ฉีดโบลดกราม รู้ลึกก่อนฉีด เคล็ดลับหน้าเรียวเล็ก ลดขนาดกราม
ฉีดโบลดกราม รู้ลึกก่อนฉีด เคล็ดลับหน้าเรียวเล็ก ลดขนาดกราม
การฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียวเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบันแทนการผ่าตัดศัลยกรรม ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานของโบลดกราม ผลลัพธ์ที่ได้ ข้อควรระวัง และการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือก่อนการตัดสินใจเข้ารับการรักษา
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว คืออะไร?
การฉีดโบลดกราม คือ การใช้สารโปรตีนที่ได้จากแบคทีเรีย ฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อกราม เพื่อคลายกล้ามเนื้อและทำให้กรามเล็กลง ช่วยให้ใบหน้ามีรูปทรงวีเชฟ โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที และสามารถฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ได้ต่อเนื่อง
ปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ เกิดจากอะไร?
- กรามใหญ่จากพันธุกรรม: ลักษณะกรามสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะในคนเอเชีย
- กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม: การบดเคี้ยวอาหารเหนียวและแข็งเป็นระยะเวลานานทำให้กล้ามเนื้อกรามใหญ่ขึ้น
- กรามใหญ่จากไขมัน: การบริโภคอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงทำให้ไขมันสะสมบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะส่วนล่างของแก้ม
- กรามใหญ่จากกระดูก: การเจริญเติบโตของกระดูกมากกว่าปกติอาจทำให้กรามใหญ่
กรามใหญ่มีกี่แบบ?
- กรามใหญ่ หน้าเหลี่ยม: โครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ทำให้ใบหน้าเหลี่ยม
- กรามใหญ่ แก้มเยอะ: ใบหน้าดูใหญ่และหน้าบาน
- กรามใหญ่แบบข้างเดียว: กระดูกเจริญเติบโตผิดปกติ หรือการเคี้ยวอาหารข้างเดียว
- กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง: ทำให้ใบหน้าดูดุและแข็ง
- กรามใหญ่ คางสั้น: ใบหน้ากลมและสั้น ไม่มีมิติ
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ได้อย่างไร?
- โบลดกรามจะถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ Masseter
- ตัวยาออกฤทธิ์แยกเป็นสองส่วน: ส่วนดูดซึมในเซลล์ประสาทและส่วนที่ขับออกจากร่างกาย
- ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ Masseter ทำให้กล้ามเนื้อทำงานน้อยลง
- กล้ามเนื้อกรามจะค่อย ๆ เล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนมากขึ้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ช่วยอะไรบ้าง?
- ฉีดโบลดกราม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น
- ฉีดโบลดกราม ช่วยให้ขนาดกรามเล็กลง
- ฉีดโบลดกราม ช่วยให้แก้มเล็ก เรียวขึ้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่อายุมากกว่า 18 ปี
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียวเล็กโดยไม่ต้องผ่าตัด
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลเร็ว และไม่ต้องการพักฟื้น
ฉีดโบลดกราม ปรับหน้าเรียว ไม่เหมาะกับใคร?
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อในการกลืนอาหาร
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อในจุดที่ต้องการฉีด
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มชัด
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมที่แก้ม
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรใหญ่กว่ากราม
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีกล้ามเนื้อขนาดกรามเล็ก
ฉีดโบลดกราม ยี่ห้อไหนดี?
- ฉีดโบลดกราม Allergan (สหรัฐอเมริกา): โบลดกรามที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ช่วยลดโอกาสการดื้อยาและมีการกระจายตัวแคบเพื่อความแม่นยำ เหมาะสำหรับการลดกล้ามเนื้อกราม
- ฉีดโบลดกราม Dysport (อังกฤษ): โมเลกุลขนาดเล็กกระจายตัวกว้าง เหมาะสำหรับลดกล้ามเนื้อบริเวณกว้าง เช่น ต้นแขน ต้นขา และริ้วรอยระหว่างคิ้ว
- ฉีดโบลดกราม Nabota (เกาหลี): มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- ฉีดโบลดกราม Aestox (เกาหลี): มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติพร้อมอายุการใช้งานนาน
- ฉีดโบลดกราม Xeomin (เยอรมัน): ไม่มีการปนเปื้อนจากโปรตีน ออกฤทธิ์แบบกระจายกว้าง เหมาะสำหรับลดริ้วรอยและกรามใหญ่ไม่มาก
ฉีดโบลดกราม เตรียมตัวก่อนฉีดอย่างไร?
- งดอาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา หรือวิตามินอี 2-3 วันก่อนฉีด
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ 3-7 วันก่อนฉีด
- งดยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้ประจำ
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบแท้และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ฉีดโบลดกราม ดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไร?
