หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อึ้ง! เมืองไทยเคยมีหิมะตกจริงดิ!? เปิดตำนาน ปริศนาหิมะเชียงราย ปี 2498

เนื้อหาโดย ความรู้มีอยู่ทั่วไป

สวัสดีเพื่อนๆ นักสำรวจเรื่องแปลกทั่วไทย! วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ หรือเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง นั่นก็คือเรื่องที่ว่า "ประเทศไทยเคยมีหิมะตก" ฟังดูเหลือเชื่อใช่มั้ยล่ะ? เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน แดดเปรี้ยงตลอดปี แล้วหิมะจะตกได้อย่างไร? แต่ก็มีตำนานเล่าขานกันว่าเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายหิมะตกที่จังหวัดเชียงรายเมื่อปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955) เรื่องนี้จริงหรือหลอก? เราจะมาไขปริศนานี้ไปด้วยกัน!

ตำนานหิมะเชียงราย ปี 2498: เรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมา

เรื่องราวนี้ถูกพูดถึงกันมานาน โดยมีการอ้างอิงถึงภาพถ่ายและรายงานข่าวในสมัยนั้น ที่ระบุว่าในวันที่ 7 มกราคม 2498 เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นที่เชียงราย หลังจากฝนตกเล็กน้อย อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และมีเกล็ดน้ำแข็งสีขาวคล้ายปุยหิมะตกลงมา ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นขาวโพลนไปทั่ว ทำให้หลายคนเชื่อว่านั่นคือ "หิมะ"

แล้วมันคือหิมะจริงๆ หรือ?

ถึงแม้จะมีภาพถ่ายและคำบอกเล่า แต่จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และหลักฐานอื่นๆ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเชียงรายเมื่อปี 2498 คือหิมะจริงๆ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือ "ลูกเห็บ" ซึ่งเกิดจากฝนที่ตกลงมาแล้วเจอกับอากาศเย็นจัด ทำให้เกิดการแข็งตัวเป็นก้อนน้ำแข็งตกลงมา

ทำไมถึงคิดว่าเป็นลูกเห็บมากกว่า?

แล้วทำไมถึงมีคนเชื่อว่าเป็นหิมะ?

อาจเป็นเพราะในสมัยนั้น การสื่อสารและข้อมูลยังไม่แพร่หลายเท่าปัจจุบัน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือการตีความที่คลาดเคลื่อน อีกทั้งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนในพื้นที่ ทำให้เกิดการเล่าต่อกันไปในลักษณะของตำนาน

บทสรุป: ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย

ถึงแม้ว่าเรื่อง "หิมะตกเชียงราย" จะยังคงเป็นปริศนาที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจและแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เราควรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล และอ้างอิงจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้เพื่อนๆ ได้รับความรู้และสนุกไปกับเรื่องเล่าในอดีตนะครับ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รักสะเทือนใจ! แม่ วัย 41 แต่งงานกับ ลูกชาย วัย 16 ของเพื่อนสนิท สิ้นสุดลงอย่างน่าเศร้า!บ่อน้ำมันดิบบนบก ที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดของไทยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ยืน 1 มหาวิทยาลัยภูมิภาค ดีที่สุดในด้าน GOVERNANCEวิโรจน์ เข้าพบตำรวจ หลังถูกขู่ยิงขณะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.จันทบุรี สุดท้ายคู่กรณีขอโทษ อ้างไม่ได้มีเจตนาดอกนางพญาเสือโคร่ง VS ดอกซากุระ เหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน?รู้หรือไม่? กรุงเทพฯ ก็เคยมีภูเขามาก่อน! เรื่องจริงที่หลายคนอาจไม่เคยรู้สุดล้ำ!! เปิดตัวแล้วรถ EV ญี่ปุ่นแรงจริง มาตรฐานสูง วิ่งได้ไกลถึง 480 kmเกิดเหตุประท้วงรุนแรงในมณฑลส่านซีของจีน หลังนักเรียนชายตกหอพักดับแบบมีเงื่อนงำวิหารน็อทร์-ดาม 'ฟื้นฟู' แล้ว! พิธีมิสซาครั้งแรกหลังไฟไหม้...ทำเป็นเก่ง!! คนขับซาเล้งโชว์เหนือ นอนขับไปเลยชิลๆ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง อันตรายคืออะไรไม่รู้จักGoogle กำลังจะเริ่มใช้ Digital fingerprinting ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า มันคืออะไร ไปดูกันโรงเรียนแห่งหนึ่งในจีน ให้นักเรียนเซ็นสัญญาว่า โรงเรียนไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ หากนักเรียนเครียดจากการเรียนจนฆ่าตัวตาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วิโรจน์ เข้าพบตำรวจ หลังถูกขู่ยิงขณะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.จันทบุรี สุดท้ายคู่กรณีขอโทษ อ้างไม่ได้มีเจตนารักสะเทือนใจ! แม่ วัย 41 แต่งงานกับ ลูกชาย วัย 16 ของเพื่อนสนิท สิ้นสุดลงอย่างน่าเศร้า!ลืมซื้อลอตเตอรี่! เพื่อนต่อยกันหน้าร้าน หลังตัวเลขที่ถูกใจกลายเป็นรางวัลใหญ่วิหารน็อทร์-ดาม 'ฟื้นฟู' แล้ว! พิธีมิสซาครั้งแรกหลังไฟไหม้...
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
Saloon "ไม่ได้มีแค่อาหารฟรี และเครื่องเดิมนะจ๊ะ"บาร์ยุคคาวบอยที่เป็นยิ่งกว่าศูนย์รวมความบันเทิงของชุมชนโรงเรียนแห่งหนึ่งในจีน ให้นักเรียนเซ็นสัญญาว่า โรงเรียนไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ หากนักเรียนเครียดจากการเรียนจนฆ่าตัวตายนักวิจัยจีนได้คิดค้นวัสดุชนิดใหม่ เปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อม เหมือนล่องหนได้Google กำลังจะเริ่มใช้ Digital fingerprinting ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า มันคืออะไร ไปดูกัน
ตั้งกระทู้ใหม่