CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ตัวช่วยหุ่นสวยทันใจ
CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ตัวช่วยหุ่นสวยทันใจ
ในยุคปัจจุบันที่ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ การดูแลรูปร่างกลายเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน เพราะทั้งการทำงานที่ยืดหยุ่นและการเดินทางที่ติดขัด รวมถึงอาหารรอบตัวที่น่ารับประทาน ล้วนทำให้การควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกัน โซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยภาพผู้คนโชว์หุ่นดีทั้งในชุดบิกินีหรือเสื้อผ้าตามแฟชั่น การรักษาหุ่นให้ดูดีจึงกลายเป็นความต้องการของใครหลายคน และนี่คือจุดที่ CoolSculpting เข้ามาช่วยตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว
CoolSculpting คืออะไร?
CoolSculpting คือเทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US FDA โดยใช้ความเย็นในระดับ -11 ถึง -13 °C เพื่อแทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง เปลี่ยนไขมันที่สะสมให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง (Cryolipolysis) ซึ่งไขมันเหล่านี้จะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น ทางปัสสาวะหรืออุจจาระ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อหรือเซลล์บริเวณข้างเคียง
CoolSculpting ทำงานอย่างไร?
CoolSculpting คือ การสลายไขมันด้วยพลังงานความเย็น โดยจะถูกปล่อยออกมาจาก Applicator จะถูกควบคุมอย่างแม่นยำ ไม่เพียงแค่ทำให้ผิวหนังเย็นเท่านั้น แต่ยังส่งผ่านไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อทำให้เซลล์ไขมันในบริเวณนั้นแข็งตัว (Freeze) หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกทำลายและสลายด้วยความเย็นผ่านกระบวนการ Cryolipolysis จากเครื่อง CoolSculpting เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า Apoptosis หรือกระบวนการตายของเซลล์ ซึ่งเป็นการทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวรโดยไม่มีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง
CoolSculpting กับกลไกการขับไขมันของการสลายไขมันด้วยความเย็น
หลังทำ CoolSculpting เมื่อเซลล์ไขมันตายลง ร่างกายจะเริ่มกระบวนการขจัดเซลล์เหล่านี้ออกไปผ่าน ระบบกำจัดของเสียตามธรรมชาติ โดยเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดูดซึมและสลายออกมาในรูปของเสีย เช่น
- ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic System) คือ ไขมันที่สลายจะถูกลำเลียงผ่านระบบน้ำเหลืองของร่างกาย ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการกรองและขับออกในรูปของเสีย
- การขับออกผ่านปัสสาวะ คือ ไขมันส่วนหนึ่งที่สลายจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นโมเลกุลขนาดเล็กและขับออกผ่านทางไตในรูปของปัสสาวะ
- การขับออกผ่านอุจจาระ คือ ส่วนหนึ่งของไขมันจะถูกลำเลียงไปยังลำไส้และถูกกำจัดออกจากร่างกายในรูปของอุจจาระ
- ระบบการเผาผลาญ คือ ไขมันบางส่วนอาจถูกใช้เป็นพลังงานในกระบวนการเผาผลาญของร่างกายก่อนถูกขับออก
CoolSculptingปลอดภัยไหม?
การกำจัดไขมันด้วย CoolSculpting ไม่มีผลต่อระบบการขับถ่าย ทำให้กระบวนการขจัดไขมันไม่รบกวนการทำงานปกติของร่างกาย เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะไม่สามารถกลับมาสะสมใหม่ได้ในบริเวณเดิม หากควบคุมน้ำหนักและรักษาพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม
ด้วยกระบวนการขจัดไขมันที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย CoolSculpting จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawin.com/coolsculpting/
CoolSculpting มีข้อดีอะไรบ้าง ?
- CoolSculpting ช่วยฆ่าไขมันเฉพาะจุด
CoolSculpting เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือรอบเอว ซึ่งการออกกำลังกายอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด - CoolSculpting มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน
ด้วยการรับรองจาก US FDA และงานวิจัยมากกว่า 20 ฉบับที่สนับสนุนผลลัพธ์ของเทคโนโลยีนี้ ผู้เข้ารับบริการจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย - CoolSculpting ใช้เวลาน้อย เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา
ใช้เวลาเพียง 35 นาทีต่อการรักษา 1 ครั้ง โดยสามารถทำงานบนโทรศัพท์มือถือหรือผ่อนคลายระหว่างการทำได้ - CoolSculpting สามารถเห็นผลได้ใน 3-4 สัปดาห์
หลังการทำครั้งแรก ไขมันจะลดลง 27-31% และสามารถเห็นผลชัดเจนภายใน 3 เดือน
ขั้นตอนการทำ CoolSculpting
- ปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะประเมินบริเวณที่ต้องการลดไขมันและวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
- เตรียมตัวก่อนทำCoolSculpting ผู้ช่วยแพทย์จะทำความสะอาดบริเวณผิว ชั่งน้ำหนัก และวัดสัดส่วน
- เริ่มทำ CoolSculpting แพทย์จะทำการติด Applicator ลงบนบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน จากนั้นจะทำการสลายไขมันด้วยความเย็นจัด โดยจะมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ
- ระหว่างการทำ CoolSculpting ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกเย็นบนผิวและแรงดูดจาก Applicator แต่ไม่เจ็บ พร้อมกับความรู้สึกผ่อนคลาย
- หลังการทำ CoolSculpting อาจมีอาการแดง บวม หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองในระยะเวลาสั้น ๆ
CoolSculpting ต่างจากการสลายไขมันแบบอื่นอย่างไร?