- ขยับเกร็งกล้ามเนื้อจุดที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- งดนอนราบ 3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันตัวยาไหลไปผิดตำแหน่ง
- หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- งดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- งดอาหารหมักดอง
- ฉีดโบลดกรามต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ถี่เกินไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/jawline-botox/
เปรียบเทียบฉีดโบลดกราม กับ หัตถการอื่น ๆ
ฉีดโบลดกราม vs ร้อยไหมหน้าเรียว
- การฉีดโบลดกรามและการร้อยไหมช่วยให้ใบหน้าเรียวได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน การฉีดโบลดกรามช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ส่วนการร้อยไหมช่วยยกกระชับและแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ฉีดโบลดกราม vs ผ่าตัดเหลากราม
การฉีดโบลดกรามเหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ไม่ต้องพักฟื้น และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-5 เดือน ส่วนการผ่าตัดเหลากรามเหมาะกับผู้ที่มีกระดูกกรามใหญ่ ผลลัพธ์ถาวร แต่ต้องพักฟื้น 6-12 สัปดาห์และดูแลช่องปากอย่างดี
ฉีดโบลดกราม ไม่เห็นผลลัพธ์ เพราะอะไร?
- แก้ปัญหาไม่ตรงสาเหตุ: กรามใหญ่จากกระดูกหรือไขมันต้องใช้วิธีการอื่น เช่น ผ่าตัดเหลากรามหรือดูดไขมัน
- ใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน: โบลดกรามปลอม หรือผสมเกินไปอาจไม่เห็นผลและมีอันตราย
ฉีดโบลดกราม ใช้กี่ยูนิต?
การฉีดโบลดกรามใช้ประมาณ 50-100 ยูนิต หรือ 200 ยูนิต หากกล้ามเนื้อกรามใหญ่
หลังฉีดโบกราม จะปวดกรามไหม?
อาจมีอาการปวดหรือเมื่อยบริเวณกราม เนื่องจากกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง
ฉีดโบลดกราม เจ็บไหม?
มีการแปะยาชาก่อนฉีด ทำให้ไม่เจ็บระหว่างฉีด แต่บางกรณีอาจรู้สึกตึง
ฉีดโบลดกราม กี่วันเห็นผล?
ผลลัพธ์เริ่มเห็นภายใน 1-2 สัปดาห์ ชัดเจนที่สุดใน 2-3 เดือน
ฉีดโบลดกราม อันตรายไหม?
ปลอดภัยสูง หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญแและฉีดโบลดกรามของแท้
ฉีดโบลดกราม อยู่ได้นานไหม?
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีด
ฉีดโบลดกราม ฉีดบ่อย ๆ ได้ไหม?
แนะนำให้ฉีดทุก 3-6 เดือน หลีกเลี่ยงการฉีดบ่อยเกินไป
ฉีดโบลดกราม มีผลข้างเคียงไหม?
- อาจรู้สึกเจ็บหรือมีอาการบวม
- อาจมีรอยแดง
- อาจมีรอยช้ำจากเข็มโดนเส้นเลือด
ผลข้างเคียงเหล่านี้สามารถหายได้เองภายใน 7 วัน
ฉีดโบลดกรามแล้วปากเบี้ยว เกิดจากอะไร?
ปากเบี้ยวหลังฉีดโบลดกรามอาจเกิดจากการกระทบกับกล้ามเนื้อที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของปาก เช่น Risorius หรือ Zygomaticus ซึ่งอาจทำให้มุมปากไม่สมดุล การฉีดควรทำโดยแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
ฉีดโบลดกรามแล้วแก้มห้อย เพราะอะไร?
การเกิดก้อนหลังฉีดโบลดกรามเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากโบจะค่อย ๆ คลายกล้ามเนื้อกราม บางครั้งกล้ามเนื้ออาจไม่ตอบสนองทันที แต่จะลดลงและเห็นผลภายใน 2-3 สัปดาห์
ฉีดโบลดกรามแล้วแก้มตอบ เพราะอะไร?
การฉีดโบลดกรามอาจทำให้แก้มตอบในผู้ที่มีเนื้อแก้มน้อย เนื่องจากกล้ามเนื้อกรามอยู่ใกล้กับบริเวณแก้ม การใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสมและปริมาณยูนิตที่พอเหมาะจะช่วยลดโอกาสนี้ได้
การฉีดโบลดกรามช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เหมาะกับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ และยังสามารถใช้ฉีดโบลิฟกรอบหน้าให้ใบหน้ากระชับ กรอบหน้าชัดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
อ้างอิงจาก: https://www.romrawin.com/jawline-botox/
https://www.romrawin.com/bo-injection-v-shape/






















