพียงเสาหินที่ค้ำยันสวรรค์

แต่ในค่ำคืนหนึ่ง ท้องฟ้าก็ปั่นป่วนผิดปกติ พายุพัดรุนแรง แรงกดของสรวงสวรรค์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ร่างของแอตลาสสั่นสะท้าน เขาได้ยินเสียงก้องกังวานที่ดังมาจากท้องฟ้า

"แอตลาส... ถึงเวลาที่เจ้าต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง"

เขาขมวดคิ้ว เสียงนี้มาจากไหน? เทพเจ้าองค์ใดกันที่ยังสนใจชะตากรรมของเขา?

แสงสว่างพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ร่างของบุคคลหนึ่งเดินออกจากม่านแห่งแสง ชายผู้นั้นสวมชุดคลุมสีเงิน เรืองรองราวกับดวงดาวในราตรี ดวงตาของเขาส่องประกายลึกซึ้งและลึกลับ

"เจ้าเป็นใคร?" แอตลาสเอ่ยถาม เสียงของเขาหนักแน่นแต่เต็มไปด้วยความระแวง

"ข้าคือพรอมิธีอุส พี่น้องของเจ้า" ชายผู้นั้นกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ "ข้ามาที่นี่เพื่อเสนอทางเลือกให้เจ้า"

แอตลาสมองพี่ชายของเขาด้วยความสงสัย พรอมิธีอุส ไททันผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยเหลือมนุษย์ โดยขโมยไฟจากโอลิมปัสให้พวกเขา แล้วทางเลือกที่เขากล่าวถึงคืออะไร?

"เจ้ามีหนทางช่วยข้าหรือ?" แอตลาสถาม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวังอันริบหรี่

พรอมิธีอุสพยักหน้า ดวงตาของเขาเป็นประกายแห่งปัญญา "มีหนทางเสมอ หากเจ้ากล้าที่จะเลือกมัน แต่หนทางนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ เจ้าอาจต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าการแบกท้องฟ้าเสียอีก บางทีอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าสงสัยถึงตัวตนและจุดหมายของตนเอง"

เขาหันไปมองแอตลาสอย่างลึกซึ้งก่อนกล่าวต่อ "ข้ารู้ดีว่าเจ้าคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ไททัน แต่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากเจ้าอยากจะปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการนี้ เจ้าต้องใช้มากกว่ากำลัง เจ้าต้องใช้ปัญญาและเล่ห์เหลี่ยม เพื่อเล่นเกมที่เทพเจ้าเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์"

แอตลาสเลิกคิ้ว ขณะที่ความสงสัยและความหวังสลับกันแทรกเข้ามาในจิตใจ "แล้วข้าต้องทำอย่างไร? บอกข้ามาเถิด พรอมิธีอุส ข้าทนอยู่เช่นนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"

พรอมิธีอุสถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แอตลาสมากขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิด "เฮราคลีส... เขาอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เจ้าหลุดพ้นจากโชคชะตานี้ได้"

แอตลาสเลิกคิ้ว สายตาของเขาสงสัย "เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าต้องการให้ข้าใช้มนุษย์นั่นทำสิ่งใดกัน?"

พรอมิธีอุสยิ้มจาง ๆ "เฮราคลีสกำลังเดินตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากเหล่าโอลิมเปียน และหนึ่งในนั้นเกี่ยวข้องกับสวนเฮสเพอริดีส หากเจ้าสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วย แผนของเราจะเป็นไปได้"

แอตลาสขมวดคิ้ว "เฮราคลีสอาจแข็งแกร่ง แต่เขาจะช่วยข้าได้อย่างไร? เขาเองก็เป็นเพียงมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นบุตรแห่งซุส แต่ก็ยังมีขีดจำกัด"

พรอมิธีอุสพยักหน้า "แต่สิ่งที่เขามีมากกว่าคือความฉลาดและความกล้าหาญ เขาต้องการแอปเปิลทองคำ และมีเพียงเจ้าที่รู้ว่ามันอยู่ที่ใด หากเจ้าสามารถเสนอข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อเขา บางที... เจ้าจะสามารถวางภาระนี้ลงได้แม้เพียงชั่วครู่ และอาจมีโอกาสเป็นอิสระจากมันตลอดกาล"

