ความเหงา ภัยคุกคามสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ
ความเหงา (Loneliness) เป็นความรู้สึกหนึ่งของมนุษย์ ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ว่าตนขาดการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยกว่าที่ตนต้องการ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ ปฏิกิริยาโต้ตอบทางอารมณ์ต่อความรู้สึกโดดเดี่ยว
ประเภทของความเหงา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.ความเหงาแบบชั่วคราว (Transient Loneliness) หรือจะเรียกว่า ความเหงาในชีวิตประจำวัน (Everyday Loneliness) เป็นความเหงาที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว เป็นความเหงาประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด แต่อาจจะไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก
2.ความเหงาจากสถานการณ์ (Situational Loneliness) เป็นความเหงาที่มักจะเกิดขึ้นหลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิต อย่างเช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก การหย่าร้าง การจบความสัมพันธ์กับใครสักคน หรือการย้ายถิ่นฐานของคนที่มีความผูกพันต่อกัน
3.ความเหงาแบบเรื้อรัง (Chronic Loneliness) เป็นความเหงาที่เกิดขึ้นในเวลาที่เราเกิดความรู้สึกไม่พึงพอใจในความสัมพันธ์ของตนกับผู้อื่นเป็นระยะเวลายาวนานติดต่อกัน และไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นได้ ความเหงาประเภทนี้มักเกิดขึ้นกับคนที่มีปัญหาในด้านการปรับตัว
ผลกระทบของความเหงา
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผลการศึกษาวิจัย พบว่า ผู้ใหญ่ในวัยสูงอายุจะมีความดันโลหิตสูงขึ้นเมื่อมีความรู้สึกเหงา
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ อย่างเช่น การสูบบุหรี่ และการใช้สารเสพติด
- ส่งผลต่อคุณภาพการนอน ทำให้มีคุณภาพในการนอนไม่ดี และรบกวนการนอนหลับ ก่อให้เกิดปัญหาในช่วงระหว่างวันได้ รวมถึงความรู้สึกเซื่องซึม หรือการไม่มีเรี่ยวแรงในการทำอะไร
- ส่งผลต่อภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวล มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าความเหงาทำให้ผู้ใหญ่ในวัยสูงอายุมีอาการซึมเศร้ามากขึ้น
- ส่งผลให้มีความพึงพอใจในชีวิตต่ำ
- ระบบภูมิต้านทานอ่อนแอลงผลการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า ความเหงาอาจนำไปสู่ระบบภูมิต้านทานที่อ่อนแอลง มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรค หรือเกิดอาการติดเชื้อ ความเหงาอาจทำให้มีการอักเสบต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น การอักเสบเป็นเวลานาน มีส่วนเชื่อมโยงถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ อย่างเช่น โรคมะเร็ง และภาวะแทรกซ้อนจากโรคไต
- ส่งผลกระทบทางด้านสติปัญญาของผู้สูงอายุพบว่า ผู้ใหญ่ในวัย 65 ปีขึ้นไปที่มีความรู้สึกเหงา จะมีระดับสติปัญหาที่ลดลงได้เร็วกว่าผู้สูงอายุในวัยเดียวกันที่ไม่รู้สึกเหงาได้ถึงร้อยละ 20
- มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตมากขึ้นผลการศึกษาวิจัย พบว่า ผู้คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีนั้น มีความเสี่ยงที่จะตายด้วยเหตุผลผลใด ๆ ก็ตามน้อยกว่าคนที่ไม่มีความสัมพันธ์ถึงร้อยละ 50
เคล็ดลับป้องกันความรู้สึกเหงา
- รู้ไว้ว่า ความรู้สึกเหงา คือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้ว
- เข้าใจถึงผลกระทบที่ความรู้สึกเหงามีต่อชีวิตของเราทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทบทวนความรู้สึกที่เกิดขึ้นของตนว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น คือ ความเหงา ความเศร้า ความโดดเดี่ยว หรือเป็นความรู้สึกอะไร เพื่อทำความเข้าใจที่มาที่ไปของความรู้สึกที่เกิดขึ้น
- ลองหากิจกรรมการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ ทำ กิจกรรมพวกนี้ จะทำให้มีโอกาสได้เจอกับผู้คน และได้สานสัมพันธ์กับคนใหม่ ๆ มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
- ทำความรู้จักกับผู้คนที่มีทัศนคติ และความสนใจคล้าย ๆ กัน พัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างโดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพของตน บอกเล่าความรู้สึก เรื่องราวในชีวิตประจำวันกับความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ
- เลี้ยงสัตว์เลี้ยงการมีสัตว์เลี้ยงสักตัวจะทำให้เกิดความผูกพัน เกิดความสัมพันธ์ที่มีความหมาย และช่วยลดความเหงาลงไปได้
- พูดคุยปรึกษากับนักจิตวิทยาเพื่อหาวิธีรับมือกับความเหงาเพิ่มเติม