- CoolSculpting เทียบกับการฉีดสลายไขมัน
การฉีดสลายไขมันอาจทำให้เกิดรอยช้ำจากเข็ม และต้องทำหลายครั้งจึงเห็นผล ในขณะที่ CoolSculpting เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกและไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง - CoolSculpting เทียบกับการออกกำลังกาย
แม้การออกกำลังกายจะช่วยลดไขมันได้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา CoolSculpting เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะใช้เวลาเพียง 35 นาที และยังสามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น - CoolSculpting เทียบกับ Carboxy Therapy
Carboxy Therapy ต้องทำซ้ำหลายครั้งถึงจะเห็นผล และมักมีความเจ็บปวดจากการฉีด ในขณะที่ CoolSculpting สลายไขมันได้อย่างยั่งยืนและไม่เจ็บ - CoolSculpting เทียบกับเครื่องนวดกระชับสัดส่วน
การนวดกระชับสัดส่วนให้ผลลัพธ์ชั่วคราวและไม่ได้กำจัดไขมันออกจากร่างกาย ในขณะที่ CoolSculpting ฆ่าและขจัดเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร
CoolSculpting เหมาะกับใคร?
CoolSculpting เป็นตัวช่วยที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหมาะสำหรับกลุ่มคน ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดและลดได้ยาก
ผู้ที่แม้จะพยายามควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้ว แต่ยังคงมีไขมันสะสมในบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง เอว ต้นแขน หรือบริเวณต้นขา ไขมันส่วนเกินในบริเวณเหล่านี้มักเป็นปัญหาที่จัดการได้ยาก CoolSculpting สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
- ผู้ที่ต้องการรูปร่างที่ได้สัดส่วน
สำหรับผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนให้สมดุลและกระชับมากขึ้น เช่น ต้องการให้เอวบาง หน้าท้องแบน หรือขาดูเรียวสวย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าต่าง ๆ
- คุณแม่หลังคลอดที่อยากกลับมามีรูปร่างสวย
คุณแม่ที่เพิ่งผ่านการตั้งครรภ์และคลอดลูกมักมีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องหรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย CoolSculpting ช่วยลดไขมันสะสมและคืนความมั่นใจให้กลับมาได้
- ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
สำหรับผู้ที่มีตารางงานแน่น ไม่มีเวลาสำหรับการออกกำลังกาย หรือดูแลสุขภาพในรูปแบบอื่น ๆ CoolSculpting ใช้เวลาเพียง 35 นาทีต่อครั้ง และสามารถทำในระหว่างพักผ่อนหรือทำงานบนโทรศัพท์มือถือได้
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันอย่างยั่งยืน
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ ด้วยการทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร CoolSculpting หากควบคุมน้ำหนักและพฤติกรรมการกินที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
CoolSculpting จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างและกำจัดไขมันเฉพาะจุดอย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และไม่ต้องใช้เวลานานในแต่ละครั้ง
CoolSculpting ไม่เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีโรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็น
- ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีอาการเลือดแข็งตัวผิดปกติ หรือเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมันด้วยความเย็นกับ CoolSculpting
เมื่อเริ่มต้นการทำ CoolSculpting ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกได้ถึงความเย็นที่บริเวณผิวหนังในพื้นที่ที่ติด Applicator โดยความเย็นดังกล่าวจะอยู่ในระดับที่สามารถทนได้ ไม่สร้างความเจ็บปวด นอกจากนี้ ยังมีความรู้สึกเหมือนผิวหนังถูกดูดเบา ๆ ในบริเวณที่ Applicator ถูกติดตั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของเครื่อง และในบางกรณีความรู้สึกนี้อาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
CoolSculpting เจ็บไหม?
ในระหว่างการทำ CoolSculpting ผู้เข้ารับบริการสามารถปรึกษาหรือแจ้งความกังวลกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา เช่น ความรู้สึกเย็นเกินไป หรือการกดดันของ Applicator เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม นอกจากนี้ ผู้เข้ารับบริการสามารถนั่งพักผ่อน ดูโทรศัพท์มือถือ หรืออ่านหนังสือในระหว่างการทำได้ เนื่องจากการรักษาใช้เวลาเพียง 35 นาทีต่อครั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและสะดวกสบาย
ความรู้สึกโดยรวมระหว่างทำ CoolSculpting จึงถูกออกแบบให้เป็นประสบการณ์ที่สะดวก ผ่อนคลาย และมีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาจะเริ่มปรากฏภายในไม่กี่สัปดาห์และชัดเจนที่สุดภายใน 3 เดือน ทำให้ CoolSculpting เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการลดไขมันอย่างยั่งยืน
สรุป
CoolSculpting เป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดอย่างปลอดภัย เห็นผลจริง และใช้เวลาน้อย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการรับรองจากมาตรฐานระดับโลก ทำให้มีหุ่นสวยในฝันได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
เมทัลชีท PU คืออะไร? วัสดุที่เหมาะสำหรับบ้านและอาคาร
[ด่วน!] ใกล้สิ้นปีแล้ว จองสถานที่จัดเลี้ยงบริษัท ขอนแก่น ที่ "ร้านคัม" ริมบึงหนองโคตร บรรยากาศดี โปรฯเพียบ!
ทริคประหยัดค่าไฟสูงสุดถึง 50% ต่อเดือน แค่ใช้แอร์ให้ถูกวิธี!