แอตลาสนิ่งเงียบ สายตาของเขาทอดไปยังขอบฟ้า อิสรภาพที่เขาใฝ่ฝันอยู่ใกล้แค่เอื้อม หรือมันเป็นเพียงภาพลวงตาอีกครั้งหนึ่ง? เขารู้ดีว่าพรอมิธีอุสมักมีแผนการซับซ้อนที่แฝงด้วยเล่ห์เหลี่ยมเสมอ คำพูดของพี่ชายทำให้เกิดความสับสนในใจของเขา

เขายกมือขึ้นลูบเคราอย่างครุ่นคิด "แล้วถ้าข้าตกลงล่ะ? หากเฮราคลีสช่วยข้าได้จริง ข้าจะต้องแลกกับสิ่งใด?"

พรอมิธีอุสยิ้มมุมปาก "นั่นขึ้นอยู่กับว่าเจ้ายินดีจะเสียสละสิ่งใดเพื่ออิสรภาพ บางครั้งราคาของมันอาจสูงกว่าที่เจ้าคาดคิด"

แอตลาสหายใจลึก ความหนักอึ้งในใจเขาไม่ต่างจากน้ำหนักของท้องฟ้าที่กดลงบนบ่าของเขา หากนี่คือโอกาสเดียวของเขา เขาจะกล้าเดิมพันกับโชคชะตานี้หรือไม่?

บทที่ 4: เส้นทางสู่ข้อตกลง

แอตลาสยืนนิ่ง ครุ่นคิดถึงข้อเสนอของพรอมิธีอุส ทุกสิ่งในใจของเขาต่างปะทะกันระหว่างความหวังและความกลัว เขามองออกไปยังขอบฟ้า ซึ่งแม้จะเป็นเพียงภาพจำเจที่เขาเฝ้ามองมาเป็นพัน ๆ ปี แต่วันนี้กลับดูแตกต่างออกไป

"แล้วข้าจะต้องทำอย่างไร?" แอตลาสเอ่ยถามในที่สุด เสียงของเขาเต็มไปด้วยความลังเล

พรอมิธีอุสคลี่ยิ้มเล็กน้อย "เฮราคลีสกำลังจะมาหาเจ้า เขาต้องการแอปเปิลทองคำจากสวนเฮสเพอริดีส มันเป็นภารกิจหนึ่งในสิบสองภารกิจที่เขาถูกสั่งให้ทำ หากเจ้าสามารถใช้ความต้องการของเขาให้เป็นประโยชน์ เจ้าจะสามารถปลดปล่อยภาระที่เจ้าแบกอยู่ได้ชั่วคราว"

แอตลาสจ้องไปยังพี่ชายของตน "ข้าจะต้องหลอกเขาหรือ? ให้เขาแบกภาระของข้าแทน?"

พรอมิธีอุสพยักหน้า "มันไม่ใช่การหลอกลวงเสียทีเดียว มันเป็นข้อตกลงที่ยุติธรรม เจ้าให้สิ่งที่เขาต้องการ และในทางกลับกัน เขาช่วยเจ้าให้ได้พักจากภาระนี้"

แอตลาสขบกรามแน่น เขาไม่เคยขอความช่วยเหลือจากผู้ใดมาก่อน โดยเฉพาะจากมนุษย์ แต่หากนี่คือหนทางเดียวที่เขาจะได้รับอิสรภาพ เขาก็จำเป็นต้องลองเสี่ยงดู

เสียงฝีเท้าแว่วเข้ามาในระยะไกล แอตลาสหันมองและเห็นเฮราคลีสกำลังเดินเข้ามา ร่างของเขาสูงใหญ่กำยำ กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง เสื้อคลุมสิงโตนีเมียนคลุมบ่า ดวงตาแน่วแน่และเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

แอตลาสสูดลมหายใจลึก ก่อนจะยืดไหล่ขึ้นและเตรียมตัวสำหรับการเจรจาที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของเขาไปตลอดกาล เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เฮราคลีสเดินเข้ามาพร้อมกับแววตามุ่งมั่น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของภารกิจที่เขาผ่านมา แต่ยังคงยืนหยัดอย่างองอาจ

"แอตลาส" เฮราคลีสเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาหนักแน่น "ข้าได้รับคำสั่งให้นำแอปเปิลทองคำจากสวนเฮสเพอริดีส เจ้าคือผู้เดียวที่สามารถช่วยข้าได้"

แอตลาสจ้องเฮราคลีสอยู่ครู่หนึ่ง เขาสังเกตเห็นประกายในดวงตาของชายหนุ่มที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ "เจ้าต้องการแอปเปิลทองคำ แต่ข้าสงสัยว่าเจ้าเต็มใจจะแลกเปลี่ยนสิ่งใดเพื่อให้ได้มันมา?"

เฮราคลีสเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยความมั่นใจ "ข้ายอมทำทุกอย่างตราบใดที่มันเป็นภารกิจที่ข้าต้องทำสำเร็จเพื่อเกียรติของข้าและคำมั่นสัญญาที่ข้าให้ไว้"

แอตลาสยิ้มมุมปากก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้เฮราคลีสเล็กน้อย สายตาของเขาฉายแววคาดการณ์ "เช่นนั้นข้ามีข้อเสนอให้เจ้า ฟังให้ดี มนุษย์ผู้แข็งแกร่ง..."

เฮราคลีสขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงจ้องแอตลาสอย่างมั่นคง "ว่ามา ข้าพร้อมจะฟัง"

"ข้าจะช่วยเจ้านำแอปเปิลทองคำจากสวนเฮสเพอริดีส ข้าเป็นผู้เดียวที่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนและสามารถนำมันมาได้ แต่ในทางกลับกัน... เจ้าต้องช่วยข้าแบกรับท้องฟ้านี้ไว้ชั่วคราว ข้าต้องการอิสระเพียงครู่เดียว เพื่อยืดเส้นยืดสายหลังจากต้องแบกมันมานานนับพันปี"

เฮราคลีสพิจารณาข้อเสนอ รู้ดีว่าภาระนี้หนักเกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะรับไหว แม้แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับแรงกดดันของจักรวาลได้หรือไม่ "แล้วข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้าจะไม่ถูกล่ามโซ่ไว้เช่นเดียวกับเจ้า?"

แอตลาสหัวเราะเบา ๆ "ข้าอาจเป็นไททัน แต่ข้าไม่ใช่คนทรยศ หากข้าสัญญา ข้าย่อมรักษาสัจจะ เจ้าจะได้รับแอปเปิลของเจ้า และข้าจะได้อิสระเพียงชั่วครู่ ไม่เกินไปกว่านั้น"

เฮราคลีสจ้องแอตลาสอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ข้าตกลง แต่จำไว้ว่าข้าไม่ใช่คนโง่ หากเจ้าคิดจะหลอกลวง ข้าจะไม่เพียงแต่เอาแอปเปิลไป ข้าจะกลับมาเพื่อลงโทษเจ้าเอง" ดวงตาของเขาวาวโรจน์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความระแวงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน

แอตลาสยิ้มบาง ๆ ราวกับอ่านความคิดของเฮราคลีสได้ "ข้าไม่มีเหตุผลที่จะหลอกเจ้า เฮราคลีส หากเจ้าทำหน้าที่ของเจ้า ข้าก็จะทำหน้าที่ของข้า และต่างฝ่ายต่างจะได้ในสิ่งที่ตนต้องการ"

เฮราคลีสยังคงจ้องเขม็ง ราวกับต้องการจับผิดแม้แต่ร่องรอยของการทรยศเพียงเล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจหนัก "เช่นนั้นก็ให้มันเป็นไป ข้าพร้อมที่จะรับภาระของเจ้า...ชั่วคราว แต่จำไว้ว่าหากเจ้าคิดจะหักหลังข้า เจ้าจะต้องเสียใจ"

แอตลาสพยักหน้าช้า ๆ และเริ่มขยับร่างกายให้พร้อมสำหรับการส่งต่อภาระอันหนักอึ้งนี้ เขาเหลือบมองท้องฟ้าเหนือศีรษะ ซึ่งแม้จะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นพันธนาการที่ไร้จุดสิ้นสุด "เจ้าต้องเตรียมตัวให้ดี เฮราคลีส ท้องฟ้าไม่ใช่ภาระที่ใครจะรับไว้ได้ง่าย ๆ"

เฮราคลีสยกมือขึ้น เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อของเขาเกร็งแน่น เตรียมรับน้ำหนักที่ไม่มีวันผ่อนปรน "ส่งมันมา ข้าจะรับมันเอง"

