7 สินค้าบ้านๆ ใน ‘7-Eleven’ ขายดีจนโกยยอดขายทะลุ ‘ร้อยล้านบาท’
แม้ราคาหลักสิบ แต่ทำยอดขายได้มหาศาล! 7 สินค้า SME คนไทย บนชั้นวางร้าน “7-Eleven” หัวใจสำคัญคือ คุณภาพดี - ราคาเข้าถึงง่าย พบ “King Chef” พุ่งทะยานสุด ขายกิมจิพร้อมรับประทานจนมีรายได้สองพันล้าน!
แนวโน้มการเติบโตของสินค้า SMEs นอกจากคุณภาพที่ดีถูกใจผู้บริโภค ช่องทางการขายก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์ อย่างในอดีตก็มีธุรกิจสาหร่ายทอดติดสปีดจากการวางขายในร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” (7-Eleven) เมื่อ 17 ปีที่แล้ว จนกลายเป็น “วัยรุ่นพันล้าน” ด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
มาวันนี้มีธุรกิจ SMEs มากมายได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะหมวดของกินที่ขายได้ทุกวัน จากรายได้หลักสิบล้านสู่ร้อยล้าน บางรายกลายเป็นนักธุรกิจพันล้านได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี “กรุงเทพธุรกิจ” คัดมาให้เน้นๆ 7 สินค้า จาก 7 ผู้ประกอบการ ที่มีสินค้าวางขายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ด้วยกราฟการเติบโตที่น่าสนใจไม่น้อย
“King Chef” มีเจ้าของเป็นอดีตผู้บริหาร “พรานทะเล”
สินค้าขายดีของ “คิงเชฟ” (King Chef) คือ บรรดากิมจิพร้อมรับประทานที่มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิมจิมะละกอ กิมจิกะหล่ำปลี กิมจิแตงกวา หัวไชเท้าดอง กิมจิกรอบ ฯลฯ แต่ที่ขายดีสุดๆ คือ เมนูรับประทานง่ายอย่าง “กิมจิผักกาดขาว” โดยคอนเซปต์ของแบรนด์ คือ ฉีกปากถุง เท แล้วกินได้เลย
สำหรับ “คิงเชฟ” อยู่ภายใต้การดูแลของ “บริษัท คิงส์ วิช จำกัด” ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 หรือราวๆ 7-8 ปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมด 4 คน ได้แก่ อนุรัตน์ โค้วคาสัย สัดส่วน 51.33% วริยา ธาวนพงษ์ สัดส่วน 28% ชัชนะ ชูเมือง 16% และวิมพ์วิภา ธาวนพงษ์ 4.67% ซึ่งทั้งหมด คือ กลุ่มอดีตผู้บริหาร “พรานทะเล” รวมถึง “พรานเฟรช” ในเครือด้วย
ผลประกอบการย้อนหลังของ “คิงเชฟ” มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งส่วนของรายได้ และกำไรสุทธิ จากปี 2560 ที่มีรายได้รวม “361 ล้านบาท” กำไรสุทธิ “362,651 บาท” ปี 2566 คิงเชฟทำรายได้อยู่ที่ “2,271 ล้านบาท” และมีกำไรสุทธิ “4.8 ล้านบาท” นอกจากบรรดากิมจิพร้อมรับประทาน กลุ่มอดีตผู้บริหารพรานทะเลก็ไม่ทิ้งลายความถนัดเดิม เพราะยังมีสินค้าพร้อมรับประทานอื่นๆ อย่างข้าวต้มปลากะพง ข้าวต้มปลาเก๋า ข้าวต้มปลาแซลมอน ข้าวผัดปู ฯลฯ เป็นต้น
“ขนมบ้านทองหยอด” จุดกำเนิดของโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด
ไม่ใช่ความบังเอิญที่ขนมไทยในเซเว่น-อีเลฟเว่น มีชื่อเดียวกับแหล่งผลิตนักแบดมินตันทีมชาติ เพราะขนมไทยบ้านทองหยอด ภายใต้การผลิตของ “บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด” คือธุรกิจแรกสุดของ “กมลา ทองกร” หรือที่เด็กๆ นักกีฬาเรียกว่า “แม่ปุก” ทำธุรกิจขายขนมไทยบรรดาทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ รวมถึงขนมหวานอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่ด้วยความชอบส่วนตัวของ “กมลา” ทำให้เกิดโรงเรียนบ้านทองหยอดขึ้นในเวลาต่อมา
ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนชั้นวางเซเว่น-อีเลฟเว่น คือ ชุดขนมทองมงคล ประกอบไปด้วยขนมสีเหลืองทอง 4 อย่าง ด้วยราคาเพียง 27 บาท จึงเหมาะสำหรับการซื้อกินเอง รวมถึงซื้อทำบุญใส่บาตรในโอกาสพิเศษตามความเชื่อของคนไทยด้วยชื่อและความหมายอันเป็นสิริมงคลนั่นเอง
