3 เชื้อโรคร้าย ภัยเงียบบนมือถือ และ 3 วิธีทำความสะอาด ลดเชื้อโรคบนโทรศัพท์มือถือ
การศึกษาของ จิม ฟรานซิส ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยแห่งสหราชอาณาจักร พบว่าตัวอย่างโทรศัพท์มือถือที่สกปรกที่สุด มีเชื้อแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่เกินกว่าระดับมาตรฐานที่รับได้ถึง 10 เท่า และ เชื้อแบคทีเรียที่พบเป็นกลุ่มที่พบในลำไส้ของคนและสัตว์ เช่น Enterobacteriaceae, Salmonella sp. เชื้อดังกล่าวพบสูงกว่าระดับที่ปลอดภัยถึง 39 เท่า รวมถึง Fecal Coliform สูงกว่าระดับมาตรฐานถึง 170 เท่า
ดร. ไซมอน พาร์ก แห่งมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดลองเพาะเชื้อจากโทรศัพท์มือถือ พบว่ามีเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ Staphyloccus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่อันตราย อาจก่อให้เกิดความรุนแรงถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
3 เชื้อโรคร้าย ภัยเงียบบนมือถือ
- Escherichia coli (เอสเชอรีเชีย โคไล) หรือ เรียกสั้นๆว่า coli: เป็นเชื้อร้ายอันดับ 1 ที่ก่อให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษ ท้องร่วง ปกติเชื้อนี้จะพบอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์โดยไม่ก่อให้โรค แต่หากมีการสะสมปนเปื้อนบนอาหาร ภาชนะ สิ่งของต่าง ๆ หรือ “มือ” เป็นปริมาณมากและเวลานาน ยิ่งถ้าเป็น E. coli สายพันธุ์ที่รุนแรง เช่น Enterotoxigenic E. coli (ETEC), Enterohemorrhagic E. coli (EHEC) จะทำให้ผู้รับเชื้อมีอาการท้องร่วงรุนแรงได้
- Staphylococcus aureus (สแตปฟิโลคอกคัส ออเรียส) แม้จะพบเชื้อนี้ได้ไม่บ่อยบนโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นเชื้อที่รุนแรงและอันตรายสามารถก่อให้เกิดโรครุนแรงได้หลายอย่าง เช่น โรคติดเชื้อที่ผิวหนัง รวมถึงภาวะอาหารเป็นพิษ ท้องร่วงที่เป็นผลจากสารพิษ Enterotoxin จากเชื้อตัวนี้
- Coliform (โคลิฟอร์ม) เป็นกลุ่มของแบคทีเรียในวงศ์ Enterobacteriaceae ที่พบได้ในระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์ รวมถึงในดิน อาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ตัวอย่างแบคทีเรียในกลุ่มนี้ คือ coli อาการที่เกิดจากการรับเชื้อชนิดนี้ มักจะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ไข้ ปวดท้อง ถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน
ใน 1 วัน คนส่วนใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้ในเวลาไหนบ้างและบ่อยแค่ไหน สาเหตุที่ทำให้ต้องสัมผัสกับเชื้อโรคบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
1.ตื่นนอน เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าจากโทรศัพท์มือถือ ก็จะเอื้อมมือไปกดปิดตื่นมาพร้อมกับการสัมผัสโทรศัพท์มือถือครั้งแรกของวัน
2.เข้าห้องน้ำ ช่วงเวลาเข้าห้องน้ำในทุกวันน้อยคนมากที่จะไม่หยิบโทรศัพท์มือถือเข้าไปด้วย บางคนเปิดเพลง หาอะไรดูเพลิน ๆ ระหว่างทำธุระส่วนตัว
3.มื้ออาหารเช้า ระหว่างกินอาหารเช้า หลายคนต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น หรือ อาจจะดูข่าวสาร ตามเทรนต่าง ๆ
4.ระหว่างรอรถโดยสาร / ระหว่างขับรถ หลายคนอาจจะเป็นตัวช่วยในการดูเส้นทาง หรือ ช่วยให้ความบันเทิงระหว่างเดินทาง
5.ออกกำลังกาย ปัจจุบันเครื่องออกกำลังบางชนิดจะต้องเชื่อมต่อการใช้งานกับโทรศัพท์มือถือเพราะวัดค่าต่าง ๆ ขณะออกกำลังกาย
6.อาหารมื้อเย็น บางมืออาจจะพิเศษหน่อยกินข้าวนอกบ้าน หรือ นัดเพื่อน ๆ มากินข้าวร่วมกัน หลายคนอยากที่จะเก็บภาพอาหารเพื่อจะอัพเดทลงโซเชียลต่าง ๆ บางคนใช้มือถือในห้องน้ำมาและใช้มือถือเครื่องเดียวกันนี้ในขณะนั่งกินข้าวด้วย
7.เล่นมือถือก่อนนอน การเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน บางคืนก็หลับไปพร้อมกับมือถือ เราเล่นมือถือมาทั้งวันแล้วก่อนนอนก็ยังมาเล่นต่ออีก เชื้อโรคที่มือถือสะสมมาทั้งวันตอนนี้มันกำลังคืบคลานมาอยู่บนเตียงนอนของทุกคน
3 วิธีทำความสะอาดลดเชื้อโรคมือถือ
1.เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ปัจจุบันมีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับโทรศัพท์มือถือวางจำหน่าย โดยควรถอดกรอบโทรศัพท์ออกก่อน จากนั้นปิดเครื่อง หยดน้ำยาทำความสะอาดลงบนผ้าหรือสำลี เช็ดบริเวณหน้าจอและตัวเครื่องไปในทางเดียวกัน โดยไม่วนกลับไปมา จากนั้นใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งอีกครั้ง
2.ใช้ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (isopropyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยผสมในอัตราส่วนแอลกอฮอล์ 40% น้ำสะอาด 60% จากนั้นหยดลงบนผ้าสะอาดเช็ดเฉพาะด้านหลังตัวเครื่อง ห้ามเช็ดบนหน้าจอโดยเด็ดขาด
3.ใช้คอตตอนบัดหรือไม้เล็กๆ พันสำลี เพื่อทำความสะอาดตามซอกต่าง ๆ เช่น ขอบปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มปิด-เปิดเครื่อง
การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ ห้ามใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของสารตัวทำละลาย แอมโมเนีย หรือ สารกัดกร่อน รวมถึงไม่ควรใช้น้ำยาเช็ดกระจก น้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือนเด็ดขาด นอกจากนี้การทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือควรทำประจำสม่ำเสมอ รวมถึงการล้างมือบ่อย ๆ จะช่วยลดการเกิดเชื้อโรคได้เช่นกัน

