แอตลาสค่อย ๆ ขยับท้องฟ้าออกจากบ่า ตลอดช่วงเวลานับพันปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ภาระนี้จะถูกส่งต่อแม้เพียงชั่วขณะ แต่ในใจของเขา มีความคิดหนึ่งกำลังก่อกำเนิด... โอกาสที่จะเป็นอิสระ

บทที่ 5: แผนการของไททัน

ทันทีที่ท้องฟ้าเปลี่ยนจากบ่าของเขาสู่บ่าของเฮราคลีส แอตลาสสัมผัสได้ถึงความโล่งเบาที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน กล้ามเนื้อของเขาไม่ได้ตึงเครียดจากแรงกดดันมหาศาลอีกต่อไป ความแข็งแกร่งของเขากลับคืนมา และจิตใจของเขารู้สึกเบาสบายราวกับนกที่เพิ่งได้รับอิสระ

เฮราคลีสกัดฟันแน่น ขาของเขาสั่นเล็กน้อยขณะรับน้ำหนักของท้องฟ้า แต่เขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการต้านทานมันไว้ "มันหนักกว่าที่ข้าคิดไว้มาก..."

แอตลาสมองเฮราคลีสด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น "เจ้าเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะทนได้อีกสักพัก ข้าจะรีบนำแอปเปิลทองคำมาให้เจ้า แล้วเราจะได้จบข้อตกลงนี้"

เฮราคลีสพยักหน้า แม้จะมีท่าทีหนักอึ้ง แต่เขายังเชื่อมั่นในข้อตกลงที่ทำไว้กับไททัน เขาหลับตาลึก ตั้งสมาธิให้มั่นคงเพื่อไม่ให้ภาระนี้บดขยี้เขา

แอตลาสหันหลังกลับ แล้วพุ่งออกไปจากที่คุมขังของตนด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ลมพัดแรงเมื่อเขาทะยานไปสู่สวนเฮสเพอริดีส ดินแดนต้องห้ามที่เทพเจ้าเฝ้ารักษาเป็นอย่างดี และภายในสวนแห่งนั้น มีแอปเปิลทองคำที่เป็นกุญแจสำคัญของแผนการของเขา

ขณะที่เขาเข้าใกล้สวน แอตลาสเริ่มครุ่นคิด ไม่ใช่เพียงเพื่อแอปเปิล แต่เพื่อทางเลือกที่เขากำลังเผชิญหน้า เขาจะทำตามข้อตกลงและกลับไปแบกท้องฟ้าอีกครั้ง หรือเขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อหลบหนีและไม่หันกลับไปอีกเลย?

ในขณะเดียวกัน เฮราคลีสยังคงแบกภาระอยู่ สายตาของเขาจ้องมองไปยังขอบฟ้า ใจหนึ่งของเขาเริ่มสงสัย ว่าแอตลาสจะรักษาสัญญาหรือไม่... เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามไรผมของเขา กล้ามเนื้อทุกมัดตึงเครียดจากแรงกดดันที่มหาศาลกว่าที่เขาคาดไว้ แม้จะเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขาไม่เคยต้องเผชิญกับภาระที่หนักหน่วงถึงเพียงนี้มาก่อน

ลมพัดกรรโชกแรง พายุเริ่มก่อตัวในท้องฟ้า เฮราคลีสรู้สึกถึงแรงกดดันที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาของเขากวาดมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ ความเงียบงันรอบตัวทำให้ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเขา

"แอตลาส... เจ้าไปนานเกินไปแล้ว" เฮราคลีสพึมพำกับตัวเอง ความคิดหนึ่งเริ่มเข้ามาในจิตใจ หรือว่าแอตลาสจะละทิ้งเขาไว้ที่นี่ และปล่อยให้เขาเป็นผู้แบกท้องฟ้าแทนตลอดกาล?

เฮราคลีสกัดฟันแน่น เขาต้องเตรียมตัวให้พร้อม หากแอตลาสคิดจะหลอกลวงเขาจริง ๆ เขาต้องหาทางเอาตัวรอดและไม่ติดอยู่ในกับดักของไททันผู้เจ้าเล่ห์

บทที่ 7: จุดหักเหแห่งโชคชะตา

แอตลาสเผชิญหน้ากับลาดอน มังกรที่เลื้อยพันรอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของมันส่องแสงวาวโรจน์ ขณะที่ลมหายใจร้อนระอุของมันพ่นออกมาจากปากเต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคม

"เจ้ามิใช่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองแอปเปิลทองคำ!" ลาดอนคำรามอย่างเกรี้ยวกราด เสียงของมันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวน

แอตลาสยิ้มเยาะ "ข้าเคยเป็นผู้ครอบครองโลกมาก่อน ลาดอน เจ้าเพียงแต่เป็นผู้พิทักษ์ของเหล่าเทพโอลิมเปียน เจ้าคิดหรือว่าข้าจะยอมแพ้ง่าย ๆ?"