สำหรับผลประกอบการของ “บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด” ทำรายได้ทะลุ “ร้อยล้านบาท” ได้ตั้งแต่ปี 2562 หลังจากนั้นก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี กระทั่งปี 2566 ทำรายได้แตะ “204 ล้านบาท” พร้อมกับกำไรสุทธิ “5.2 ล้านบาท” ปัจจุบันธุรกิจขนมไทยบ้านทองหยอดถูกส่งต่อให้กับทายาทรุ่นที่ 2 “ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข” ลูกชายคนกลางของกมลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผักโขมอบชีส” ที่ขายดี จนยักษ์สะดวกซื้อชวนไปวางขาย
แบรนด์ผักโขมอบชีส และมักกะโรนีชีสเบคอนในเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่ติดอันดับสินค้าขายดีทะลุ “ร้อยล้านบาท” มีจุดเริ่มต้นจากครัวหลังบ้านเล็กๆ ของ “ชณา วศุวัต” ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของแบรนด์ “Reo’s Deli” เริ่มจากทำอาหารไว้รองรับคนสนิท นำไปฝากร้านอาหารญาติพี่น้องขายจนหมดเกลี้ยงภายในระยะไม่นาน จนกระทั่งเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด จากหลากหลายเมนูพบว่า “ผักโขมอบชีส” ขายดี และหมดไวที่สุด จึงหันมาโฟกัสที่การพัฒนา “Hero Product” กระทั่ง เครือซีพีชวนมาวางขายที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น
“ชณา” เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับช่อง SME Manager เมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้าว่า มียอดขายสูงสุดถึง 16,000 กล่องต่อวัน รายได้เติบโตต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว ซึ่งหากย้อนดูผลประกอบการของ “บริษัท แวลู่ ซอร์สซิ่ง จำกัด” ก็จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทั้งรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถขึ้นไปแตะที่หลักร้อยล้านได้สำเร็จในปี 2564 กระทั่งปี 2566 ทะยานสู่ “203 ล้านบาท”
“Grainey” กราโนล่าบาร์ที่เกิดจาก Pain Point ของคนน้ำหนักหลักร้อย
แม้ราคาหลักสิบ แต่ทำยอดขายได้มหาศาล! 7 สินค้า SME คนไทย บนชั้นวางร้าน “7-Eleven” หัวใจสำคัญคือ คุณภาพดี - ราคาเข้าถึงง่าย พบ “King Chef” พุ่งทะยานสุด ขายกิมจิพร้อมรับประทานจนมีรายได้สองพันล้าน!
แนวโน้มการเติบโตของสินค้า SMEs นอกจากคุณภาพที่ดีถูกใจผู้บริโภค ช่องทางการขายก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์ อย่างในอดีตก็มีธุรกิจสาหร่ายทอดติดสปีดจากการวางขายในร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” (7-Eleven) เมื่อ 17 ปีที่แล้ว จนกลายเป็น “วัยรุ่นพันล้าน” ด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
มาวันนี้มีธุรกิจ SMEs มากมายได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะหมวดของกินที่ขายได้ทุกวัน จากรายได้หลักสิบล้านสู่ร้อยล้าน บางรายกลายเป็นนักธุรกิจพันล้านได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี “กรุงเทพธุรกิจ” คัดมาให้เน้นๆ 7 สินค้า จาก 7 ผู้ประกอบการ ที่มีสินค้าวางขายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ด้วยกราฟการเติบโตที่น่าสนใจไม่น้อย
“King Chef” มีเจ้าของเป็นอดีตผู้บริหาร “พรานทะเล”
