"แตงกวา"ผักช่วยลดกลิ่นตัวแรง แล้งนี้ต้องหามาปลูก บอกวิธีปลูกง่ายๆให้แล้วนะ
หากจะพูดถึงผักที่เรารับประทาน ที่เป็นทั้งกับและสามารถแกงหรือต้มได้ด้วย รับรองว่า "แตงกวา" จะเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ชนิดผักที่เราจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว
"แตงกวา" นอกจากจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาได้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบ โดยการที่แตงกวานั้นเป็นผักที่มีน้ำเยอะ จึงสามารถช่วยขับปัสสาวะรวมถึงช่วยในการขับถ่าย ช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกาย ซึ่งถือเป็นบ่อเกิดของกลิ่นตัวและกลิ่นปาก ฉะนั้นการกินแตงกวาเพื่อช่วยขับของเสียจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดกลิ่นตัวได้ดีทีเดียว
สำหรับสรรพคุณทางยาของแตงกวา คือ
1. ผล เมื่อนำมารับประทานจะมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยลดความร้อนภายในร่างกาย ขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้อาการกระหายน้ำ ใช้รักษาอาการเจ็บคอ ตาแดง ไฟลวก และผดผื่นคัน หรือจะใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริก หรือนำมาประกอบอาหารก็สามารถนำมาทำได้
2. ใบ เมื่อนำมารับประทานสดๆ จะให้รสขม สามารถนำมาใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย หรือบิดได้
3. เมล็ด หรือเนื้อในเมล็ด ให้รสมัน เย็น เมื่อนำมารับประทาน จะช่วยในเรื่องของการถ่ายพยาธิได้เป็นอย่างดี
4. เถา จะให้รสขม มีพิษเล็กน้อย ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต โรคผิวหนังเป็นฝีเล็กๆ มีหนอง รักษาอาการหนองในได้
5. ราก จะให้รสเย็น ช่วยป้องกันการขาดวิตามินบี 1 และช่วยขับปัสสาวะ
สำหรับการปลูกแตงกวานั้น ไม่ยุ่งยากเลยครับ
วิธีการปลูก
1.เริ่มจากการเพาะเมล็ด ลงในภาชนะ
2.เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 10 วัน ก็จะมีกล้าแตงกวาขึ้นมาก็ให้นำไปปลูกต่อได้เลย
3.เตรียมดินปลูกด้วยการผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก คลุกผสมให้เข้ากันแล้วใส่ในภาชนะปลูก กรถางหรือทำแปรงความลึก 15-20ซม. แล้วนำต้นกล้าแตงกวาลงปลูก รดน้ำตามให้ชุ่มดี
4.เมื่อเวลาผ่านไป 20 วัน ให้นำปูนขาวมาโรยแล้วพรวนดินทำค้างผักสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ให้ต้นแตงกวาเกาะเพื่อเจริญเติบโต
5.เมื่อเวลาผ่านไป 45-60 วัน แตงกวาก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว
จะหมดฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว ลองทำตามคำแนะนำการปลูกแตงกวาง่าย ๆ มั่นใจว่าถ้าทุกคนทำตามแล้ว ผลผลิตจะออกมาให้เก็บกินตลอดช่วงฤดูร้านนี้อย่างแน่นอนครับ