ทันใดนั้น ลาดอนพุ่งเข้าโจมตี ฟันของมันแหลมราวกับใบมีด แต่แอตลาสไวพอจะเบี่ยงตัวหลบ เขาใช้มือเปล่าคว้าหางของมังกรและเหวี่ยงมันลงกับพื้น แรงกระแทกทำให้ผืนดินสั่นสะเทือน มังกรคำรามด้วยความเจ็บปวด แต่มันยังไม่ยอมแพ้

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด สวนเฮสเพอริดีสสั่นสะเทือนจากการปะทะของไททันและมังกรอันทรงพลัง แอตลาสรู้ดีว่าเขาต้องรีบคว้าชัยชนะ ก่อนที่เสียงการต่อสู้จะดึงดูดความสนใจของเหล่าเทพเจ้า

ในที่สุด ด้วยความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แอตลาสสามารถจับคอมังกรแล้วบีบแน่น ลาดอนพยายามดิ้นรน แต่พละกำลังของไททันทำให้มันค่อย ๆ อ่อนแรงลง จนกระทั่งร่างของมันแน่นิ่งไป

เหล่านางอัปสรเฮสเพอริดีสมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยความหวาดหวั่น พวกนางรู้ดีว่าไม่อาจต้านทานแอตลาสได้อีก

"เจ้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว จงไปเสีย" นางพี่สาวกล่าวขณะยื่นแอปเปิลทองคำสามลูกให้กับแอตลาสด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

แอตลาสคว้าแอปเปิลทองคำไว้ในมือ ดวงตาของเขาส่องประกายแห่งชัยชนะ และในใจของเขา... แผนการที่แท้จริงของเขากำลังจะเริ่มต้น

ในขณะเดียวกัน เฮราคลีสยังคงแบกท้องฟ้าไว้ เขาหายใจหนัก ดวงตาจ้องไปยังเส้นขอบฟ้า รู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ น้ำหนักของท้องฟ้าค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความกดดันที่เคยพอรับไหว บัดนี้กลับหนักอึ้งเกินกว่าที่แม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดจะทานทนได้

"แอตลาส... เจ้าอยู่ที่ไหน?" เขาพึมพำ

เวลาผ่านไป เฮราคลีสเริ่มสงสัยว่าแอตลาสอาจไม่มีวันกลับมา เขาอาจถูกหลอกให้รับภาระนี้ไปตลอดกาล

แต่แล้ว ร่างสูงใหญ่ของแอตลาสก็ปรากฏขึ้นในที่สุด พร้อมกับแอปเปิลทองคำในมือ

"ข้าทำสำเร็จแล้ว เฮราคลีส" แอตลาสกล่าวด้วยรอยยิ้ม "แต่ข้าคิดว่า... ข้าควรจะนำมันไปส่งให้เจ้าเอง ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าจะสามารถเดินทางกลับไปโดยไม่ให้ใครรู้ได้อย่างไร"

เฮราคลีสจ้องแอตลาส ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความระแวง "ข้าทำข้อตกลงกับเจ้าแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องรับภาระคืนแล้ว แอตลาส"

แอตลาสหัวเราะเบา ๆ "ข้ามีความคิดใหม่ เจ้าคงแข็งแกร่งพอที่จะรับภาระนี้แทนข้าได้... ตลอดกาล"

เฮราคลีสกำหมัดแน่น หัวใจของเขาเต้นแรง นี่คือแผนการของแอตลาสมาตั้งแต่แรก... หรือว่าเขาจะมีวิธีพลิกสถานการณ์นี้กลับคืนได้?

บทสรุปแห่งโชคชะตากำลังจะมาถึง...