สินค้าขายดีของ “คิงเชฟ” (King Chef) คือ บรรดากิมจิพร้อมรับประทานที่มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิมจิมะละกอ กิมจิกะหล่ำปลี กิมจิแตงกวา หัวไชเท้าดอง กิมจิกรอบ ฯลฯ แต่ที่ขายดีสุดๆ คือ เมนูรับประทานง่ายอย่าง “กิมจิผักกาดขาว” โดยคอนเซปต์ของแบรนด์ คือ ฉีกปากถุง เท แล้วกินได้เลย
สำหรับ “คิงเชฟ” อยู่ภายใต้การดูแลของ “บริษัท คิงส์ วิช จำกัด” ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 หรือราวๆ 7-8 ปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมด 4 คน ได้แก่ อนุรัตน์ โค้วคาสัย สัดส่วน 51.33% วริยา ธาวนพงษ์ สัดส่วน 28% ชัชนะ ชูเมือง 16% และวิมพ์วิภา ธาวนพงษ์ 4.67% ซึ่งทั้งหมด คือ กลุ่มอดีตผู้บริหาร “พรานทะเล” รวมถึง “พรานเฟรช” ในเครือด้วย
ผลประกอบการย้อนหลังของ “คิงเชฟ” มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งส่วนของรายได้ และกำไรสุทธิ จากปี 2560 ที่มีรายได้รวม “361 ล้านบาท” กำไรสุทธิ “362,651 บาท” ปี 2566 คิงเชฟทำรายได้อยู่ที่ “2,271 ล้านบาท” และมีกำไรสุทธิ “4.8 ล้านบาท” นอกจากบรรดากิมจิพร้อมรับประทาน กลุ่มอดีตผู้บริหารพรานทะเลก็ไม่ทิ้งลายความถนัดเดิม เพราะยังมีสินค้าพร้อมรับประทานอื่นๆ อย่างข้าวต้มปลากะพง ข้าวต้มปลาเก๋า ข้าวต้มปลาแซลมอน ข้าวผัดปู ฯลฯ เป็นต้น
“ขนมบ้านทองหยอด” จุดกำเนิดของโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด
ไม่ใช่ความบังเอิญที่ขนมไทยในเซเว่น-อีเลฟเว่น มีชื่อเดียวกับแหล่งผลิตนักแบดมินตันทีมชาติ เพราะขนมไทยบ้านทองหยอด ภายใต้การผลิตของ “บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด” คือธุรกิจแรกสุดของ “กมลา ทองกร” หรือที่เด็กๆ นักกีฬาเรียกว่า “แม่ปุก” ทำธุรกิจขายขนมไทยบรรดาทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ รวมถึงขนมหวานอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่ด้วยความชอบส่วนตัวของ “กมลา” ทำให้เกิดโรงเรียนบ้านทองหยอดขึ้นในเวลาต่อมา
ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนชั้นวางเซเว่น-อีเลฟเว่น คือ ชุดขนมทองมงคล ประกอบไปด้วยขนมสีเหลืองทอง 4 อย่าง ด้วยราคาเพียง 27 บาท จึงเหมาะสำหรับการซื้อกินเอง รวมถึงซื้อทำบุญใส่บาตรในโอกาสพิเศษตามความเชื่อของคนไทยด้วยชื่อและความหมายอันเป็นสิริมงคลนั่นเอง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผลประกอบการของ “บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด” ทำรายได้ทะลุ “ร้อยล้านบาท” ได้ตั้งแต่ปี 2562 หลังจากนั้นก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี กระทั่งปี 2566 ทำรายได้แตะ “204 ล้านบาท” พร้อมกับกำไรสุทธิ “5.2 ล้านบาท” ปัจจุบันธุรกิจขนมไทยบ้านทองหยอดถูกส่งต่อให้กับทายาทรุ่นที่ 2 “ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข” ลูกชายคนกลางของกมลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผักโขมอบชีส” ที่ขายดี จนยักษ์สะดวกซื้อชวนไปวางขาย
แบรนด์ผักโขมอบชีส และมักกะโรนีชีสเบคอนในเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่ติดอันดับสินค้าขายดีทะลุ “ร้อยล้านบาท” มีจุดเริ่มต้นจากครัวหลังบ้านเล็กๆ ของ “ชณา วศุวัต” ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของแบรนด์ “Reo’s Deli” เริ่มจากทำอาหารไว้รองรับคนสนิท นำไปฝากร้านอาหารญาติพี่น้องขายจนหมดเกลี้ยงภายในระยะไม่นาน จนกระทั่งเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด จากหลากหลายเมนูพบว่า “ผักโขมอบชีส” ขายดี และหมดไวที่สุด จึงหันมาโฟกัสที่การพัฒนา “Hero Product” กระทั่ง เครือซีพีชวนมาวางขายที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น