ในขณะที่เฮราคลีสแบกรับภาระอันหนักอึ้ง ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง เมฆดำเคลื่อนตัวอย่างผิดปกติ สายฟ้าส่องแสงวาบราวกับเป็นลางบอกเหตุว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา

ที่อีกฟากหนึ่ง แอตลาสเดินเข้าสู่สวนเฮสเพอริดีส ต้นไม้สูงตระหง่านปกคลุมไปด้วยใบไม้สีทอง และผลแอปเปิลสีทองส่องแสงระยิบระยับราวกับอัญมณีต้องแสงจันทร์ นางอัปสรผู้เฝ้าสวนเฝ้ามองเขาด้วยความระแวดระวัง

"แอตลาส เจ้ากลับมาที่นี่ทำไม?" หนึ่งในนางอัปสรกล่าวขึ้น น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ "เจ้าถูกสาปให้แบกท้องฟ้าไปตลอดกาล หรือว่าเจ้าหนีจากคำสาปนั้นแล้ว?"

แอตลาสยิ้มเยือกเย็น "ข้าไม่ได้หนี ข้าเพียงแต่ได้รับโอกาสให้เป็นอิสระชั่วขณะ ข้ามาเพื่อทำข้อตกลง ข้าต้องการแอปเปิลทองคำของพวกเจ้า"

นางอัปสรสบตากันด้วยความกังวล "เราไม่สามารถให้มันกับเจ้าได้ แอปเปิลทองคำเป็นของต้องห้าม แม้แต่เทพเจ้าก็ยังไม่มีสิทธิ์ถือครองมัน"

แอตลาสก้าวเข้าไปใกล้ ดวงตาของเขาวาวโรจน์ "ข้าไม่ต้องการขอ ข้าจะเอามันไป ไม่ว่าพวกเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม"

ทันใดนั้น ลมกรรโชกแรงพัดผ่านสวน มังกรลาดอน (Ladon) งูยักษ์ผู้เฝ้าสวนเฮสเพอริดีสขดตัวรอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของมันเรืองแสงสีทอง แผ่รังสีแห่งความน่าเกรงขาม "แอตลาส เจ้ามิใช่ผู้ที่จะครอบครองแอปเปิลเหล่านี้ เจ้าจะต้องผ่านข้าไปก่อน!"

แอตลาสยืดไหล่ขึ้น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังของไททัน "ข้าไม่กลัวเจ้า ลาดอน หากเจ้าขวางทางข้า ข้าจะทำลายเจ้าเอง!"

เสียงคำรามของมังกรสะท้อนก้องไปทั่วสวน มันพุ่งเข้าโจมตีแอตลาสด้วยเขี้ยวอันแหลมคม ขณะที่ไททันผู้ทรงพลังตั้งท่าต่อสู้กับผู้พิทักษ์ของแอปเปิลทองคำ การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างยักษ์ผู้ต้องการอิสรภาพ และมังกรแห่งสวนเฮสเพอริดีสกำลังเริ่มต้นขึ้น...

ในขณะเดียวกัน บนยอดเขา เฮราคลีสยังคงอดทนแบกรับท้องฟ้าไว้ แต่น้ำหนักของมันเริ่มทวีความหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ เขาเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดวงตาของเขาจ้องไปยังขอบฟ้าอย่างระแวดระวัง หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น

"แอตลาส เจ้าจะกลับมาหรือไม่? หรือว่านี่เป็นแผนของเจ้าแต่แรก?

บทที่ 7: จุดหักเหแห่งโชคชะตา

เสียงคำรามของลาดอนยังคงดังกึกก้องไปทั่วสวนเฮสเพอริดีส มันพุ่งเข้าหาแอตลาสด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ ขณะที่ไททันผู้ทรงพลังยกแขนขึ้นป้องกัน กรงเล็บแหลมของมังกรข่วนไปตามแขนของเขา ทิ้งรอยลึกที่เปล่งประกายเป็นแสงสีทอง

แอตลาสพุ่งเข้าใส่ลาดอนด้วยกำปั้นมหาศาลของเขา แรงปะทะทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน แต่ลาดอนแม้จะได้รับบาดเจ็บ ก็ยังพุ่งกลับเข้ามาอีก มันใช้ลำตัวอันแข็งแกร่งพันรอบร่างของไททัน พยายามบีบรัดเขาด้วยพลังของมัน

"ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าฝ่าฝืนกฎแห่งสวรรค์!" ลาดอนคำราม

แอตลาสกัดฟัน ขณะที่แรงบีบรัดของมังกรทำให้เขาหายใจลำบาก แต่เขาเป็นไททันผู้เคยผ่านศึกสงคราม ไม่ใช่ผู้ที่จะพ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ ด้วยเสียงคำรามแห่งพลัง เขาใช้กำลังทั้งหมดกระแทกตัวเองลงกับพื้นอย่างรุนแรง ทำให้ลาดอนกระเด็นออกไป

มังกรตัวมหึมากลิ้งไปบนพื้น มันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนจะพุ่งเข้าหาอีกครั้ง แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น แอตลาสคว้าหอกหินขนาดมหึมา ปักทะลุร่างของมัน มังกรลาดอนคำรามก้องทั่วสวน ก่อนที่ดวงตาของมันจะค่อย ๆ ดับลง

แอตลาสยืนหอบ ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แอปเปิลทองคำแขวนอยู่บนกิ่งของมัน เปล่งแสงราวกับดวงอาทิตย์เล็ก ๆ โดยไม่มีผู้พิทักษ์อีกต่อไป

นางอัปสรเฮสเพอริดีสทั้งสามจ้องมองภาพนั้นด้วยความตกใจและหวาดกลัว นางคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "เจ้าได้มันไปแล้ว แอตลาส แต่จงรู้ไว้ ว่าการกระทำของเจ้าจะไม่ถูกให้อภัยโดยเหล่าทวยเทพ"

แอตลาสยิ้มเยือกเย็น "เทพเจ้าสาปข้าไว้แล้ว ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายกว่านี้อีกแล้ว"

เขาเอื้อมมือไปคว้าแอปเปิลทองคำ ก่อนจะหันหลังกลับและมุ่งหน้ากลับไปหาเฮราคลีส แต่อะไรบางอย่างในใจเขากำลังกระซิบว่า... บางที เขาอาจไม่ต้องกลับไปเลยก็ได้

บนยอดเขา เฮราคลีสยังคงแบกรับภาระของท้องฟ้า แม้ว่าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์ แต่แรงกดดันนี้ก็เกือบจะเกินขีดจำกัดของเขา ดวงตาของเขาจ้องไปยังขอบฟ้า ความสงสัยเริ่มกลายเป็นความโกรธ

"แอตลาส เจ้าจะไม่กลับมาจริง ๆ ใช่หรือไม่?" เฮราคลีสพึมพำกับตัวเอง กำลังคิดหาหนทางเอาตัวรอด หากไททันผู้เจ้าเล่ห์ทรยศเขาจริง ๆ

ลมกรรโชกแรงขึ้น เมฆดำบดบังท้องฟ้า เสียงของเทพแห่งสวรรค์สะท้อนมาในสายลมราวกับเป็นคำเตือน

และในที่สุด เงาของไททันก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้า แอตลาสกลับมาแล้ว... แต่เขาจะทำตามสัญญาหรือไม่?

บทที่ 8: ชะตากรรมที่เลือกเอง

เฮราคลีสหอบหายใจหนัก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยขณะจ้องมองแอตลาสที่เดินกลับมาพร้อมกับแอปเปิลทองคำในมือ ไททันสูงใหญ่ยังคงยิ้มอย่างมีเลศนัย ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เหนือกว่าข้อตกลงระหว่างเขาทั้งสอง

"ข้าทำสำเร็จแล้ว เฮราคลีส" แอตลาสกล่าวขณะยกแอปเปิลขึ้น "ข้าได้นำสิ่งที่เจ้าต้องการมาแล้ว แต่เมื่อข้าคิดดูดี ๆ บางทีข้าอาจไม่จำเป็นต้องกลับไปรับภาระเดิมของข้าอีกเลยก็ได้"

เฮราคลีสกัดฟันแน่น ความระแวงของเขากลายเป็นความจริง แอตลาสตั้งใจจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ เขามองดวงตาของไททันผู้เจ้าเล่ห์แล้วรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร

"เจ้าสัญญาว่าจะกลับมารับภาระของเจ้า" เฮราคลีสกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน "ข้าทำตามข้อตกลงของเราแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องทำตามของเจ้า"

แอตลาสหัวเราะเบา ๆ "ข้ากลับคิดว่าเจ้าเองก็เป็นนักรบที่เหมาะสมจะทำหน้าที่นี้แทนข้า เจ้าแข็งแกร่งพอ และข้าเองก็มีสิทธิ์เลือกอิสรภาพของข้าเสียที"