“ชณา” เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับช่อง SME Manager เมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้าว่า มียอดขายสูงสุดถึง 16,000 กล่องต่อวัน รายได้เติบโตต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว ซึ่งหากย้อนดูผลประกอบการของ “บริษัท แวลู่ ซอร์สซิ่ง จำกัด” ก็จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทั้งรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถขึ้นไปแตะที่หลักร้อยล้านได้สำเร็จในปี 2564 กระทั่งปี 2566 ทะยานสู่ “203 ล้านบาท”
“Grainey” กราโนล่าบาร์ที่เกิดจาก Pain Point ของคนน้ำหนักหลักร้อย
ก่อนจะมาเป็นแบรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ “เจิ้น-โสรัจ มหรรณพกุล” ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์ “Grainey” เคยมีน้ำหนักตัวสูงถึง 130 กิโลกรัม เขาตัดสินใจลดน้ำหนักเมื่อครั้งเรียนที่สหรัฐด้วยการปรับพฤติกรรมการกินควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย จนกลับมามีน้ำหนักตัวตามเกณฑ์ปกติได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน
กระทั่ง “โสรัจ” กลับมายังประเทศไทย เขาพบว่า ที่นี่ยังมีช่องว่างในตลาดสำหรับขนมเพื่อสุขภาพ จึงตั้งเป้าลุยทำสแน็คจากข้าวป๊อป มองว่า นี่คือ เทรนด์ที่กำลังมาในต่างประเทศ และในไทยเองก็คงมีแนวโน้มไม่ต่างกัน
ช่วงแรก “โสรัจ” โฟกัสไปที่การส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงระบาดใหญ่ทำให้ต้องกลับมาทำการบ้านในประเทศมากขึ้น นำไปสู่การผลักดันสินค้าบนชั้นวางโมเดิร์นเทรด รวมถึงร้านสะดวกซื้อก็เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เขานึกถึง
ปัจจุบัน “Grainey” มีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่กราโนล่าบาร์ คุกกี้ ข้าวป๊อป เครื่องดื่มชงรสมอลต์ ไปจนถึงของคาวอย่างโจ๊กคัพ ปีล่าสุด “บริษัท ฟูลเกิ้ล จำกัด” บริษัทแม่ของแบรนด์ “Grainey” มีรายได้รวม “123 ล้านบาท” กำไรสุทธิ “703,986 บาท” ซึ่งเป็นปีแรกที่แบรนด์ผลงานขึ้นสู่หลักร้อยล้านได้สำเร็จ
“น้ำส้ม” สินค้าธรรมดาๆ แต่ขายได้วันละหมื่นขวด
วางขายที่ไหนเป็นต้องหมดเกลี้ยง จนหลายๆ คนตามเก็บกันไม่ทันสำหรับน้ำส้ม “ชินเซน” น้ำส้มพาสเจอร์ไรซ์เจ้าแรกในไทยที่ได้รับเครื่องหมาย อย. แม้จะดูเป็นสินค้าทั่วไปที่หาได้ตามท้องตลาด แต่ “ชินเซน” กลับสร้างความแตกต่างได้จากการไม่ใส่วัตถุกันเสีย แต่มีอายุ “Shelf Life” ได้นานถึง 2 สัปดาห์
“พยัคฆ์” ชาไทยราคาน่ารัก เกิดได้เพราะเจ้าของคลั่งชาส้มหนักมาก!
ท่ามกลางความดุเดือดในตลาดชาไทย ทว่า “พยัคฆ์” ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จจากการขายชาไทยบนโมเดิร์นเทรด ด้วยรสชาติความอร่อยที่พอดีกับความชอบคนไทย รวมถึงราคา และปริมาณที่เหมาะสม
ตำนานทรีตเมนต์ซองน้ำเงิน “Green Bio”
นี่คือหนึ่งในบริษัทที่อยู่มานาน 20 กว่าปี มีชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมานานหลายทศวรรษ แต่เพิ่งจะลงสู่สนามโมเดิร์นเทรดอย่างร้านสะดวกซื้อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่ต้องหาซื้อตามร้านขายสินค้าบิวตี้ “วีชมาร์ต” บริษัทแม่ของ “Green Bio” ทำทรีตเมนต์วางขายในรูปแบบซองเพียง 12 บาท
อ้างอิงจาก: stampchan