เฮราคลีสพยักหน้า "ถ้าเช่นนั้น ข้าขอให้เจ้าช่วยข้าผูกผ้าคลุมไหล่ของข้าให้แน่นขึ้นเสียก่อน เพื่อที่ข้าจะสามารถรับน้ำหนักนี้ได้ดียิ่งขึ้น ข้ากลัวว่าภาระของเจ้าอาจทำให้ร่างของข้าอ่อนล้าเร็วเกินไป"

แอตลาสลังเลไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็ยอมเดินเข้าไปใกล้ เขาไม่เห็นอันตรายใดในคำขอของเฮราคลีส และเมื่อเขาเอื้อมมือไปช่วยจัดผ้าคลุมให้นักรบหนุ่ม เฮราคลีสก็ฉวยโอกาสทันที

ด้วยความเร็วปานสายฟ้า เฮราคลีสดีดตัวออกและผลักท้องฟ้ากลับไปสู่บ่าของแอตลาส แรงมหาศาลถาโถมลงมาใส่ไททันในทันที ไหล่ของเขาแทบทรุดลงกับพื้นเมื่อเขารับน้ำหนักอันมหึมากลับมาอีกครั้ง

"ไม่!" แอตลาสคำรามอย่างโกรธแค้น ขณะที่เฮราคลีสคว้าแอปเปิลทองคำและถอยห่างออกไป "เจ้าหลอกข้า!"

เฮราคลีสยิ้มบาง ๆ "ข้าเพียงแค่ใช้ปัญญาของข้า เช่นเดียวกับที่เจ้าพยายามใช้กับข้า" เขาก้าวถอยหลังช้า ๆ และหันหลังเดินจากไป โดยเหลือไว้เพียงเสียงคำรามของไททันที่ต้องแบกภาระอันไม่มีที่สิ้นสุดต่อไป

บทสรุป: ตำนานที่ไม่จบสิ้น

แอตลาสยังคงยืนแบกท้องฟ้าต่อไป ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น เขารู้ว่าตัวเองไม่มีวันเป็นอิสระได้อีกแล้ว เขาพลาดโอกาสไป และถูกจับกลับเข้าสู่พันธนาการแห่งโชคชะตาอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน เฮราคลีสเดินทางกลับไปยังโอลิมปัส พร้อมกับแอปเปิลทองคำในมือ ภารกิจของเขาสำเร็จ และเขาได้แสดงให้เทพเจ้าทั้งหลายเห็นว่า แม้แต่ไททันผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจเอาชนะสติปัญญาและไหวพริบของเขาได้

และเช่นนั้น ตำนานของแอตลาส ผู้ถูกสาปให้แบกท้องฟ้าตลอดกาล จึงยังคงถูกเล่าขานไปชั่วนิรันดร์..."

เนื้อหาโดย: nuengpaisarn
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nuengpaisarn's profile


โพสท์โดย: nuengpaisarn
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตึกร้าง "สาธรยูนีค ทาวเวอร์" ที่กำลังถูกพูดถึงในช่วงนี้!5 อันดับ ตึกที่สูงที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน!อาการหนัก Snow White ใน IMDB คะแนนอยู่ที่ 1.5 เต็ม 10บริษัทก่อสร้างจีนไล่ลบข้อมูลโครงการ..หลังตึกถล่มที่ไทยจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากสิบเลขขายดี แม่จำเนียร งวด 1/4/68Sakamoto Days ตอนที่ 12 วันที่และเวลาออกฉายคลิปนาที "คนเช็ดกระจก" คอนโดหรู เผชิญแรงสั่นสะเทือน น้ำในสระข้างบนกระเพื่อมแรงใส่ตัว!เปิดขุมทรัพย์! สถิติเลขท้าย 2 ตัวมาแรง งวด 1/4/68 ลุ้นโชคใหญ่รับสงกรานต์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แม่นยำจนขนลุก! เพจพม่าเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้า 48 ชั่วโมง ก่อนเขย่าจริง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
นางเสือสมิงยอดรักตอนที่แปด ดอกกุหลาบแสนสวยนางเสือสมิงยอดรักตอนที่เจ็ด เสียงเพลง สื่อใจ เมื่อแรกพบนางเสือสมิงยอดรักตอนที่หก โชคชะตาเคยสงสัยกันไหมคะว่า ตลาดนัดมีจุดกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นคนเริ่มต้นแนวคิดนี้
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง